Share to:

 

วิลเลียม ไลอัน แมกเคนซี คิง

วิลเลียม ไลอัน แมกเคนซี คิง
นายกรัฐมนตรีแคนาดา คนที่ 10
ดำรงตำแหน่ง
23 ตุลาคม ค.ศ. 1935 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1948
กษัตริย์
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ก่อนหน้าR.B. Bennett
ถัดไปLouis St. Laurent
ดำรงตำแหน่ง
25 กันยายน ค.ศ. 1926 – 7 สิงหาคม ค.ศ. 1930
กษัตริย์พระเจ้าจอร์จที่ 5
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ก่อนหน้าArthur Meighen
ถัดไปR. B. Bennett
ดำรงตำแหน่ง
29 ธันวาคม ค.ศ. 1921 – 28 มิถุนาย ค.ศ. 1926
กษัตริย์พระเจ้าจอร์จที่ 5
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เดอะลอร์ดไลอันแห่งวิมี
ก่อนหน้าArthur Meighen
ถัดไปArthur Meighen
ผู้นำแห่งพรรคเสรีนิยม
ดำรงตำแหน่ง
7 สิงหาคม ค.ศ. 1919 – 7 สิงหาคม ค.ศ. 1948
ก่อนหน้าDaniel Duncan McKenzie (Interim)
ถัดไปLouis St. Laurent
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด17 ธันวาคม ค.ศ. 1874(1874-12-17)
เบอร์ลิน, ออนเทริโอ, แคนาดา
(now Kitchener, Ontario)
เสียชีวิต22 กรกฎาคม ค.ศ. 1950(1950-07-22) (75 ปี)
เชลซี, ควิเบก, แคนาดา
ที่ไว้ศพMount Pleasant Cemetery, Toronto, Ontario
พรรคการเมืองเสรีนิยม
การศึกษา
ลายมือชื่อ

วิลเลียม ไลอัน แมกเคนซี คิง ผู้ซึ่งได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์เมอริท(OM) เครื่องราชอิสริยาภรณ์เซนต์ ไมเคิลและเซนต์ จอร์จ(CMG) และองคมนตรีของสมเด็จพระราชชินีแห่งแคนาดา(PC) (17 ธันวาคม ค.ศ. 1874 – 22 กรกฏาคม ค.ศ. 1950) มักเป็นที่รู้จักกันคือ แมกเคนซี คิง หรือ ดับเบิลยูแอลเอ็มเค(WLMK) เป็นรัฐบุรุษและนักการเมืองชาวแคนาดาที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดาคนที่ 10 เป็นระยะเวลาสามวาระที่ไม่ต่อเนืองกัน ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1921 - ค.ศ. 1926 ค.ศ.1926 - ค.ศ. 1930 และ ค.ศ. 1935 - ค.ศ. 1948 ด้วยการเป็นนักเสรีนิยม เขาเป็นนักการเมืองที่มีความโดดเด่นในแคนาดาในช่วงสมัยระหว่างสงคราม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 ถึง ค.ศ. 1940 เขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะผู้นำแห่งแคนาดาในตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1939 - ค.ศ. 1945) เมื่อเขาได้ระดมเงินทุน ยุทธภัณฑ์ และทหารอาสาสมัครของแคนาดาเพื่อให้การสนับสนุนแก่บริติช ในขณะที่ได้ส่งเสริมเศรษฐกิจและรักษาขวัญกำลังใจที่แนวหลังบ้านเกิด ด้วยการดำรงตำแหน่งเป็นระยะเวลา 21 ปี และ 154 วัน เขายังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์แคนาดา เขาได้รับการฝึกฝนด้านกฏหมายและสังคมสงเคราห์ เขาได้ให้ความสนใจอย่างมากในสภาพของมนุษย์ (ในตอนที่เขาเป็นเด็ก คติประจำตัวของเขาคือ "ช่วยเหลือผู้อื่นที่ช่วยตัวเองไม่ได้") และมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานของรัฐสวัสดิการของแคนาดา[1]

คิงได้ขึ้นเป็นผู้นำของพรรคเสรีนิยมในปี ค.ศ. 1919 ด้วยการที่เป็นผู้นำของพรรคที่แตกแยกกันอย่างขมขื่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เขาได้ไกล่เกลี่ยแก่กลุ่มต่าง ๆ จนสามารถกลับมารวมตัวกันเป็นพรรคเสรีนิยมและนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง ปี ค.ศ. 1921 พรรคของเขาได้ออกจากตำแหน่งในช่วงวันเวลาที่เลวร้ายที่สุดของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในแคนาดา ค.ศ. 1930 - 35 เขาได้กลับมาอีกครั้งเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาขึ้น เขาได้จัดการกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับจังหวัดแพรรี ในขณะที่ผู้ช่วยชั้นนำของเขาอย่าง Ernest Lapointe และ Louis St. Laurent ได้ตอบสนองความต้องการของชาวแคนาดาเชื้อสายฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้หลีกเลี่ยงอย่างรอบคอบจากการสู้รบมากกว่าการเกณฑ์ทหาร ความรักชาติ และชาติพันธุ์ที่ทำให้แคนาดาต้องแตกแยกอย่างมากมายในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง แม้ว่าจะมีนวัตกรรมด้านนโยบายที่สำคัญเพียงไม่กี่อย่างที่เกิดขึ้นในช่วงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเขา เขาสามารถสังเคราะห์และส่งผ่านมาตรกรหลายอย่างที่ได้รับการสนับสนุนระดับชาติในวงกว้าง นักวิชาการได้ระบุว่า การดำรงตำแหน่งอันยาวนานของคิงในฐานะหัวหน้าพรรค เนื่องจากมีทักษะที่หลากหลายที่เหมาะสมกับความต้องการของแคนาดา[2] เขาได้เข้าใจการทำงานของทุนและแรงงาน ด้วยความรู้สึกไวอย่างดีเลิศต่อความแตกต่างของนโยบายสาธารณะอย่างมาก เขาเป็นคนบ้างานที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดและเจาะลึก และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความซับซ้อนของสังคมแคนาดา นักวิชาการสมัยใหม่ที่มองว่าการไกล่เกลี่ยเชิงบริหารมีความสำคัญต่อสังคมอุตสาหกรรม เขาต้องการให้พรรคเสรีนิยมเป็นตัวแทนของบรรษัทเสรีนิยมเพื่อสร้างความสามัคคีทางสังคม คิงทำงานเพื่อประนีประนามและความสามัคคีมาสู่องค์ประกอบการแข่งขันและความบาดหมางมากมาย โดยใช้การเมืองและการดำเนินการของรัฐบาลเป็นเครื่องมือของเขา เขาเป็นผู้นำพรรคมาเป็นเวลา 29 ปี และสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติของแคนาดาในฐานะอำนาจกลางที่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ต่อระเบียบโลก[3][4][5]

หนังสือชีวประวัติของคิงได้เห็นด้วยกับลักษณะส่วนบุคคลที่ทำให้เขาดูโดดเด่น เขาขาดความสามารถพิเศษของบุคคลร่วมสมัย เช่น แฟรงกลิน โรสเวลต์ วินสตัน เชอร์ชิล หรือชาร์ล เดอ โกล เขาขาดทางด้านการแสดงตนหรือทักษะการพูด งานเขียนที่ดีที่สุดของเขาคือ ด้านวิชาการ และไม่สะท้อนกับเขตเลือกตั้ง[6] มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดูเย็นชาและไม่มีไวพริบ เขามีพันธมิตรทางการเมืองมากมาย แต่กลับมีเพื่อนสนิทน้อยมาก เขาไม่เคยแต่งงานและขาดผู้หญิงที่ทำหน้าที่ต้อนรับและเลี้ยงดูแขก ซึ่งด้วยความที่มีสเน่ห์ของเขาสามารถทดแทนความเย็นชาของเขาได้ เขาได้เก็บความเชื่อในลัทธิวิญญาณเป็นความลับและใช้สื่อสารเพื่อติดต่อกับเพื่อนร่วมงานที่จากไป และโดยเฉพาะกับแม่ของเขา และปล่อยให้ความเชื่อทางด้านจิตวิญญาณอย่างแรงกล้าของเขาที่บิดเบือนความเข้าใจของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์มาตลอดช่วงปลายปี ค.ศ. 1930[7]

จากการสำรวจของนักวิชาการในปี ค.ศ. 1997 โดยนิตยสารแมคลีนได้มีการจัดอันดับแก่คิงเป็นอันดับหนึ่งในบรรดานายกรัฐมนตรีแคนาดา คนแรกคือ Sir John A. Macdonald และ Sir Wilfrid Laurier ดังที่นักประวัติศาสตร์ได้กล่าวว่า "นักวิชาการได้แสดงความชื่นชมต่อคิงชายผู้นี้เพียงเล็กน้อย แต่เสนอความชื่นชมอย่างไร้ขอบเขตสำหรับทักษะทางการเมืองของเขาและความสนใจต่อความเป็นเอกภาพของแคนาดา"[8] ในทางกลับกัน นักรัฐศาสตร์ที่ชื่อ Ian Stewart ในปี ค.ศ. 2007 ได้พบว่า แม้แต่นักเคลื่อนไหวเสรีนิยมก็มีความทรงจำที่มัวหมองของเขา[9]

อ้างอิง

  1. Moscovitch, Allan (February 7, 2006). "Welfare State". The Canadian Encyclopedia (online ed.). Historica Canada. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-09-25. สืบค้นเมื่อ June 9, 2011.
  2. Neatby, H. Blair (1977). "King and the Historians". ใน English, John; Stubbs, J.O. (บ.ก.). Mackenzie King: Widening the Debate. Macmillan of Canada.
  3. แม่แบบ:Cite DCB
  4. Bliss, Michael (1994). Right Honourable Men: The Descent of Canadian Politics from MacDonald to Mulroney. Harper Collins. pp. 123–184.
  5. Courtney, John C. (1976). "Prime Ministerial Character: An Examination of Mackenzie King's Political Leadership". Canadian Journal of Political Science. 9 (1): 77–100. doi:10.1017/S0008423900043195.
  6. English, John; Stubbs, J.O., บ.ก. (1977). Mackenzie King: Widening the Debate. Macmillan of Canada.
  7. Granatstein, J. L. (1977). Mackenzie King: His life and world. McGraw-Hill Ryerson.
  8. Granatstein, J.L. (2011). "King, (William Lyon) Mackenzie (1874–1950)". Oxford Dictionary of National Biography.
  9. Stewart, Ian (Winter 2007). "Names Written in Water: Canadian National Leaders and Their Reputations among Party Members". Journal of Canadian Studies. 41 (1): 31–50. doi:10.3138/jcs.41.1.31. S2CID 142565261.
Kembali kehalaman sebelumnya