ปากแหว่งเพดานโหว่
ปากแหว่ง (อังกฤษ: cleft lip; ละติน: cheiloschisis) และเพดานโหว่ (อังกฤษ: cleft palate; ละติน: palatoschisis) หรือมักเรียกรวมกันว่าปากแหว่งเพดานโหว่ เป็นความผิดปกติแต่กำเนิดของการเจริญของใบหน้าระหว่างการตั้งครรภ์ การรักษาผู้ป่วยที่พิการปากแหว่งเพดานโหว่ทำโดยการผ่าตัดทันทีหลังคลอด อัตราผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่เกิดราว 1 ในทารกแรกเกิด 600-800 คน ปากแหว่งถ้ารอยแยกนั้นไม่ถึงส่วนเพดานปาก จะเรียกความผิดปกตินี้ว่า ปากแหว่ง หากเกิดที่ด้านบนของริมฝีปากในลักษณะช่องว่างเล็กๆ หรือเว้าเล็กน้อยเรียกว่า ปากแหว่งไม่สมบูรณ์ หรือปากแหว่งบางส่วน (partial or incomplete cleft) แต่หากรอยแยกนี้ต่อเนื่องไปถึงจมูกเรียกว่า ปากแหว่งสมบูรณ์ (complete cleft) ปากแหว่งอาจเกิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ปากแหว่งมีสาเหตุจากการเชื่อมของขากรรไกรบนและส่วนยื่นจมูกด้านใกล้กลาง (medial nasal processes) เพื่อเป็นเพดานปากปฐมภูมิ (primary palate) ไม่สมบูรณ์
ปากแหว่งรูปแบบหนึ่งเรียกว่า microform cleft ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่า มีลักษณะเป็นรอยเล็กๆ บนริมฝีปากหรือมีลักษณะคล้ายแผลเป็นจากริมฝีปากไปยังจมูก ในบางรายกล้ามเนื้อหูรูดปากใต้แผลเป็นนั้นอาจผิดปกติซึ่งต้องได้รับการผ่าตัด ทารกที่เกิดมามีความผิดปกติดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับการประเมินความรุนแรงจากแพทย์ด้านใบหน้าและปากทันที
เพดานโหว่เพดานโหว่ เป็นภาวะที่แผ่นกระดูกของกะโหลกศีรษะที่ประกอบเป็นเพดานแข็ง 2 แผ่นไม่เชื่อมกัน อาจมีช่องโหว่ของเพดานอ่อนได้ด้วยเช่นกัน ผู้ป่วยส่วนมากมักมีปากแหว่งร่วมด้วย เพดานโหว่เกิดราว 1 ในทารกแรกเกิดมีชีพ 700 คนทั่วโลก[1] เพดานโหว่แบ่งออกเป็นชนิดสมบูรณ์ (คือมีรอยแยกทั้งเพดานแข็งและเพดานอ่อน บางครั้งอาจมีที่ขากรรไกรด้วย) หรือชนิดไม่สมบูรณ์ (คือมีช่องอยู่ที่เพดานปาก มักเป็นที่เพดานอ่อน) ผู้ป่วยเพดานโหว่มักมีลิ้นไก่แฉก เพดานโหว่มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของการเชื่อมของส่วนยื่นเพดานปากด้านข้าง (lateral palatine processes) , ผนังกลางจมูก (nasal septum) , และ/หรือส่วนยื่นเพดานปากกลาง (median palatine processes) เพื่อเป็นเพดานปากทุติยภูมิ (secondary palate) ช่องที่เพดานปากที่เกิดจากเพดานโหว่ทำให้ช่องปากเชื่อมโดยตรงกับโพรงจมูก ภาพต่อจากนี้แสดงเพดานปาก โดยด้านบนของภาพคือจมูก ริมฝีปากแสดงด้วยสีชมพู โดยภาพดังกล่าวจะไม่แสดงฟันเพื่อให้เห็นโครงสร้างเพดานโหว่ชัดเจน
ผลจากการมีช่องเชื่อมระหว่างช่องปากและโพรงจมูกคือ เพดานอ่อนและคอหอยบกพร่อง (velopharyngeal insufficiency, velopharyngeal inadequacy; VPI) ช่องดังกล่าวทำให้อากาศรั่วไปยังโพรงจมูกทำให้เมื่อพูดจะเกิดเสียงก้องขึ้นจมูก และเกิด nasal emission (อากาศจากปากผ่านช่องเพดานปากระหว่างการออกเสียงพยัญชนะที่ต้องอาศัยความดันในปาก) [2] ผลตามมาจากอาการดังกล่าวทำให้ออกเสียงไม่ชัด เช่น เสียงเพี้ยน และต้องออกเสียงแบบอื่นชดเชย เช่น ใช้เสียงกัก เส้นเสียงหรือเสียงเสียดแทรกหลังโพรงจมูก[3] ทางเลือกในการรักษาคือการบำบัดวจีเภท (speech therapy) , การใช้อุปกรณ์เทียม, การเสริมผนังหลังคอหอย, การเพิ่มความยาวเพดานปาก และการผ่าตัด[2] เพดานโหว่ใต้ชั้นเยื่อเมือก (Submucous cleft palate; SMCP) อาจเกิดขึ้นได้ โดยมีลักษณะเพดานโหว่ซ่อนอยู่ในส่วนเพดานอ่อน ร่วมกับมีอาการสามอย่างได้แก่ลิ้นไก่ 2 แฉก, มีรอยบากที่เพดานแข็งและโซนา เพลลูซิดา (zona pellucida) อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ ปากแหว่งเพดานโหว่ |