การทำเครื่องหมายกางเขนการทำเครื่องหมายกางเขน[1] หรือที่ชาวคาทอลิกเรียกว่า การทำสำคัญมหากางเขน[2] (อังกฤษ: Sign of the Cross; ละติน: Signum Crucis) เป็นรูปแบบการปฏิบัติอย่างหนึ่งของผู้นับถือศาสนาคริสต์ โดยมักมีการกล่าว "เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน" ประกอบด้วย การทำเช่นนี้เป็นการระลึกถึงการตรึงกางเขนของพระเยซู แบบดั้งเดิมทำจากขวาไปซ้าย ซึ่งใช้โดยสมาชิกคริสตจักรอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์และคริสตจักรคาทอลิกตะวันออก[3] ส่วนแบบใหม่ทำจากซ้ายไปขวาใช้โดยคริสตจักรคาทอลิก[4] แองกลิคัน[5] ลูเทอแรน[6] และโอเรียนทัลออร์โธด็อกซ์ ธรรมเนียมปฏิบัตินี้สันนิษฐานว่าเริ่มมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 แล้ว[2] ความสำคัญเพราะว่าเวลาทำเครื่องหมายกางเขนจะต้องกล่าวเดชะพระนามฯ ด้วย การทำเช่นนี้จึงเป็นการแสดงความเชื่อถึงพระตรีเอกภาพว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน[7] นอกจากนี้ยังมีความหมายอื่น ๆ หลายประการด้วยกัน คือ เป็นการแสดงว่าตัวผู้ทำนั้นถวายตัวแก่พระเยซู เป็นการวิงวอนขอพระหรรษทานจากพระเจ้า และใช้เป็นการอวยพรบุคคลก็ได้ นอกจากนี้เวลาชาวคริสต์รู้สึกว่าตนกำลังเผชิญหน้ากับ "การผจญของมาร" การทำเครื่องหมายกางเขนเป็นการเตือนสติแก่ตนและยืนยันถึงพระอานุภาพของพระเจ้าในการต่อสู้กับสิ่งชั่ว[2] ชาวคริสต์ทำเครื่องหมายนี้เมื่อร่วมสวดมนต์ ส่วนบาทหลวงเวลาประกอบพิธีมิสซาหรือพิธีอื่น ๆ ก็ทำเครื่องหมายนี้เช่นเดียวกัน การทำเครื่องหมายกางเขนของนิกายออร์ทอดอกซ์การทำเครื่องหมายกางเขนของชาวคริสเตียนออร์ทอดอกซ์เป็นการระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า และพระตรีเอกภาพ โดยจะนำนิ้วมือของมือขวามาประจบกัน แล้วจะแนบนิ้วนาง และนิ้วก้อยให้ชิดกับฝ่ามือ โดยจะทำจากขวาไปซ้าย เริ่มจากหน้าผาก, ท้อง และไหล่ข้างขวา และซ้าย ตามลำดับ พร้อมกล่าวว่า "ในพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิตเจ้าผู้ทรงศักดิ์สิทธิ์ อาเมน" [8] ความหมายของการทำเครื่องหมายกางเขนของนิกายออร์ทอดอกซ์สามนิ้วแรก (นิ้วโป้ง, นิ้วชี้ และนิ้วกลาง) จะแสดงถึงความเชื่อต่อพระบิดา พระบุตร และพระจิตเจ้า และยังหมายถึงการเป็นหนึ่งเดียวของพระตรีเอกภาพอีกด้วย และสองนิ้วที่เหลือจะแสดงถึงธรรมชาติของพระเยซูคือพระเยซูเจ้าทรงมีความเป็นมนุษย์แท้ และพระเจ้าแท้ ในการทำสัญลักษณ์ไม้กางเขน จะใช้มือของแตะที่หน้าผาก, ท้อง (หรือบริเวณสะดือ), และไหล่ขวาซ้าย โดยความหมายของการแตะหน้าผาก คือการให้ศีลพรแห่งความศักดิ์สิทธิ์แก่จิตใจ ท้อง คือการให้ศีลพรแห่งความศักดิ์สิทธิ์แก่ประสาทสัมผัสภายใน หัวใหล่ด้านขวาซ้าย คือการให้ศีลพรแห่งความศักดิ์สิทธิ์แก่ความแข็งแรงของร่างกาย [9]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|