ภาษาคือภาษาย่อยที่มีทัพบกและทัพเรือภาษาคือภาษาย่อยที่มีทัพบกและทัพเรือ (อังกฤษ: a language is a dialect with an army and a navy) เป็นสำนวนหนึ่ง[1][2][3] ที่กล่าวถึงการตัดสินโดยอำเภอใจ[4]ว่าอะไรคือภาษาและอะไรคือภาษาย่อยหรือภาษาถิ่น สำนวนนี้กล่าวว่า สถานภาพทางการเมืองและสังคม[5]มักมีอิทธิพลต่อมุมมองของผู้คนว่า ภาษาที่ใช้ในสังคมนั้นควรจัดเป็นภาษาถิ่นหรือไม่ นักวิชาการทางด้านภาษายิดดิชและนักภาษาศาสตร์เชิงสังคม แมกซ์ ไวน์ไรค์ (Max Weinreich) เป็นผู้ที่ทำให้สำนวนนี้เป็นที่รู้จักในโลกภาษาศาสตร์ ซึ่งเป็นสำนวนที่แนะนำโดยลูกศิษย์ของแมกซ์ ไวน์ไรค์ ความหมายในสำนวน "ภาษาคือภาษาย่อยที่มีทัพบกและทัพเรือ" นั้น คำว่า "กองทัพ" เปรียบเทียบกับผู้ที่มีอำนาจปกครองประเทศหนึ่งอยู่ (ผู้ใดมีกองทัพผู้นั้นมีอำนาจ) ฉะนั้นผู้ที่มีกองทัพก็เป็นผู้ที่สามารถกำหนดได้ว่าอะไรคือภาษาอะไรคือภาษาถิ่น อาทิ ในประเทศไทย รัฐบาลไทยกำหนดว่า ภาษาประจำชาติคือ ภาษาไทยมาตรฐาน แต่ภาษาอื่น ๆ ที่พูดในประเทศถือเป็นภาษาถิ่น เป็นต้น ในขณะเดียวกันบ้างก็ถือว่าภาษาไทยถิ่นอีสานเป็นภาษาถิ่นหนึ่งของภาษาไทย (a dialect of Thai) แต่บ้างก็ถือว่าเป็นภาษาถิ่นหนึ่งของภาษาลาว (a dialect of Lao) ในสแกนดิเนเวียในสแกนดิเนเวีย ผู้พูดภาษานอร์เวย์ ผู้พูดภาษาเดนมาร์ก และ ผู้พูดภาษาสวีเดน สามารถสื่อภาษาของตัวเองกับผู้พูดที่มาจากนอร์เวย์ เดนมาร์ก และ สวีเดน กันได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม แต่ละรัฐก็ไม่ถือว่าภาษาของตนเองเป็นภาษาถิ่นของภาษาเดียวกัน รัฐบาลในสามประเทศนี้ไม่กำหนดว่าภาษาตนเองเป็น ภาษาสแกนดิเนเวียถิ่นนอร์เวย์ ภาษาสแกนดิเนเวียถิ่นเดนมาร์ก และภาษาสแกนดิเนเวียถิ่นสวีเดน เป็นต้น ในเอเชียใต้ในประเทศอินเดีย และ ประเทศปากีสถาน ผู้พูดภาษาฮินดี กับ ผู้พูดภาษาอูรดู สามารถใช้ภาษาแม่ของตนเองสื่อสารและเข้าใจกันได้เป็นอย่างดี แต่รัฐบาลของสองประเทศไม่ถือว่าทั้งสองภาษานั้นเป็นภาษาเดียวกัน หรือว่าเป็นภาษาเดียวกันที่ใช้ในต่างท้องถิ่น แต่กลับถือว่าสองภาษานี้เป็นภาษาที่แยกกัน โดยภาษาฮินดีเป็นภาษาที่พูดโดยชาวฮินดู และ ภาษาอูรดูโดยชาวมุสลิม ในประเทศจีนในประเทศจีน ภาษาจีนกลาง ภาษาจีนแต้จิ๋ว ภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาจีนเซี่ยงไฮ้ ฯลฯ เป็นภาษาที่ผู้พูดมิสามารถฟังเข้าใจกันได้เลย แต่รัฐบาลจีนถือว่าภาษาเหล่านี้เป็นภาษาเดียวกันเพียงแต่ใช้ในต่างท้องถิ่น อ้างอิง
อ่านเพิ่ม
|