พระครูไพศาลสารธรรม (ปี่ อินฺทโชโต)
พระครูไพศาลสารธรรม (หลวงพ่อปี่ อินฺทโชโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกท่าเจริญ และอดีตเจ้าคณะอำเภอพานทอง เขต 2 ท่านเป็นพระเกจิดังของอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ท่านพัฒนาวัดโคกท่าเจริญ จนมีความเจริญในหลาย ๆ ด้าน เช่น สร้างพระอุโบสถ์ ฯลฯ หลวงพ่อปี่ ท่านเก่งด้านไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ การทำนายของหาย การเล่นแร่แปรธาตุ เป็นต้น ประวัติหลวงพ่อปี่ ท่านมีนามเดิมว่า " เล่าปี่ " นามสกุล " ทองสงวน " เกิดวันอาทิตย์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ปีขาล ตรงกับวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2433 เกิดที่บ้านสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี บิดาชื่อ นายอาน มารดาชื่อ นางรอด ทองสงวน[1] ครั้นเจริญวัยแล้วได้ติดตามบิดามารดามาอยู่ที่บ้านท่าตะกูด ตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี บิดาได้ส่งไปเรียนหนังสือไทยที่โรงเรียนวัดกลาง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา อุปสมบทจนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้อุปสมบท ณ วัดโคกท่าเจริญ ตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี เมื่อวันเสาร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 8 ปี ตรงกับวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2453 โดยมี
ท่านได้รับฉายาทางธรรมว่า " อินฺทโชโต " หลวงพ่อปี่ เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสแล้ว ได้บริหารวัดโคกท่าเจริญ มีการสร้างเสนาสนะต่าง ๆ การก่อสร้างเสนาสนะนั้น กำนันทอง สหายา ซึ่งเป็นกำนันตำบลพานทอง พร้อมด้วยญาติ และประชาชน เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมา หลวงพ่อปี่ ท่านเรียนวิชาความรู้หลายอย่าง ทั้งทางไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ แม้การเล่นแร่แปรธาตุ ทำกะปิ น้ำปลา ท่านทำเพื่อให้เห็นความเป็นจริงแล้วก็หยุด ใครมาขอเรียนวิชานั้น ท่านก็ไม่ยอมให้เรียน วิชาทั้งหลายเมื่อท่านสิ้นไปแล้ว วิชานั้นก็สิ้นตามท่านไปด้วย วิชาโหราศาสตร์ จะแม่นยำมาก นอกจากทำนายของหายให้พบแล้ว ยังทำนายการสงครามระหว่างประเทศได้ถูกต้อง ในสมัยสงครามญี่ปุ่น นายชิต ชื่นชูเวช นายอำเภอพานทอง ก็เป็นนักโหราศาสตร์ เมื่อคุยกันแล้ว ก็คุยกันถึงเรื่องสงคราม มีการทำนายกันว่า เมื่อไรสงครามจะยุติ หลวงพ่อปี่ ทำนายไว้แล้วเขียนใส่ตลับเก็บไว้ เมื่อสงครามยุติมาเปิดตลับดู ก็เป็นจริงดังที่หลวงพ่อปี่ได้ทำนายไว้ จึงเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องการดูหมอดูสิ่งต่าง ๆ การศึกษา
วิทยฐานะ
งานด้านการปกครอง
สมณศักดิ์
งานด้านการพัฒนา
มรณภาพหลวงพ่อปี่ ท่านชราภาพมากแล้ว มีโรคประจำตัวคือโรคหอบหืด ได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนในที่สุดท่านได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2505 สิริอายุได้ 71 ปี พรรษาที่ 52 อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|