การใช้ประโยชน์จากหลักการต้นทางเปิด
โอเพนซอร์ส [ a] (อังกฤษ : open source ) เป็นการเปิดเผยรหัสต้นทาง เพื่อให้แก้ไข และแจกจ่ายได้อย่างเสรี ผลิตภัณฑ์ได้รับอนุญาตให้ใช้รหัสต้นทาง[ 4] ออกแบบเอกสาร[ 5] หรือเนื้อหาของผลิตภัณฑ์ ตัวแบบต้นทางเปิด (อังกฤษ : open-source model ) เป็นตัวแบบการพัฒนาซอฟต์แวร์ แบบกระจายอำนาจที่สนับสนุนให้มีการร่วมมือกันอย่างเสรี[ 6] [ 7]
หลักของการพัฒนาซอฟต์แวร์ต้นทางเปิดคือการผลิตแบบเสมอกัน (อังกฤษ : peer production ) โดยมหาชนสามารถเข้าถึงผลิตผล เช่น รหัสต้นทาง, พิมพ์เขียว และเอกสารกำกับโปรแกรมได้อย่างเสรี การเคลื่อนไหวด้านต้นทางเปิดทางด้านซอฟต์แวร์เริ่มโดยเป็นการตอบโต้ข้อจำกัดของซอฟต์แวร์จำกัดสิทธิ์ ตัวแบบถูกใช้สำหรับโครงการ เช่น ใน เทคโนโลยีเหมาะสมต่อต้นทางเปิด (อังกฤษ : open-source appropriate technology )[ 8] และการคิดค้นยาแบบโอเพนซอร์ซ[ 9] [ 10]
ต้นทางเปิดส่งเสริมการเข้าถึงอย่างเสรีผ่านสัญญาอนุญาตต้นทางเปิด หรือสัญญาอนุญาตเสรี ต่อการออกแบบหรือพิมพ์เขียวของผลิตผล และส่งเสริมให้แจกจ่ายการออกแบบหรือพิมพ์เขียวนั้นอย่างสากล[ 11] [ 12] ก่อนคำว่า ต้นทางเปิด จะถูกใช้อย่างแพร่หลาย ผู้พัฒนาและผู้ผลิตใช้คำศัพท์อื่น ทว่าคำว่า โอเพนซอร์ซ ได้รับความนิยมหลังอินเทอร์เน็ต เริ่มแพร่หลาย[ 13] การเคลื่อนไหวซอฟต์แวร์ต้นทางเปิดเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความชัดเจนด้านลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาต ชื่อโดเมน และประเด็นเกี่ยวกับผู้บริโภค
โดยทั่วไปแล้ว ต้นทางเปิดหมายถึงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีรหัสต้นทางซึ่งเข้าถึงได้โดยสาธารณะ เพื่อใช้ หรือเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับ รหัสที่ถูกเปิดเผยได้รับการเผยแพร่ภายใต้เงื่อนไขของสัญญาอนุญาตซอฟต์แวร์ โดยเงื่อนไขดังกล่าวอาจจะให้สิทธิ์นักเขียนโปรแกรมที่จะร่วมมือกันพัฒนารหัสต้นทาง และแบ่งปันการเปลี่ยนแปลงกับชุมชน
การใช้ประโยชน์
การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับต้นทางเปิด ยังจุดประกายให้งานวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพ มีความโปร่งใสและเสรีภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น CAMBIA [ 14] แม้กระทั่งวิธีวิทยาทางงานวิจัยเองก็สามารถได้ประโยชน์จากการประยุกต์ใช้หลักต้นทางเปิด[ 15] การเคลื่อนไหวเกี่ยวกับต้นทางเปิด ยังจุดประกายให้เกิดการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ต้นทางเปิด อีกด้วย
ซอฟต์แวร์
เบลนเดอร์ ทำงานอยู่บน Windows 7
ซอฟต์แวร์ต้นทางเปิด คือซอฟต์แวร์ที่เผยแพร่รหัสต้นทาง ของมันสู่สาธารณะ เปิดโอกาสในการคัดลอก, ดัดแปลง และแจกจ่ายรหัสต้นทางซ้ำได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย[ 16] LibreOffice และ GIMP เป็นตัวอย่างของซอฟต์แวร์ต้นทางเปิด
เริ่มต้นจากการเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อซอฟต์แวร์เสรี (free software) ในช่วง พ.ศ. 2526 จนกระทั่งในปี 2531 คำว่าซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซได้ถูกนำมาใช้แทนคำว่า "ฟรี" เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจและให้ความรู้สึกสบายใจต่อทั้งผู้ใช้และผู้พัฒนา รวมถึงคำว่า ฟรี ในลักษณะของคำว่าเสรีนอกเหนือจากคำว่าฟรีในลักษณะไม่เสียค่าใช้จ่าย[ 17] ผู้ใช้งานรวมถึงผู้พัฒนาสามารถนำซอฟต์แวร์ มาใช้งาน แก้ไข แจกจ่าย โดยสามารถนำมาปรับปรุงทั้งในลักษณะส่วนตัว หรือในหน่วยงานเอกชนได้ ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซอนุญาตให้ทุกคนสามารถนำซอฟต์แวร์ไปพัฒนา รวมถึงวางขายและทำการตลาด ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซที่เป็นที่รู้จักกันดีได้แก่ เพิร์ล , ไฟร์ฟอกซ์ , ลินุกซ์ , อะแพชี เว็บเซิร์ฟเวอร์ ลักษณะเงื่อนไขทางลิขสิทธิ์ที่นิยมได้ สัญญาอนุญาตสาธารณะทั่วไปของกนู (จีพีแอล) และ สัญญาอนุญาตแจกจ่ายซอฟต์แวร์ของเบิร์กลีย์ (บีเอสดี) จากรายงานของกลุ่มสแตนดิชประมาณการประหยัดงบประมาณจากการใช้งานซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ซได้ 6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อปี[ 18]
หมายเหตุ
↑ นอกจากคำว่า ต้นทางเปิด และ โอเพนซอร์ส แล้ว ยังมีหลายคำที่สามารถใช้แทนกันได้ เช่น ต้นฉบับเปิด (ระบบศัพท์บัญญัติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา บัญญัติทั้งคำว่า "รหัสต้นทาง" และ "รหัสต้นฉบับ"[ 1] ส่วน WeChat ใช้คำว่า "รหัสต้นทาง" [ 2] ) และ โอเพนซอร์ซ (โอเพนซอร์ซ เป็นการสะกดตามการถอดศัพท์ราชบัณฑิตยสถาน ส่วน โอเพนซอร์ส เป็นการสะกดตามระบบศัพท์บัญญัติ สำนักงานราชบัณฑิตยสภา[ 1] และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ[ 3] ) เป็นต้น
อ้างอิง
↑ 1.0 1.1 "ศัพท์บัญญัติ ๔๐ สาขาวิชา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา" .{{cite web }}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์ )
↑ "WeChat - รหัสต้นทาง" . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 30 พ.ค. 2560.
↑ "โครงการโอเพนซอร์ส" .{{cite web }}
: CS1 maint: url-status (ลิงก์ )
↑ "The Open Source Definition" . Open Source Org . 7 July 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2007-06-11. สืบค้นเมื่อ 2020-01-22 . Open source doesn't just mean access to the source code.
↑ "What is Open Source Software" . Diffingo Solutions Inc . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-10-28. สืบค้นเมื่อ 2023-03-09 . Open source software differs from other software because it has a less restrictive license agreement: Instead of using a restrictive license that prevents you from modifying the program or sharing it with friends for example, sharing and modifying open-source software is encouraged. Anyone who wishes to do so may distribute, modify or even create derivative works based on that source code!
↑ Levine, Sheen S.; Prietula, M. J. (2013). "Open Collaboration for Innovation: Principles and Performance". Organization Science . 25 (5): 1414–1433. arXiv :1406.7541 . doi :10.1287/orsc.2013.0872 . ISSN 1047-7039 . S2CID 6583883 . SSRN 1096442 .
↑ Raymond, Eric S. (2001). The cathedral and the bazaar: musings on Linux and Open Source by an accidental revolutionary . OReilly. ISBN 978-0-596-00108-7 .[ต้องการเลขหน้า ]
↑ Pearce, Joshua M (2012). "The Case for Open Source Appropriate Technology" . Environment, Development and Sustainability . 14 (3): 425–431. doi :10.1007/s10668-012-9337-9 . ISSN 1387-585X .
↑ Menon, Sreelatha (1 March 2009). " "Science 2.0 is here as CSIR resorts to open-source drug research for TB" " . Business Standard India – โดยทาง Business Standard.
↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ OpenWetWare
↑ Lakhani, K.R.; von Hippel, E. (June 2003). "How Open Source Software Works: Free User to User Assistance" . Research Policy . 32 (6): 923–943. doi :10.1016/S0048-7333(02)00095-1 . hdl :1721.1/70028 . ISSN 0048-7333 . SSRN 290305 .
↑ Gerbe, Aurona; Molefo, Onkgopotse; Van der Merwe, Alta (2010). "Documenting open-source migration processes for re-use". ใน Kotze, P.; Gerber, A.; van der Merwe, A.; และคณะ (บ.ก.). Proceedings of the SAICSIT 2010 Conference — Fountains of Computing Research . ACM Press. pp. 75–85. CiteSeerX 10.1.1.1033.7791 . doi :10.1145/1899503.1899512 . ISBN 978-1-60558-950-3 . S2CID 11970697 .
↑ Weber 2004 harvnb error: no target: CITEREFWeber2004 (help ) [ต้องการเลขหน้า ]
↑ " 'Open-Source Practices for Biotechnology' — Cambia — Enabling Innovation" . Cambia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-11-01. สืบค้นเมื่อ 2012-10-25 .
↑ Pearce, Joshua M. (1 August 2012). "Open Source Research in Sustainability". Sustainability: the Journal of Record . 5 (4): 238–243. doi :10.1089/sus.2012.9944 .
↑ "FAQ | LucidWorks" . Lucidimagination.com. 8 August 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 28 April 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-10-25 .
↑ " "Frequently Asked Questions". Open Source Initiative" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2006-04-23. สืบค้นเมื่อ 2006-04-23 .
↑ Standish Newsroom - Open Source. เก็บถาวร 2012-01-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Press release. 2008-04-16
ดูเพิ่ม