การเปรียบเทียบระหว่างอัลกุรอานในศตวรรษที่ 21 (ซ้าย) และอัลกุรอานที่เขียนด้วยมือที่เบอร์มิงแฮม (ขวา)
เอกสารตัวเขียนอัลกุรอานเบอร์มิงแฮม (อังกฤษ : Birmingham Quran manuscript ) เป็นแผ่นหนังสัตว์ ที่เขียนอัลกุรอานในช่วงยุคต้นของอิสลาม เอาไว้ โดยในปี ค.ศ. 2015 เอกสารนี้ ซึ่งอยู่ในความถือครองของมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม [ 1] ได้ผ่านการตรวจหาอายุด้วยคาร์บอน แล้ว กำหนดอายุได้ว่า เขียนขึ้นในระหว่าง ค.ศ. 568 และ ค.ศ. 645 (ตรงกับช่วงเวลาระหว่าง 56 ปีก่อน ฮ.ศ. และ ฮ.ศ. 25 ตามปฏิทินอิสลาม)[ 2] [ 3] เอกสารนี้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเอกสารตัวเขียนตะวันออกกลางมินกานา ซึ่งอยู่ในความถือครองของหอสมุดวิจัยแคดเบอรี มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม[ 2]
ตัวเอกสารเขียนด้วยน้ำหมึกบนแผ่นหนังสัตว์ เขียนเป็นภาษาอาหรับ อักษรฮิญาซ และยังคงอ่านได้ชัดเจน[ 3] แผ่นหนังนี้ช่วยรักษาบางส่วนบางตอนของซูเราะฮ์ ที่18 (อัล-กะฮ์ฟ) ถึง 20 (ฏอฮา) เอาไว้[ 4] มีการจัดแสดงเอกสารนี้ที่มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮมเมื่อปี ค.ศ. 2015 หลังจากนั้น ย้ายไปที่พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์เบอร์มิงแฮม จนถึงวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2016[ 5]
การกำหนดอายุ
การหาอายุจากคาร์บอนกัมตรังสี ซึ่งดำเนินการที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด กำหนดอายุของเอกสารนี้ได้เป็น 1465±21 ปีก่อนปัจจุบัน (ก่อน ค.ศ. 1950) ซึ่งเมื่อปรับผลคำนวณแล้ว มั่นใจราว 95.4% ได้ว่า เอกสารเขียนขึ้นระหว่าง ค.ศ. 568–645[ 6] [ 7]
ความสำคัญ
การกำหนดอายุดังกล่าวมีความสำคัญ เนื่องจากศาสดามุฮัมมัด มีชีวิตอยู่ในช่วง ค.ศ. ประมาณ 570 ถึง ค.ศ. 632[ 8] และตามประเพณีของมุสลิมนิกายซุนนี อบูบักร์ (ครองราชย์ ค.ศ. 632-634) เป็นเคาะลีฟะฮ์คนแรกที่รวบรวมอัลกุรอานขึ้น แล้วเคาะลีฟะฮ์อุสมาน จึงทำให้กุรอานเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก แล้วสั่งให้เผาสำเนากุรอานรุ่นก่อนหน้านั้นให้หมด[ 9]
ในประกาศของมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม มุฮัมมัด อีซา วาเลย์ (Muhammad Isa Waley) หัวหน้าหอสมุดแห่งชาติอังกฤษ กล่าวว่า[ 2]
สังคมมุสลิมในสมัยนั้นยังไม่มีฐานะมากพอที่จะเก็บหนังสัตว์ไว้เป็นสิบ ๆ ปี และการจะทำกุรอานฉบับสมบูรณ์นั้นจะต้องใช้หนังสัตว์จำนวนมาก...
เดวิด โธมัส ศาสตราจาร์ยศาสนาคริสต์และอิสลามประจำมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม กล่าวว่า[ 2]
การทดสอบที่กระทำต่อแผ่นหนังเอกสารของเบอร์มิงแฮมนี้ ให้ผลลัพธ์ว่า เป็นไปได้อย่างยิ่งที่แผ่นหนังผืนนี้นำมาจากตัวสัตว์ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาของศาสดามุฮัมมัดหรือไม่นานหลังจากนั้น นี่หมายความว่า อัลกุรอานส่วนที่เขียนลงบนแผ่นหนังผืนนี้สามารถกำหนดอายุได้เป็นไม่เกิน 20 ปีหลังจากมุฮัมมัดเสียชีวิต ส่วนนี้คงเขียนขึ้นในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับรูปแบบของอัลกุรอานซึ่งเราอ่านกันในทุกวันนี้อย่างยิ่ง
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
↑ "Virtual Manuscript Room" . University of Birmingham . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 25 สิงหาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 25 กรกฎาคม 2015 .
↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 "Birmingham Qur'an manuscript dated among the oldest in the world" . University of Birmingham . 22 กรกฎาคม 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 26 ธันวาคม 2018. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2015 .
↑ 3.0 3.1 " 'Oldest' Koran fragments found in Birmingham University" . BBC . 22 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2015 .
↑ "Tests show UK Quran manuscript is among world's oldest" . CNN . 22 กรกฎาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 22 กรกฎาคม 2015 .
↑ Authi, Jasbir (22 กรกฎาคม 2015). "Worldwide media frenzy as 'oldest Koran' found lying forgotten at University of Birmingham" . Birmingham Mail . สืบค้นเมื่อ 23 กรกฎาคม 2015 .
↑ "FAQs: About the Birmingham Qur'an manuscript" . University of Birmingham. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 26 กันยายน 2015. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2015 .
↑ T. F. G. Higham, C. Bronk Ramsey, D. Chivall, J. Graystone, D. Baker, E. Henderson and P. Ditchfield (19 เมษายน 2018). "Radiocarbon Dates from the Oxford AMS System: Archaeometry Datelist 36" . Archaeometry . {{cite journal }}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์ )
↑ Elizabeth Goldman (1995), p. 63, gives 8 June 632, the dominant Islamic tradition. Many earlier (mainly non-Islamic) traditions refer to him as still alive at the time of the invasion of Palestine . See Stephen J. Shoemaker,The Death of a Prophet: The End of Muhammad's Life and the Beginnings of Islam, [ต้องการเลขหน้า ] University of Pennsylvania Press, 2011
↑ Leaman, Oliver (2006). "Canon". The Qur'an: an Encyclopedia . New York, NY: Routledge. pp. 136 –139. ISBN 0-415-32639-7 .
แหล่งข้อมูลอื่น