ครีเอทีฟคอมมอนส์
ครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC) เป็นองค์กรไม่แสวงกำไรที่สนับสนุนการใช้เนื้อหาโดยไม่ถูกจำกัดจากสัญญาอนุญาต สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์จะเอื้อให้มีการใช้สื่อทั้งทางภาพ เสียง ข้อมูล โดยการแบ่งแยกสัญญาอนุญาตย่อยออกสำหรับการแจกจ่ายและการใช้ข้อมูล โดยการอ้างอิงถึงเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม ครีเอทีฟคอมมอนส์ก่อตั้งโดย ลอว์เรนซ์ เลสสิก ซึ่งปัจจุบันบริหารงานโดย โจอิจิ อิโต (จอย อิโต) เป้าหมายสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ ช่วยให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถให้สิทธิบางส่วนหรือทั้งหมดแก่สาธารณะ ในขณะที่ยังคงสงวนสิทธิอื่นๆไว้ได้ โดยการใช้สัญญาอนุญาตหลายหลากรูปแบบ ซึ่งรวมถึง การยกให้เป็นสาธารณสมบัติหรือสัญญาอนุญาตแบบเปิดทั้งหลาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาลิขสิทธิ์ต่อการแบ่งปันสารสนเทศ ครีเอทีฟคอมมอนส์ในประเทศต่าง ๆโครงการ ครีเอทีฟคอมมอนส์อินเตอร์เนชันแนล (Creative Commons International ย่อว่า CCi) เป็นโครงการที่จัดตั้งโดยครีเอทีฟคอมมอนส์ เพื่อให้มีการจัดการกฎหมายคอมพิวเตอร์ให้สอดคล้องกับกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ในปัจจุบัน (3 เมษายน พ.ศ. 2552) มีทั้งหมด 51 ประเทศ (รวมทั้งประเทศไทย) ที่ได้จัดทำโดยสมบูรณ์ และอีก 8 ประเทศที่อยู่ในระหว่างการจัดทำ[3] สำหรับสัญญาครีเอฟทีฟคอมมอนส์ในภาษาไทย จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของ สำนักกฎหมายธรรมนิติ สถาบัน ChangeFusion และสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[4] โดยรองรับตามหลักเกณฑ์ครีเอทีฟคอมมอนส์ รุ่น 3.0 และปรับให้เข้ากับกฎหมายลิขสิทธิ์ไทย จึงสามารถใช้บังคับได้ตามกฎหมายไทย ประกาศเปิดตัวเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552 เป็นลำดับที่ 51 ของโลก[5] ชนิดของสัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบ่งได้เป็น 6 ชนิดใหญ่ดังนี้[6]
โดยเงื่อนไขในการให้อนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์มีอยู่ 4 เงื่อนไข คือ
ครีเอทีฟคอมมอนส์เวอร์ชันปัจจุบันนั้นอนุญาตให้ "สิทธิหลัก" ในการเผยแพร่ผลงานโดยไม่นำไปใช้เพื่อการค้า และห้ามดัดแปลง การใส่เงื่อนไข NC และ ND นี้ ทำให้งานชิ้นนั้นเป็นงานที่ไม่เสรี สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ได้แก่ CC0 หรือ "ไม่สงวนลิขสิทธิ์" (No Rights Reserved)[7] สำหรับซอฟต์แวร์ ครีเอทีฟคอมมอนส์ใช้สัญญาอนุญาตเสรี 3 ชนิดที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยสถาบันอื่น ได้แก่ BSD License, CC GNU LGPL license, และ CC GNU GPL.[8][9] ดูเพิ่มอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|