สาว สาว สาว
สาว สาว สาว เป็นวงดนตรีหญิงล้วนในประเทศไทย สังกัดค่ายรถไฟดนตรี[1] เน้นการประสานเสียง มีสมาชิก 3 คน ได้แก่ แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร, แหม่ม พัชริดา วัฒนา, และปุ้ม อรวรรณ เย็นพูนสุข[1] ทุกครั้งที่ขึ้นแสดงจะให้ความสำคัญแก่การแต่งตัวและท่าเต้นประกอบ[2] คล้ายวงที่เรียกว่าเกิร์ลกรุ๊ปในยุคปัจจุบัน[3] จึงได้รับฉายาว่า เกิร์ลกรุ๊ปวงแรกของเมืองไทย[4] ประวัติ
พ.ศ. 2524 ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร (ระย้า) เจ้าของค่ายเพลงรถไฟดนตรี เห็นว่าวงการเพลงในประเทศไทยตอนนั้นมีแต่ผู้ใหญ่ที่เป็นศิลปิน แต่ยังไม่มีศิลปินที่เป็นวัยรุ่นเลย จึงต้องการที่จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการ จึงไปปรึกษาอาจารย์วิรัช อยู่ถาวร ซึ่งตอนนั้นยังเป็นผู้จัดการโรงเรียนสอนดนตรีสยามยามาฮ่า และได้เห็นว่าเด็กในโรงเรียนส่วนใหญ่เพิ่งเริ่มต้นยังไม่มีแวว จึงแนะนำลูกสาวของ ฉันทนา กิติยพันธ์ ซึ่งตอนนั้นแอม มีผลงานร้องเพลงโฆษณาปลาหมึกสคิ๊ดดี้ ทำให้คุณระย้าสนใจจึงเรียกมาคุย หลังจากนั้นสามสี่วันแม่เม้าและแม่แดงก็พาแอมและแหม่มมา โดยเอากีตาร์มาด้วย คุณระย้าเลยตะลึงในความสามารถของทั้งคู่ที่เป็นเด็กผู้หญิง พ.ศ. 2525 อัลบั้มแรกของวง สาว สาว สาว ชื่อว่า รักปักใจ ได้ ชรัส เฟื่องอารมย์ มาดูแลด้านเนื้อร้องและดนตรีให้ทั้งอัลบั้ม แต่คุณระย้ายังไม่มั่นใจ จึงไปนำเพลง รักปักใจ ของลินจง บุญนากรินทร์ และ รักต่างแดน ของนันทิดา แก้วบัวสาย มารวมไว้ในอัลบั้ม ในอัลบั้มชุดนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุมาจากภาพลักษณ์ทางวงยังไม่ชัดเจน ทางด้านยอดขายของอัลบั้มนี้ อยู่ที่หนึ่งหมื่นนิด ๆโดยภายหลังทางค่ายรถไฟดนตรีจึงต้องเปลี่ยนปกอัลบั้มใหม่ให้ดูสมวัย อัลบั้มนี้จึงได้รับความนิยมมากขึ้น พ.ศ. 2526 อัลบั้มชุดที่ 2 ประตูใจ มีเพลงฮิตอย่าง ประตูใจ, รักคือฝันไป, ด้วยแรงแห่งรัก, อยากลืม, รักทำไม, มิอาจรัก, อย่าโกรธกันเลย ฯลฯ ในชุดนี้ภาพลักษณ์ชัดเจน สดใส ร่าเริง น่ารัก แนวเพลง ป๊อป-ร๊อคบับเบิ้ลกัม และในตอนนั้นทางค่ายรถไฟดนตรีมีช่องทางโปรโมทผลงานในค่ายหลากหลายมากขึ้น ทั้ง รายการวิทยุและนิตยสาร ทำให้วงโด่งดัง หลังจากการแสดงสดในรายการโลกดนตรีครั้งแรก ทำให้เทปขายดีมากจนขาดตลาด และเป็นที่เรียกร้องของแฟนเพลงอย่างมาก เพลงต่าง ๆ ติดอันดับหนึ่งในชาร์ตเพลงของทุกคลื่นวิทยุเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะเพลง รักคือฝันไป ที่โด่งดังมาก ในด้านยอดขายในอัลบั้มนี้อยู่ที่สามแสนตลับ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด และในปีเดียวกัน ทางค่ายรถไฟดนตรีก็ออกอัลบั้ม สาว สาว สาว In Concert มารับกระแสในชุดประตูใจ ซึ่งยอดขายก็อยู่ที่สองแสนตลับ ถือว่าเป็นตัวเลขที่เยอะมาก เพราะในช่วงนั้นอัลบั้มที่เป็นบันทึกการแสดงสด จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากเท่าไหร่นัก พ.ศ. 2527 อัลบั้มชุดที่ 3 เป็นแฟนกันได้ยังไง มีเพลงฮิตอย่าง เป็นแฟนกันได้ยังไง, ไม่มีเธอ, ฟ้ากว้างทางไกล, ติ๊กต่อก(อย่าหยุดนะ), เพียงเพราะว่า, แปลกดีนะ, บอกฉันว่าไง, คลื่นเสน่หา เป็นต้น อัลบั้มชุดนี้มีกริซ ทอมมัส จากวงบาราคูดัส มาทำดนตรีให้ ซึ่งทีมงานค่อนข้างพิถีพิถันในการผลิต ให้มีคุณภาพที่ใกล้เคียงกับเพลงสากลในยุคนั้นที่สุด และมีความทันสมัยกว่าชุดที่ผ่านมา เพราะอัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จถล่มทลาย มียอดขายมากกว่าสี่แสนตลับในเวลาอันรวดเร็ว ช่วงปลายปี พ.ศ. 2527 อัลบั้มที่ 4 หาคนร่วมฝัน เพลงฮิต อย่าง รักโกหก, หาคนร่วมฝัน, แมวน้อยกับผีเสื้อ, จุดหมายปลายทาง, ยามไกล, ปฏิทินหัวใจ, คิดถึงทุกวัน, ไม่มีใครร้องให้กับเรา ฯลฯ ในอัลบั้มนี้แนวเพลงจะคล้ายกับชุดที่ผ่านมา แต่เนื้อหาอะไรต่าง ๆ ของเพลง ก็โตขึ้นมาอีกตามวัย และทั้งสามคนเธอได้โชว์ความสามารถทางด้านการแต่งเพลง โดย แอมแต่งและร้องเอง 2 เพลง ได้แก่ จุดหมายปลายทาง, อย่าให้ฝันเก้อและแหม่มแต่งเพลง ไม่มีใครร้องให้กับเรา (โดยให้ปุ้มร้อง) และปุ้มแต่งและร้องเองได้แก่ หาคนร่วมฝัน, แมวน้อยกับผีเสื้อ ในอัลบั้มนี้ได้วงดนตรีแนวหน้าของเมืองไทยหลากหลายวงมาทำดนตรีให้อาทิเช่น วงบาราคูดัส วงเพื่อน และวงปะการัง แม้อัลบั้มชุดนี้จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าชุดที่แล้ว แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี พ.ศ. 2528 สาว สาว สาว อัลบั้มชุดที่ 5 ในวัยเรียน มีเพลงฮิตอย่าง ในวัยเรียน, พบกันที่เขาดิน, ภาพฝัน, เพียงความทรงจำ, Thank you, เที่ยวทะเล และ Telephone ที่แอมเป็นคนแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษเอง ถึงในช่วงนั้นวงการเพลงไทยมีการแข่งขันกันสูง แต่อย่างไรวงก็ยังรักษาระดับความนิยมที่ยังอยู่ในระดับดี พ.ศ. 2529 อัลบั้มชุดที่ 6 แมกไม้และสายธาร มีเพลงฮิตอย่าง ทุ้งอ้อ, คำสัญญา, คืนใจ, บทเพลงชีวิต, อยากมีรัก, รักไม่กลับคืน ฯลฯ ด้วยแนวเพลงโฟล์ก- คันทรี โดยดนตรีเน้นใช้ทำนองแบบอะคูสติคเป็นหลัก โดยได้ภูสมิง หน่อสวรรค์ มาเรียบเรียงดนตรีให้ โดยทางค่ายรถไฟดนตรีอยากจะนำเสนอรากเหง้าของวง สาว สาว สาว ที่แท้จริง คือการร้องเพลง และร้องประสานเสียง ซึ่งมีความประณีตในการผลิต รวมถึงปกอัลบั้มและมิวสิควีดีโอ ที่ใช้ทุนในการถ่ายทำสูงสุด โดยเสียงวิจารณ์ส่วนมาก บอกกันว่าอัลบั้มชุดนี้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดอัลบั้มนึงของวง ส่วนด้านยอดขายก็อยู่ที่สองแสนตลับ ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร พ.ศ. 2530 อัลบั้มชุดที่ 7 Because I Love You อัลบั้มเพลงสากลอัลบั้มแรกของวง สาว สาว สาว เป็นการนำเพลงฮิตในช่วงนั้นและเพลงที่พวกเธอนำไปร้องในคอนเสิร์ตต่าง ๆ นำมาคัฟเวอร์และเรียบเรียงดนตรีใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย มีเพลงฮิตอย่าง Because I Love You, When We Make A Home, Memory, You’re The Inspiration, Walking In The Rain, Starship Of Love, Careless Whisper, Last Song For You ฯลฯ ในอัลบั้มนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง บางเพลงก็ดังและเป็นที่รู้จักมากกว่าต้นฉบับ ถือว่าเป็นอัลบั้มที่ทำให้สาวสาวสาวกลับมาอยู่ในแถวหน้าอย่างเต็มตัวอีกครั้ง มีการจัดมินิคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม Because I love You ที่ เดอะฟัลคอน เดอะมอลล์ ได้รับความตอบรับจากแฟนเพลงอย่างสูง พ.ศ. 2531 อัลบั้มชุดที่ 8 ว้าว..ว! มีเพลงฮิตอย่าง ฉันบอกเธอเอง, ลองทำดู, ห่วงใยทุกนาที, คืนสุดท้าย, เพียงแค่เธอลืมฉันไป เป็นต้น สาวสาวสาวกลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ปราดเปรียว เปรี้ยวสะดุดตา และลีลาการเต้นที่แปลกใหม่ ทำให้โชว์บนเวทีสมบูรณ์แบบมากขึ้น รวมถึงแนวเพลง ที่เปลี่ยนจากเพลงฟังสบาย ๆเป็นแนวเพลงป๊อบแดนซ์ร่วมสมัย และซาวด์ดนตรีในอัลบั้มนี้ มีการพัฒนาขึ้นให้ทันสมัยและใกล้เคียงกับมาตรฐานสากลในยุคนั้น โดยเสียงวิจารณ์ส่วนใหญ่บอกว่าเป็นอัลบั้มที่สมบูรณ์แบบที่สุดของวง สาว สาว สาว ปลายปี 2531 อัลบั้มชุดที่ 9 Together อัลบั้มเพลงสากลชุดที่ 2 ของวง สาว สาว สาว มีเพลงที่เป็นที่รู้จักอย่าง Four Latter Words, Afternoon Delight, If You Remember me Last Christmas และที่สร้างความฮือฮากับแฟน ๆ ก็คือเพลง Something That Used To Be Mind ที่แอมแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษเป็นเพลงที่ 2 ความหมายของอัลบั้มนี้คือ ความรักและความผูกผันที่มีต่อกันยังคงอยู่รวมกันอยู่เสมอ และทั้งสามได้โชว์ความสามารถในด้านการประสานเสียงและลีลาการเต้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย พ.ศ. 2532 สาว สาว สาว เป็นแขกรับเชิญ ในคอนเสิร์ต สบายอยู่แล้ว ของบุปผา ธรรมบุตร ในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2532 ที่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และในปีเดียวกัน สาว สาว สาว ได้รับเชิญจากประเทศญี่ปุ่นให้ไปเป็นตัวแทนประเทศไทย ไปร่วมงาน Tokyo Music Festival 1989 ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้ขออนุญาตนำเพลง Hana ของ ชินจิ ทานิมูระ มาร้องในฉบับภาษาไทยในอัลบั้มชุดต่อไป พ.ศ. 2533 อัลบั้มชุดที่10 ดอกไม้ของน้ำใจ เป็นอัลบั้มชุดสุดท้าย ในนาม สาว สาว สาว มีเพลงที่เป็นที่รู้จักอย่าง ดอกไม้ของน้ำใจ, มีแต่เสียใจ, ไม่รู้ใจ เป็นต้น อัลบั้มชุดนี้ฉีกความเป็น สาว สาว สาว จากเดิมออกไปอย่างสิ้นเชิง เสื้อผ้าหน้าผมทันสมัยมากกว่าเก่า แนวเพลงที่ชัดเจน โดยทั้งสามตกลงกันว่าอัลบั้มชุดนี้จะเป็นชุดสุดท้ายของวง และมีการขึ้นแสดงเพลงในอัลบั้มนี้บนเวทีรายการ 7 สีคอนเสิร์ต เป็นครั้งสุดท้าย โดยไม่มีการแถลงข่าวใด ๆ ชีวิตในปัจจุบันของสมาชิกวงแอม เข้าทำงานในบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เป็นนักแต่งเพลงให้กับศิลปินต่าง ๆและได้ออกอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในปี พ.ศ. 2536 ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง จึงมีผลงานออกมาอยู่อย่างสม่ำเสมอ แหม่ม เรียนต่อที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรับงานร้องเพลงประกอบละคร ร้องคอรัส และร้องไกด์ให้กับศิลปินอื่น ๆทุก ๆ ค่าย จนได้เป็นศิลปินในสังกัดอาร์เอส ก็ประสบความสำเร็จและมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้แหม่มมีตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสของฝ่ายพัฒนาศิลปินค่ายอาร์เอส รวมถึงเป็นเทรนนิ่งให้กับศิลปินในอาร์เอสปัจจุบันลาออกจากค่ายอาร์เอส เมื่อช่วงกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ปัจจุบันแหม่มรับงานอิสระ และเปิดร้านกาแฟชื่อ Pat's Tea Room & Coffee Club ในซอยสุขุมวิท 101/1 ปุ้ม มีผลงานอัลบั้มเดี่ยวกับสังกัดอินเทอร์นอล และประสบความสำเร็จจนมีผลงานต่อเนื่องมาหลายชุด และทำหน้าที่เป็นครูใหญ่ในบ้าน ทรู อะคาเดมี่ แฟนเทเซีย หลังจากที่ได้แยกย้ายกันไป สมาชิกวง สาว สาว สาว ทั้งสามคน ก็กลับมารวมตัวกันในรายการทีวีต่าง ๆ อยู่ตลอด โดยในปี พ.ศ. 2554 กลับมารวมตัวกันในงาน All Hearts for Japan เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อมาร่วมส่งกำลังใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศญี่ปุ่น จากภัยพิบัติสึนามิ โดยได้ร่วมร้องเพลง ดอกไม้ของน้ำใจ เพื่อไว้อาลัยต่อเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในปี พ.ศ. 2561 พวกเธอทั้ง 3 ตัดสินใจที่จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งใน คอนเสิร์ต สาวสาวสาว ที่ห่างจากคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งสุดท้ายถึง 34 ปี โดยขายบัตรหมดทั้ง 3 รอบ แสดงในวันที่ 23 - 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน สมาชิก
ผลงานเพลง
อัลบั้มพิเศษ
เพลงพิเศษ
Tokyo Music Festival 1989สาว สาว สาว ได้รับเกียรติจากประเทศญี่ปุ่น ให้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปร่วมงานTokyo Music Festival 1989หรืองาน เทศกาลดนตรีโตเกียว ครั้งที่ 18 ประจำปี พ.ศ. 2532 โดยสมาชิกวงทั้งสามคน และผู้ติดตาม เดินทางไปญี่ปุ่นก่อนวันแสดงเพียง 3 วัน เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานในวันที่ 29 พฤษภาคม และหลังจากนั้นอยู่เที่ยวกันต่ออีกหลายวัน โดยแต่ละวันมีเหตุการณ์ดังนี้
สมาชิกวง สาว สาว สาว, แม่เม้า, โมเม, ม.ล.รุจิยาภา อาภากร และทีมงานรถไฟดนตรี ออกเดินทางไปจากสนามบินดอนเมือง ไปยังสนามบินนาริตะ โดยใช้สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ ซึ่งทางผู้จัดงานในครั้งนี้ ได้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยังมีค่าใช้จ่ายประจำวันให้อีกด้วย สมาชิกวงสาว สาว สาว และคณะ ถึงโตเกียวในตอนเย็นและพักที่โรงแรมโตเกียวพรินซ์ (Tokyo Prince) และยังต้องแต่งเนื้อร้องเพลง ที่ทางผู้จัดให้มาก่อนขึ้นเครื่องมาฟังและค่อย ๆ แปล ค่อย ๆ แต่งขึ้นใหม่เป็นภาษาไทยอยู่หลายเพลง
สมาชิกวง สาว สาว สาว เข้าร่วมประชุมการสรุปงานในขั้นเตรียมการประชุมร่วมกับ โปรดิวเซอร์และผู้ควบคุมเวที เพื่อกำหนดคิวบนเวที ช่วงกลางคืนมีการจัดงานเลี้ยงต้องรับศิลปินจากหลากหลายประเทศ สาว สาว สาว ได้พบกับดารานักร้องชาวฮ่องกง เลสลี่ จาง และศิลปินจากหลากหลายประเทศ ซึ่งได้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ และได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก
สาว สาว สาว ร่วมทำการซ้อมย่อยและซาวด์เช็คกันที่สถานีโทรทัศน์ระบบแพร่สัญญาณโตเกียว และทั้งสามยังให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์และวิทยุของญี่ปุ่นอีกด้วย
วันแสดงจริง โดยศิลปินทุกท่านที่มีร่วมในงานต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปซ้อมใหญ่ที่นิปปอนบูโดกัน โดยเริ่มซ้อมกันตั้งแต่เช้าจนถึงหกโมงเย็น โดยทางวง สาว สาว สาว นำเพลง ฉันบอกเธอเอง จากอัลบั้มชุด ว้าว..ว! ไปแสดงบนในงานครั้งนี้ โดยชุดของทั้งสามตั้งใจนำชุดผ้าไหมไทย ไปแสดงให้ต่างชาติเห็นถึงความสวยงามของผ้าไหมไทย โดยชุดทั้งหมดเป็นฝีมือของแม่เม้าสุดา ชื่นบาน งานในครั้งนี้จะมีช่วงที่ให้นักร้องของแต่ละชาติมาร้องเพลงร่วมกัน สาวสาวสาวได้ประกบคู่กับ ฟูยูมิ ซากาโมโตะ ร่วมร้องเพลง "รปปงงิจุนโจ" (Roppongi Junjo) ซึ่งทางวงสาว สาว สาว ร่วมร้องในภาษาไทย ซึ่งมีเหตุผิดพลาดเนื่องจากฟูยูมิลืมเนื้อในระหว่างร้อง ทำให้พวกเธอต้องแก้สถานการณ์โดยการณ์ออกมาร้องไปพลางๆ หลังจากการแสดงจบทางโปรดิวเซอร์จึงขอถ่ายแก้ใหม่อีกรอบนึง ในช่วงฟินาเล่ของงาน ศิลปินทุกชาติออกมาร่วมร้องเพลง "ฮานะ" (Hana) ของ ชินจิ ทานิมูระ โดยทางวง สาว สาว สาว ร่วมร้องในเนื้อของภาษาไทย หลังจากจบการแสดง มีเหล่าแฟนคลับเด็กนักเรียนญี่ปุ่น มาส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อ สาว สาว สาว ขณะที่พวกเธอกำลังเดินขึ้นรถเพื่อกลับโรงแรม ซึ่งบ่งบอกได้ดีว่าชาวญี่ปุ่นชื่นชอบผลงานและการแสดงของวง สาว สาว สาว อย่างมากมาย
สาว สาว สาว ร่วมงานแถลงข่าวกับศิลปินจากหลากหลายประเทศ มาพูดความรู้สึกในงานครั้งนี้ และหลังจากนั้นเป็นการจัดปาร์ตี้เลี้ยงส่ง พวกเธอได้มอบเข็มกลัดเกี่ยวกับวรรณคดีไทย ให้กลับศิลปินต่าง ๆและเซ็นชื่อที่รูปของพวกเธอที่แสดงไว้ให้เป็นที่ระลึก คอนเสิร์ตคอนเสิร์ตในนาม
คอนเสิร์ตรับเชิญ
ฟรีคอนเสิร์ต
ผลงานอื่น ๆ
รางวัล
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |