หมี เสว่
หมี เสว่ (จีน: 米雪; ยฺหวิดเพ็ง: Mai5 Syut3; เยลกวางตุ้ง: máih syut; พินอิน: Mǐ xuě) มีชื่อจริงว่า มิเชล ยิม ไหว่หลิง (อักษรโรมัน: Michelle Yim Wai-ling; จีนตัวเต็ม: 嚴惠玲; จีนตัวย่อ: 严惠玲; เยลกวางตุ้ง: yìhm waih lìhng; พินอิน: Yán huì líng) นักแสดงหญิงฮ่องกงเจ้าบทบาทที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมานานหลายทศวรรษเป็นหนึ่งใน ดาวค้างฟ้า แห่งวงการจอแก้ว เธอได้รับความนิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางยุคทศวรรษที่ 70 และต้นยุค 80 ปัจจุบันเธอมีฉายาว่า "สาวสองพันปี" เนื่องจากตัวเธอดูอ่อนกว่าอายุจากการดูแลตัวเอง เธอเริ่มมีชื่อเสียงจากการแสดงในบทบาท อึ้งย้ง จากละครโทรทัศน์ของเจียซื่อ เรื่อง มังกรหยก 1976 เวอร์ชันปีพ.ศ. 2519 จากบทประพันธ์ของ กิมย้ง (หมีเซียะ เป็นอึ้งย้งที่มีฟันกระต่ายคู่หน้า คนแรก) ถึงแม้เธอจะเริ่มดังจากบท อึ้งย้งก็ตาม แต่ช่วงที่ชื่อเสียงของเธอพีคสุด คือ ช่วงที่เธอแสดงให้กับทางช่องเอทีวี(อาร์ทีวี) ตั้งแต่เรื่อง "ศึกสายเลือด" จนถึง "ศึกสองนางพญา" และในอดีตเธอเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เป็นสัญลักษณ์(เสาหลัก)ของทางสถานีโทรทัศน์เอทีวี(อาร์ทีวี) อีกด้วย, ในปีพ.ศ. 2550 (2007) หนังสือพิมพ์ทรงอิทธิพลที่ขายดีที่สุดในฮ่องกง "แอปเปิลเดลี่" (Apple Daily) ที่มีสาขาในจีน และไต้หวัน ต่างคัดเลือกเธอให้เป็น "หนึ่งในนักแสดงที่สวมบทบาทอึ้งย้งได้ดีที่สุดร่วมกับองเหม่ยหลิง โดยบทอึ้งย้ง ที่ หมีเซียะ แสดงอยู่ในอันดับที่ 45 และบทอึ้งย้งที่ องเหม่ยหลิง แสดงอยู่ในอันดับที่ 10 จากการจัดอันดับใน 100 นักแสดงที่สวมบทบาทในละครชุดได้ยอดเยี่ยมที่สุด. [2] ประวัติเธอเกิดที่เมืองอันฮุย มณฑลกวางตุ้ง มีน้องสาวที่เป็นนักแสดงเช่นกัน ชื่อ ซิดนีย์ ยิม (Sidney Yim, 雪梨) จบมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนคริสต์ [3] เธอเริ่มฝึกฝนการแสดงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 โดยเข้าเรียนการแสดงที่โรงเรียนสอนการแสดงของชอว์บราเดอส์ และในปี พ.ศ. 2518 เธอได้เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว โดยการเซ็นสัญญาเข้าเป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์ซีทีวีของฮ่องกง หรือ "เจียซื่อ" ที่เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาใหม่ และเป็นคู่แข่งสำคัญ ของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ต่อมาเธอได้รับบทนำเป็น อึ้งย้ง ในละครเรื่อง มังกรหยก 1976 คู่กับ ไป่ เปียว หลังจากออกอากาศ ทำให้เธอซึ่งตอนนั้นมีอายุ 21 ปี กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ซึ่งในตอนนั้นถือได้ว่าเป็นละครโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จในฮ่องกง และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ก่อนที่เวอร์ชัน มังกรหยก 1983 ที่มี องเหม่ยหลิง รับบท อึ้งย้ง จะทำลายเรตติ้ง ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมมากกว่า)
หลังจากสถานีโทรทัศน์ซีทีวีเลิกกิจการในปี พ.ศ. 2521 (1978) เธอได้แสดงละครโทรทัศน์กำลังภายอีกหลายเรื่องให้กับสถานีโทรทัศน์แห่งเอเชีย เช่น ฤทธิ์หมัดสะท้านบู๊ลิ้ม (Tai Chi Master), นักชกผู้พิชิต (The Legendary Fok), ศึกสองนางพญา (Princess Cheung Ping), ศึกสายเลือด (The Dynasty), แผ่นดินรักแผ่นดินเลือด (The Radical City), จิ๋นซีฮ่องเต้ (The Rise of the Great Wall), 13 ฮ่องเต้ตำนานจักรพรรดิราชวงศ์ชิง (The Rise and Fall of Qing Dynasty) เป็นต้น ทำให้เธอได้รับฉายาจากบางสื่อว่า "ราชินีละครโทรทัศน์แนวกำลังภายใน" ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน ค.ศ. 2015 หมี เสว่ และเยิ่น ต๊ะหัว นักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกงร่วมสมัยเดียวกัน ได้เดินทางมาประเทศไทย โดยในวันที่ 22 กันยายน ทั้งคู่ได้เข้าสักการะพระพรหมที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งจีน, ฮ่องกง และนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดฮ่องกง เกิดความเชื่อมั่นและเดินทางกลับมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น จากเหตุระเบิดก่อนหน้านั้น โดยไม่ได้เรียกค่าตัว โดยเป็นการประสานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยเฉพาะหมี เสว่ ได้แต่งชุดไทยและรำดอกบัวถวายด้วย[4] เธอเคยเล่นภาพยนตร์ของไทยอยู่หลายเรื่อง เช่น หงส์หยก นำแสดงโดย หมีเสว่ สรพงศ์ ชาตรี พิสมัย วิไลศักดิ์ รสริน จันทรา ลักษณ์ อภิชาติ ชูศรี มีสมมนต์ บู๊ วิบูลย์นันท์ และ ชุมพร เทพพิทักษ์, นักฆ่าขนตางอน พ.ศ. 2525 นำแสดงโดย หมีเสว่ สรพงศ์ ชาตรี เนาวรัตน์ ยุกตนันท์ ปรัชญา อัครพล สุเชาว์ พงศ์วิไล สอาด เปี่ยมพงษ์สานต์ ฤทธิ์ ลือชา ลักษณ์ อภิชาติ เทพ โพธิ์งาม สมพงษ์ พงษ์มิตร และ ลลนา สุลาวัลย์, สิงห์จ้าวพยัคฆ์ นำแสดงโดย หมีเสว่ สุพรรษา เนื่องภิรมย์ ดามพ์ ดัสกร ลักษณ์ อภิชาติ และ ฤทธิ์ ลือชา ปรากฏการณ์นางร้ายยอดนิยมช่วงยุค 80s-90s หมี เสว่ (ส่วนใหญ่)เธอจะแสดงละครให้กับทางช่องสถานีโทรทัศน์เอทีวี เป็นหลัก ดังนั้นเธอจึงมีผลงานละครกับช่องทีวีบี น้อยมาก ต่อมาในปีพ.ศ. 2544 (2001) หมี เสว่ ได้เข้าเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่องทีวีบี (TVB) และมีผลงานละครกับทางช่องนี้เรื่อยมา จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2551 (2008) ด้วยวัยที่มากขึ้น ทางทีวีบี ได้มอบบทนางร้ายรุ่นแม่ ให้เธอแสดงในเรื่อง มรสุมชีวิตลิขิตพระจันทร์ (Moonlight Resonance 2008) โดยในเรื่องนี้เธอสวมบทบาทนางร้ายเป็น "หยิ่นหง" ภรรยาคนที่สองที่ชั่วร้าย,เจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัว เมื่อออกอากาศครั้งแรก เกิดกระแสเกลียด หมี เสว่ ขึ้นมา เนื่องจากมีผู้ชมมากมายเกลียดตัวละครตัวนี้เพราะเธอสามารถแสดงบทนางร้ายในละครเรื่องนี้ออกมาได้เข้าถึงบทบาทและแม้แต่เพื่อนสนิทของหมีเซียะเองก็ยังเกลียดเธอ โดยหมี เสว่เล่าว่า
และนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่แตกต่างจากบทนางเอกที่เธอเคยได้รับในอดีต บทบาทนางร้ายในละครเรื่องนี้ ทำให้ หมี เสว่ กลับมาได้รับความนิยมในฮ่องกงและสร้างความเกรียวกราวในสิงค์โปร์ได้อีกครั้ง และเป็นนักแสดงหญิงคนแรกที่รับบทนางร้าย จนคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงดีเด่น จากละครเรื่องนี้ได้สองตัวจากงาน TVB Anniversary Awards 2008 และ Asian Television Awards 2009 ซึ่งทั้งสองงานแจกรางวัล เพิ่งจะเริ่มมีการจัดขึ้นในช่วงปลายยุค 90s (ก่อนหน้านั้นยังไม่มี) ตอนที่เธอได้รับรางวัล จากบทบาทนางร้าย หยิ่นหง เธอพูดทั้งน้ำตาว่า
นับได้ว่าบทบาทนางร้าย หยิ่นหง เป็นการแสดงในช่วงหลังยุค 2000s ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเธอ ดาวค้างฟ้า(จอแก้ว)หมีเซียะ เธอเริ่มมีชื่อเสียงมาตั้งแต่กลางยุค 70 จนมาถึงปัจจุบัน ความนิยมในตัวเธอยังคงมีต่อเนื่องมานานหลายทศวรรษ เธอเป็นหนึ่งใน ดาวค้างฟ้า แห่งวงการโทรทัศน์ฮ่องกง(จอแก้ว) ร่วมกับ วังหมิงฉวน, หลีซือฉี, เจิ้งอวี้หลิง และ เจ้าหย่าจือ ผลงาน
ผลงานภาพยนตร์
ผลงานละครค่ายเอทีวี
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |