อะลาดิน (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2562)
อะลาดิน (อังกฤษ: Aladdin) เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวแฟนตาซีมิวสิคเคิล ผลิตโดย วอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์ ผู้กำกับ คือ กาย ริตชี เขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับ จอห์น ออกัสต์ เป็นการนำภาพยนตร์เรื่อง อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ของวอลต์ ดิสนีย์ กลับมาทำใหม่โดยใช้คนแสดง โดยภาพยนตร์ฉบับ พ.ศ. 2535 ดังกล่าวอ้างอิงจากนิยายและนิทานพื้นบ้านอาหรับเรื่องอาหรับราตรี[1][b] นำแสดงโดย วิลล์ สมิธ, มีนา มาซูด, นาโอมิ สก็อตต์ ร่วมด้วย มาร์เวน เคนซาริ, นาวิด เนกาบาน, นาซิม เปเดรด, บิลลี แมกนัสเซน, นูมัน อาคาร์ อลัน ทูดิค และ แฟรงค์ เวลเกอร์ ในบทบาทสมทบ ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ อะลาดิน จอมโจรหนุ่มข้างถนนที่ตกหลุมรัก เจ้าหญิงจัสมิน และได้ผูกมิตรกับ จีนี่ ภูติยักษ์ที่สามารถทำให้พรสัมฤทธิ์ได้สามข้อ และต่อสู้กับ จาฟาร์ พ่อมดที่ชั่วร้าย เพื่อปกป้องอาณาจักรและคนที่เขารัก โดยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 ดิสนีย์ออกมาประกาศว่ากาย ริตชี จะเข้ามมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์คนแสดงของ อะลาดิน ฉบับทำใหม่นี้ วิลล์ สมิธ ประกาศเป็นนักแสดงในภาพยนตร์คนแรกในบท จีนี่ ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 และ มีนา มาซูด และ นาโอมิ สก็อตต์ ได้รับการยืนยันว่ารับบทนำในเดือนเดียวกัน การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นในเดือนกันยายนที่ Longcross Studios ในมณฑลเซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ และถ่ายทำใน ทะเลทรายวาดิรัม ในประเทศจอร์แดน จนถึงเดือนมกราคม 2561 อะลาดิน ออกฉายครั้งแรกในโรงภาพยนตร์แกรนด์เล็กซ์ ในปารีส เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 และเข้าฉายอย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกและประสบความสำเร็จทางรายได้รวมกว่า 923 ล้านเหรียญทั่วโลกในขณะที่ยังเข้าฉาย กลายเป็น ภาพยนตร์ทำรายได้สูงสุดอันดับสามของปี 2019 และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดของวิลล์ สมิธ ภาพยนตร์ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์หลายคนซึ่งชื่นชมการแสดงของวิลล์ สมิธ, มีนา มาซูด และนาโอมิสก็อตต์, เครื่องแต่งกาย และดนตรีประกอบ แต่วิจารณ์ถึงทิศทางของริตชีและเอฟเฟกต์ CGI เช่นเดียวกัน นักวิจารณ์ถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย จากความแตกต่างของภาพยนตร์ต้นฉบับ โดยเฉพาะการรับบทจาฟาร์ของ เคนซาริ เนื้อเรื่องอะลาดิน เป็นจอมโจรหนุ่มจิตใจงามที่อาศัยอยู่ในนครอัคราบาห์ของอาหรับ อยู่ร่วมกับ ลิงสัตว์เลี้ยงนาม อาบู ได้ช่วยชีวิตและผูกมิตรกับเจ้าหญิงจัสมินที่แอบหลบหนีออกจากวัง เพื่อออกสำรวจชีวิต เพราะเบื่อกับชีวิตที่ถูกประคบประหงม ในขณะเดียวกัน มหาเสนาบดีจาฟาร์มีแผนการที่จะโค่นล้ม สุลต่าน บิดาของเจ้าหญิงจัสมิน เขาออกตามหา ตะเกียงวิเศษ ที่ถูกซ่อนอยู่ในถ้ำแห่งสิ่งมหัศจรรย์ เพื่อจะให้ความปรารถนาของเขาเป็นจริง ซึ่งมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่คู่ควรเท่านั้น เรียกว่า "เพชรในตม" ซึ่งคืออะลาดิน อะลาดินซึ่งถูกจับตัวไว้ได้ตอนลอบเข้าไปในวัง เพื่อพบเจ้าหญิงจัสมิน จาฟาร์หลอกล่อให้เขาไปเอาตะเกียงมา แล้วจะปล่อยให้เป็นอิสระ ภายในถ้ำอะลาดินได้ช่วยเหลือ พรมวิเศษ ไว้ และได้ตะเกียง เขามอบมันให้กับจาฟาร์ ก่อนจะโดนทรยศทิ้งไว้ในถ้ำ โชคดีที่อาบูขโมยตะเกียงโยนกลับมาให้เขาได้ อะลาดินที่ติดอยู่ในถ้ำและเผลออัญเชิญจีนี่ที่อาศัยอยู่ในนั้น ซึ่งมี อำนาจทุกอย่าง โดยไม่รู้ตัวผ่านการถูตะเกียง จีนี่อธิบายว่าเขามีพลังมากพอที่จะให้พร อะลาดิน สามข้อตามที่ปรารถนา อะลาดินใช้อุบายหลอกให้ จีนี่ออกมาจากถ้ำได้ โดยไม่ใช้พร หลังจากนั้น อะลาดินจึงใช้พรขอความต้องการอย่างเป็นทางการครั้งแรก โดยการเป็นเจ้าชายเพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าหญิงจัสมิน และสัญญาว่าจะใช้ความปรารถนาข้อสุดท้ายของเขาเพื่อปลดปล่อยจีนี่จากการถูกจองจำ อะลาดินเดินทางเข้าสู่อัคราบาห์ ในฐานะ "เจ้าชายอาลีแห่งอาบับวา" อย่างยิ่งใหญ่ (รวมไปถึง อาบู ซึ่งเสกให้กลายเป็นช้างโดย จีนี่) แต่เจ้าหญิงจัสมินกลับไม่ประทับใจกับการมาของเขา แม้จะประเคนของกำนัลและแยมมากมายก็ตาม แต่ต่อมาทั้งสองก็สื่อใจถึงกันได้ เมื่อเขาพาเธอขึ้นไปนั่งบนพรมวิเศษเพื่อแสดงให้เธอเห็นโลกที่เธออยากเห็นมาตลอด ในขณะที่ จีนี่ออกไปเดทกับดาเลีย นางกำนัลของเจ้าหญิงจัสมิน แต่เมื่อเจ้าหญิงจัสมินจับได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของอะลาดิน เขาจึงโน้มน้าวเธอว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นเจ้าชายและที่แต่งตัวเหมือนยาจก ก็เพื่อทำความรู้จักกับชาวอัคราบาห์ก่อน จาฟาร์ที่รู้เรื่องนี้จึงขู่ให้เขาบอกที่ซ่อนของตะเกียง และโยนเขาลงไปในทะเล แต่จีนี่ช่วยชีวิตเขาด้วยพรความปรารถนาข้อที่สอง ทั้งสองเปิดโปงแผนร้ายจาฟาร์จนสามารถนำตัวไปขังได้ หลังจากที่สุลต่านเสนอตำแหน่งอลาดินให้เป็นทายาทอัคราบาห์ อะลาดินกลัวว่าเขาจะเสียเจ้าหญิงจัสมินไป หากความจริงถูกเปิดเผย เขาบอกกับจีนี่ว่าเขาต้องการให้จีนี่อยู่ด้วยและปฏิเสธที่จะปล่อยเขาให้เป็นอิสระ จีนี่ผิดหวังในตัวอะลาดินบอกว่า เขากำลังจะสูญเสียความเป็นตัวเองอย่างแท้จริง จาฟาร์ได้รับการช่วยเหลือจาก อีอาโก นกแก้วสัตว์เลี้ยงของเขา และขโมยตะเกียงจาก อะลาดินและกลายเป็นเจ้านายคนใหม่ของจีนี่แทน เขาใช้พรความปรารถนาสองข้อแรกของเขาในการเป็นสุลต่าน และกลายเป็นจอมเวทย์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก พร้อมทั้งจับตัวทหาร และ เสือสัตว์เลี้ยงของจัสมินนาม ราชา ไว้ จากนั้นเขาก็เปิดโปงอลาดินกับเจ้าหญิงจัสมิน ก่อนจะเนรเทศเขาและอาบูไปยังดินแดนรกร้างว่างเปล่า เขาขู่ว่าจะสังหารบิดาของเจ้าหญิงจัสมินและดาเลีย เว้นเสียแต่ว่าเธอจะตกลงเข้าพิธีอภิเษกกับเขา ในพิธีอภิเษก อะลาดินและอาบูสามารถกลับมาอัคราบาห์ได้ จากการช่วยเหลือจากพรมวิเศษ และรับตัวเจ้าหญิงจัสมินที่ขโมยตะเกียงกลับมา จาฟาร์เสก อิอาโก ให้เป็น ร็อก เพื่อตามล่าและได้เปรียบพวกเขา อะลาดินจึงถ่วงเวลาโดยการเยาะเย้ย จาฟาร์ ว่ายังเป็นรองจีนี่ ในแง่ของพลังทั้งหมด เพื่อจะนั้นให้เขาใช้พรความปรารถนาข้อสุดท้าย ให้กลายเป็นสิ่งที่ทรงอำนาจที่สุดในจักรวาล แต่เนื่องจากพื้นที่ในตะเกียงมีไว้สำหรับจีนี่ตนเดียว จีนี่จึงได้รับอิสระ และเปลี่ยนจาฟาร์ เป็นจีนี่ซะเอง เพราะไม่มีเจ้านาย จึงถูกจองจำไว้กับตะเกียงโดยลากอิอาโกเข้าไปข้างในกับเขาด้วย จีนี่โยนตะเกียงของจาฟาร์กลับไปยังถ้ำแห่งสิ่งมหัศจรรย์ และ อะลาดินทำตามสัญญา โดยใช้พรความปรารถนาสุดท้ายของเขาเพื่อปลดปล่อยจีนี่ และทำให้เขาได้เป็น มนุษย์ สุลต่านออกประกาศแก่ชาวเมืองว่า เจ้าหญิงจัสมีนจะเป็นผู้ปกครองคนต่อไป และบอกเธอว่าอะลาดินเป็นคนดี และคู่ควรกับเธอ และจัสมินได้กลับมาอยู่กับอะลาดิน ในขณะที่จีนี่แต่งงานกับดาเลีย และออกเดินทางไปสำรวจโลกกว้างและเริ่มต้นครอบครัวกับลูกชายและลูกสาว โอมาร์ และ เลียน ส่วนอะลาดิน และสุลต่านจัสมิน ก็แต่งงานแล้วเริ่มชีวิตใหม่อย่างมีความสุขนับตั้งแต่นั้น นักแสดง
หมายเหตุ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ อะลาดิน (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2562) |