บริเวณบรอดมันน์บริเวณบรอดมันน์ (อังกฤษ: Brodmann area) เป็นการกำหนดเขตต่าง ๆ ในเปลือกสมองของมนุษย์ มีการจำกัดขอบเขตโดยโครงสร้างและการจัดระเบียบของเซลล์ (cytoarchitectonics) ประวัติบริเวณบรอดมันน์ต่าง ๆ ดั้งเดิมได้รับการกำหนดขอบเขตและกำหนดตัวเลข โดยนักประสาทวิทยาชาวเยอรมันชื่อว่า คอร์บีนาน บรอดมันน์ (Korbinian Brodmann) ผู้กำหนดเขตเหล่านั้นโดยโครงสร้างและการจัดระเบียบของเซลล์ (cytoarchitectonics) ที่สังเกตเห็นได้ในเปลือกสมอง โดยใช้การย้อมสีแบบ Nissl บร็อดแมนน์ตีพิมพ์แผนที่เขตเปลือกสมองของมนุษย์ ลิง และสปีชีส์อื่น ๆ ใน ค.ศ. 1909[1] พร้อมกับข้อมูลและข้อสังเกตอื่น ๆ เกี่ยวกับประเภทของเซลล์ในสมอง และการจัดระเบียบเป็นชั้น ๆ ของคอร์เทกซ์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (ให้สังเกตว่า บริเวณบรอดมันน์ที่มีหมายเลขเดียวกันในสปีชีส์ต่าง ๆ กัน อาจจะไม่ได้หมายถึงเขตที่มีกำเนิดเดียวกัน[2]) คอนสแตนติน วอน อีโคโนโม และจอร์จ คอสกินาส ได้ตีพิมพ์แผนที่ที่คล้าย ๆ กันแต่มีรายละเอียดมากกว่า ใน ค.ศ. 1925[3] ความสำคัญในปัจจุบันเป็นระยะเวลาเป็นศตวรรษที่มีการสนทนาและอภิปรายถึงบริเวณบรอดมันน์อย่างละเอียดถี่ถ้วน และการกำหนดเขตและชื่อก็ได้รับการปรับปรุงมาโดยตลอด บริเวณบรอดมันน์ยังเป็นการจัดระบบโดย cytoarchitectonics ของเปลือกสมองมนุษย์ ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางและอ้างอิงถึงมากที่สุด จนกระทั่งถึงปัจจุบัน บริเวณบรอดมันน์ต่าง ๆ ที่กำหนดขอบเขตโดยระเบียบของเซลล์ประสาทเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ปรากฏว่าทำกิจหน้าที่ต่าง ๆ มากมายของสมอง ยกตัวอย่างเช่น บริเวณบรอดมันน์ 1-2-3 ก็คือ คอร์เทกซ์รับความรู้สึกทางกายปฐมภูมิ (primary somatosensory cortex) เขต 4 ก็คือ คอร์เทกซ์สั่งการปฐมภูมิ (primary motor cortex) เขต 17 ก็คือ คอร์เทกซ์การเห็นปฐมภูมิ (primary visual cortex) และเขต 41-42 ก็เกือบจะเหมือนคอร์เทกซ์การได้ยินปฐมภูมิ (primary auditory cortex) นอกจากนั้นแล้ว กิจหน้าที่ระดับสูง ๆ ยิ่งขึ้นไปของเขตสัมพันธ์ในเปลือกสมอง ก็ยังปรากฏว่ามีเขตจำกัดอยู่ในเขตที่บรอดมันน์กำหนดไว้ ปรากฏโดยใช้วิธีต่าง ๆ รวมทั้ง เทคนิคทางประสาทสรีรวิทยา fMRI และวิธีอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น เขตโบรคา ซึ่งเป็นเขตทางการพูดและภาษา ก็จำกัดอยู่ในบริเวณบรอดมันน์ 44-45 ถึงแม้กระนั้น การสร้างภาพโดยกิจ (functional imaging) ก็สามารถเพียงแค่บ่งชี้ตำแหน่งอย่างคร่าว ๆ ของการทำงานในสมองโดยสัมพันธ์กับบริเวณบรอดมันน์ได้เท่านั้น เพราะว่า ขอบเขตจริง ๆ ของเขตสมองต่าง ๆ ต้องอาศัยการตรวจสอบโดยอ้างอิงวิทยาเนื้อเยื่อ บริเวณบรอดมันน์ในมนุษย์และในไพรเมตอื่น
(*) เขตที่เจอในไพรเมตที่ไม่ใช่มนุษย์เท่านั้น บริเวณบรอดมันน์ดั้งเดิมมีส่วนย่อยลงไปอีกเป็นต้นว่า "23a" และ "23b"[5] แผนที่คลิกได้: ผิวสมองด้านข้างแผนที่คลิกได้: ผิวสมองส่วนใน (medial)ข้อวิจารณ์เมื่อวอน โบนิน และเบล์ลี ทำแผนที่สมองในลิงมาคาก จึงพบว่าการพรรณนาของบรอดมันน์นั้นไม่สมบูรณ์พอ จึงได้บันทึกไว้ว่า[6]
และจึงได้ใช้แผนที่ cytoarchitectonics ของ คอนสแตนติน วอน อีโคโนโม และจอร์จ คอสกินาส ที่พิมพ์ใน ค.ศ. 1925[3] ซึ่งมี
ดูเพิ่มเชิงอรรถและอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ บริเวณบรอดมันน์
|