Share to:

 

ชินาลังการ

ชินาลังการ

ชินาลังการ คือวรรณกรรมภาษาบาลีประเภทร้อยกรอง เพื่อสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า คัมภีร์นี้เป็นที่ยอมรับของนักวิชาการมาโดยตลอดนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่า มีคุณค่าทางวรรณศิลป์ มีการใช้ภาษาที่งดงามแยบคาย มีลีลาการประพันธ์ที่กระชับ มีความทรงพลัง มีจังหวะที่ไพเราะสละสลวย นับเป็นยอดแห่งวรรณกรรมประเภทร้อยกรองที่รจนาขึ้นเพื่อพรรณนาพระพุทธคุณ [1]


ผู้รจนา

มีมติแบ่งออกเป็น 2 สายเกี่ยวกับผู้รจนาคัมภีร์นี้ สายแรกระบุว่า พระพุทธรักขิตะเป็นผู้รจนา ขณะที่อีกสายระบุว่า พระพุทธทัตตะเป็นผู้รจนา พระคันธสาราภิวงศ์ ผู้แปลชินาลังการฉบับปี 2552 ระบุว่า พระพุทธรักขิตะชาวโรหนชนบทในเกาะลังกาเป็นผู้รจนาเมื่อพุทธศตวรรษที่ 17 โดยชี้ว่า ตอนท้ายของคัมภีร์ (คาถาที่ 273 - 275) ระบุนามพระพุทธรักขิตะเป็นผู้รจนาชินาลังการ [2]

ขณะที่ Kenneth Roy Norman แสดงทัศนะว่า ผู้ที่รจนาน่าจะเป็นพระพุทธทัตตะ โดยอ้างหลักฐานจากคัมภีร์คันธวงศ์ ที่ระบุว่า ชินาลังการรจนาขึ้นโดยพระพุทธทัตตะตามคำอาราธนาของพระสังฆปาลเถระ นอกจากนี้คัมภีร์คันธวงศ์ยังระบุว่า คัมภีร์ฎีกาของชินาลังการซึ่งใช้ชื่อเดียวกันนั้น รจนาขึ้นโดยพระพุทธรักขิตะ พร้อมทั้งระบุว่า ด้วยว่า ฎีกาฉบับใหม่ หรือ นวะฎีกา ของคัมภีร์นี้ รจนาขึ้นโดยพระภิกษุชาวสิงหลนิรนามรูปหนึ่ง [3]

อย่างไรก็ตาม ในคัมภีร์สัทธัมมสังคหะ กลับระบุในบานแผนกว่า ผู้รจนาชินาลังการ คือพระพุทธรักขิตะเมื่อพ.ศ. 1700 ซึ่ง Kenneth Roy Norman ระบุว่า บานแผนกนี้ได้ถูกอ้างอีกครั้งในคัมภีร์ชินากาลมาลี แล้วยังมีการอ้างถึง ชินาลังการวัณณะนา Norman ใช้หลักฐานนี้ยืนยันว่า ชินลังการน่าจะแต่งขึ้นโดยพระพุทธทัตตะมากกว่า ส่วนพระพุทธรักขิตะ น่าจะเป็นผู้รจนาชินาลังการวัณณะนา หรือชินาลังการฎีกา [4]

กระนั้น ก็ยังมีประเด็นปัญหาอยู่ว่า พระพุทธทัตตะท่านใดที่รจนาชินาลังการ ระหว่างพระพุทธทัตตะผู้รจนาคัมภีร์บรรยายสังเขปเนื้อหาในพระวินัยและพระอภิธรรม และพระพุทธทัตตะ ชาวแคว้นโจฬะ ในอินเดียใต้ ผู้รจนาคัมภีร์มธุรัตถะวิลาสินี อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นส่วนใหญ่โน้มเอียงไปทางท่านหลังมากกว่า [5] [6]

เนื้อหา

คัมภีร์ชินาลังการ แปลว่า เครื่องประดับพระชินเจ้า เพื่อสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระพุทธเจ้า เริ่มตั้งแต่การสร้างบารมี 30 ทัศหลังจากที่ได้รับพุทธพยากรณ์เมื่อเสวยพระชาติเป็นสุเมธดาบส ในศาสนาของพระทีปังกรพุทธเจ้า จนถึงการประสูติ เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ การตรัสรู้ การประกาศพระศาสนา และการปรินิพพาน [7]

นอกจากนี้ เนื้อหาในคัมภีร์ยังมีการสอดแทรกข้อธรรมที่เกี่ยวเนื่องจากพุทธประวัติและพระเกียรติคุณของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรำลึกถึงพระคุณของพระองค์ ในฐานะพุทธานุสสติ เพื่อเป็นแบบอย่างในการบำเพ็ญเพียร เพื่อขจัดอกุศลมูลทั้งหลาย


ลักษณะทางวรรณกรรม

คัมภีร์นี้ใช้คาถาแต่งเป็นกลบท คล้ายคลึงกับงานวรรณกรรมภาษาของกาลีทาส, ภารวิ และมาฆะ กวีเอกสมัยศตวรรษที่ 5 ศตวรรษที่ 6 และศตวรรษที่ 7 ที่ใช้ภาษาสันสกฤตในการรจนาผลงาน จึงคาดว่าท่านผู้รจนาคัมภีร์ชินาลังการอาจได้รับอิทธิพลจากบรรดากวีสันสกฤตเหล่านี้ [8]

ลักษณะเด่นในทางวรรณกรรมของชินาลังการคือการใช้สัมผัสใน (ปทาสัตติ) การใช้เสียงซ้ำ (อนุปปาสะ) การใช้คำซ้ำ (ยมก) การใช้คำที่อ่านออกเสียงเหมือนกันจากซ้ายไปขวา หรือจากขวาไปซ้ายของแต่ละคาถา (ปฏิโลมยมก) การใช้พยัญชนะซ้ำกัน การใช้บาทคาถาหลัง มีเสียงเหมือนบาทหน้า (ปฏิโลมกะ) การใช้อักษรที่มีฐานเสียงเดียวกันในคาถานั้นๆ (สมตา) และการผูกบทหลายบทเป็นบทสมาสยาวๆ [9]


อ้างอิง

  1. พระคันธสาราภิวงศ์. (2552)
  2. พระคันธสาราภิวงศ์. (2552)
  3. Kenneth Roy Norman. (1983)
  4. Kenneth Roy Norman. (1983)
  5. T. N. RAMACHANDRAN. The History of Buddhism in the Tamil Kingdoms of South India
  6. G.P. Malalasekera. (2007)
  7. พระคันธสาราภิวงศ์. (2552)
  8. พระคันธสาราภิวงศ์. (2552)
  9. พระคันธสาราภิวงศ์. (2552)

บรรณานุกรม

  • พระคันธสาราภิวงศ์. (2552). ชินาลังการ. กรุงเทพฯ. ประยูรสาส์นไทย การพิมพ์.
  • Kenneth Roy Norman. (1983). A History of Indian Literature, Volume VII. Wiesbaden. Otto Harrassowitz.
  • T. N. RAMACHANDRAN. The History of Buddhism in the Tamil Kingdoms of South India. http://infolanka.com/org/srilanka/hist/85.htm
  • G.P. Malalasekera. (2007). Dictionary of Pali Proper Names VOL I. Delhi. Motilal Banarsidass.
Kembali kehalaman sebelumnya