สีประจำโรงเรียนสีประจำโรงเรียน หรือรู้จักกันในชื่อของ สีประจำมหาวิทยาลัย สีประจำคณะ สีประจำวิทยาลัย หรือ สีประจำสถาบันการศึกษา เป็นสีที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษากำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ประจำสถาบัน ใช้ประกอบกับป้ายของอาคาร เว็บไซต์ ในเครื่องแต่งกาย เครื่องแบบนักเรียน หรือชุดของทีมกีฬา โดยโรงเรียนสามารถใช้สีประจำสถาบันในการเชื่อมโยงให้นักเรียนมีความรู้สึกร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน ในระดับของ "จิตวิญญาณของโรงเรียน" และช่วยให้สถาบันการศึกษานั้น ๆ มีจุดแตกต่างจากสถาบันการศึกษาอื่น[1] ประวัติสีประจำโรงเรียนนั้นเป็นประเพณีที่เริ่มต้นขึ้นมาในประเทศอังกฤษในช่วงทศวรรษ 1830 โดยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ใช้สีน้ำเงินเป็นสีประจำมหาวิทยาลัยในการแข่งขันเรือเดอะโบ๊ตเรซกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในปี พ.ศ. 2379[2] โรงเรียนเวสต์มินสเตอร์ใช้สีชมพูตั้งแต่การแข่งเรือกับโรงเรียนอีตันในปี พ.ศ. 2380[3] และมหาวิทยาลัยเดอรัมใช้สีม่วงพาลาทิเนตสำหรับสีผ้าสายคล้องคอบนชุดครุยวิทยฐานะครั้งแรกในปี พ.ศ. 2381[4] หลายวิทยาลัยในสหรัฐนำสีประจำโรงเรียนมาปรับใช้ในระหว่างปี พ.ศ. 2433 ถึง 2453 ซึ่งปกติสีเหล่านี้จะเป็นสีที่โดดเด่น ซึ่งหลังจากมีการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น จึงมีการผสมสีเพื่อใช้งานในเฉดอื่น ๆ ที่มากขึ้น เช่น วิทยาลัยเพรสไบทีเรียนหลาย ๆ แห่งเลือกที่จะใช้สีที่ใกล้เคียงกับสีดำและสีส้มของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน[5] โรงเรียนอเมริกาบางงแห่งใช้สีประจำชาติ คือสี แดง ขาว และน้ำเงิน มาใช้งานเป็นสีประจำโรงเรียนเพื่อแสดงถึงความรักชาติ[6] สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในวิทยาลัยของสหรัฐ โดยการจัดอันดับของนิตยสารฟอบส์ หัวข้อ ฟอบส์ท็อป 50 ประจำปี 2012 และการจัดอันดับทีมบาสเกตบอล NCAA ประจำปี 2013–13 ประกอบไปด้วยสีขาว สีน้ำเงิน สีแดง สีดำ และสีทอง[7] กีฬาการใช้สีในการระบุทีมในกีฬามหาวิทยาลัยนั้นมีการใช้งานย้อนไปตั้งแต่การแข่งเรือเดอะโบ๊ตเรซครั้งที่ 2 ระหว่างออกซฟอร์ดกับเคมบริดจ์ในปี พ.ศ. 2379[2] โดยทั่วไปแล้วมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะใช้สีในทีมกีฬาสีเดียวกันกับสีประจำมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา แต่สีน้ำเงินเคมบริดจ์เป็นเพียงสีเดียวจากสิบสองสีในชุดสีรอง ที่ไม่ใช่หนึ่งในหกสีหลักของมหาวิทยาลัย[8] ซึ่งมหาวิทยาลัยนอตทิงแฮมก็ใช้สีเขียวและสีทองสำหรับทีมกีฬาในการแข่งขัน แตกต่างจากสีประจำมหาวิทยาลัยคือสีน้ำเงิน[9][10] มหาวิทยาลัยโรเจอร์ วิลเลียมส์ เปลี่ยนสีทีมที่ใช้ในกีฬากรีฑาเมือปี พ.ศ. 2561 ให้เป็นสีเดียวกันกับมหาวิทยาลัย เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และอัตลักษณ์ระหว่างทีมกรีฎาและมหาวิทยาลัยให้เป็นหนึ่งเดียวกัน[11] ทีมที่เข้าแข่งขันกีฬาส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยเครื่องแบบกีฬา 2 ชุด โดยชุดแรกใช้สีหลัก และชุดที่สองใช้สีรองของสถาบันการศึกษา ในกีฬาบางชนิด เช่น อเมริกันฟุตบอล สีหลักจะถูกใช้ในเครื่องแบบของทีมเหย้า รวมไปถึงกองเชียร์ ทีมเชียร์ลีดเดอร์ และวงโยทวาธิต ก็จะสวมใส่เครื่องแบบที่ใช้สีประจำสถาบันการศึกษาของตน วิทยฐานะสีประจำโรงเรียนยังถูกใช้งานในชุดครุยวิทยฐานะของหลาย ๆ สถาบัน สีประจำโรงเรียนที่มหาวิทยาลัยนำมาปรับใช้ในชุดครุยวิทยฐานะคือสีม่วงพาลาทิเนตของมหาวิทยาลัยเดอรัมในประเทศอังกฤษระหว่างปี พ.ศ. 2378 ถึง 2381[12][4] โรงเรียนในสหรัฐที่มอบผ้าสายคล้องคอบนชุดครุยวิทยฐานะให้กับนักเรียนตามข้อกำหนดของสภาการศึกษาอเมริกัน (American Council on Education) ซึ่งระบุว่าตัวผ้าคล้องคอนบนชุดครุยวิทยฐานะเป็นสีประจำโรงเรียน และขลิปสีกำมะหยี่เป็นสีประจำภาควิชา[13] ชุดครุยวิทยฐานะระดับปริญญาเอกของสหรัฐบางชุดจะเป็นสีประจำมหาวิทยาลัยที่ได้รับปริญญา แยกประเภทจากชุดครุยวิทยฐานะที่จะใช้สีดำ[14] ผ้าพันคอวิทยฐานะมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และประเทศในเครือจักรภพ และมหาวิทยาลัยในอเมริกาบางแห่งมีผ้าพันคอวิทยฐานะเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย ปกติจะเป็นผ้าพันคอแบบยาว ทำด้วยผ้าขนสัตว์ พร้อมกับลวดลายเฉพาะแถบตามยาวที่มีความกว้างต่างกัน ในมหาวิทยาลัยในระดับวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ มหาวิทยาลัยเดอรัม ในแต่ละวิทยาลัยจะมีสีและผ้าพันคอเป็นของตนเอง มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยระดับวิทยาลัย อาทิ มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ มหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล ก็จะมีผ้าพันคอในแต่ละคณะเช่นกัน[15] สีประจำโรงเรียนในประเทศไทยในประเทศไทย สีประจำโรงเรียนหรือสีประจำมหาวิทยาลัยมักจะมีความหมายตามสิ่งที่เกี่ยวกับการก่อตั้งหรือวิชาที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเหล่านั้นสอนอยู่ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้สีชมพู เนื่องจากเป็นสีของวันพระบรมราชสมภพของรัชกาลที่ 5 และเป็นสีประจำพระองค์ซึ่งมหาวิทยาลัยใช้พระปรมาภิไทยเดิมของพระองค์เป็นชื่อมหาวิทยาลัย[16] สีประจำโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ
ในประเทศไทยมหาวิทยาลัย
โรงเรียน
อ้างอิง
|