Share to:

 

อักษรนำ

อักษรนำ หมายถึง พยัญชนะสองตัวเดียวไม่เรียงกัน และไม่ผสมในสระเดียวกัน

อักษรนำ คล้ายคลึงกับคำควบกล้ำ แต่คำควบกล้ำแท้จะประสานเสียงที่ออกไม่เท่าอักษรนำ ในขณะที่คำควบกล้ำไม่แท้จะออกเสียงตัวควบกล้ำหรือเปลี่ยนเป็นเสียงอื่นเลย

ข้อบังคับของการใช้อักษรนำต่างๆ

พยัญชนะตัวแรกอาจจะเป็นอักษรสูง อักษรกลาง หรืออักษรต่ำก็ได้ เช่นเดียวกับตัวหลัง แต่ถ้า

  • อักษรสูงนำ พยัญชนะตัวหลัง อาจจะเป็นอักษรสูง อักษรกลาง หรืออักษรต่ำก็ได้
  • อักษรกลางนำ พยัญชนะตัวหลัง เป็นอักษรต่ำได้เพียงอย่างเดียว
  • อักษรต่ำนำ พยัญชนะตัวหลัง เป็นอักษรต่ำได้เพียงอย่างเดียว

การใช้ ห และ อ นำ

ห จะใช้นำได้เฉพาะอัฒสระ (คือ พยัญชนะที่มีเสียงกึ่งสระกึ่งพยัญชนะ ได้แก่ ย ร ล ว) และพยัญชนะตัวสุดท้ายของพยัญชนะวรรคเท่านั้น (ได้แก่ แต่ ณ ไม่มีที่ใช้) เช่น หยด หยอก หย่า หรีด หลง หล่อ หวัง หงอก หญ้า หญิง หนู หมา ฯลฯ

ในขณะที่ อ จะใช้นำได้เฉพาะตัว ย และมีอยู่เพียง 4 คำเท่านั้น ได้แก่ อย่า อยู่ อย่าง อยาก โดยมีผู้คิดค้นนีโมนิค (Mnemonic หรือ ข้อความช่วยจำ) ขึ้นว่า อย่าอยู่อย่างอยาก

การเขียน

จะเขียนพยัญชนะตัวแรกตามด้วยพยัญชนะตัวที่สอง โดยพยัญชนะตัวแรกอาจจะเป็นอักษรหมู่ใดก็ได้ เช่นเดียวกับพยัญชนะตัวหลัง โดยถ้าตัวหลังเป็นอักษรเดี่ยว พยัญชนะตัวแรกก็จะบังคับให้ผันพยัญชนะตัวที่สองขึ้นเสียงสูง

สระตัวใดที่ใช้เขียนไว้ข้างหน้า ก็ต้องเขียนไว้ข้างหน้าอักษรนำเหมือนอักษรธรรมดา เช่น เขนย แสยง ไฉน ฯลฯ สระตัวใดใช้เขียนคร่อม ก็ต้องเขียนคร่อมอักษรนำเหมือนอักษรธรรมดาด้วย เช่น เฉลียว เขยิบ ฯลฯ สระที่ใช้เขียนไว้ข้างบน ข้างล่าง และหลังพยัญชนะ รวมทั้งรูปวรรณยุกต์ด้วย ให้เขียนไว้ที่ตัวที่ 2 ของอักษรนำ เช่น สระ สมิง ฉลุ ฯลฯ ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะเขียนคู่กันเป็น 2 ตัว ก็ต้องถือว่าได้ประสมเป็นตัวเดียวกันแล้ว เพราะเราไม่มีการเขียนพยัญชนะ 2 ตัว ให้เป็นตัวเดียวกันได้เหมือนพยัญชนะบาลีและสันสกฤต

การออกเสียง

การออกเสียง จะออกเสียงพยัญชนะสองตัวผสมกันคนละครึ่ง พอแยกออกได้ว่าพยัญชนะอะไรผสมกัน แต่การผสมนี้จะไม่สนิทเท่าอักษรควบแท้ มียกเว้นอยู่สองกรณี ที่จะไม่ออกเสียงพยัญชนะอีกตัว ได้แก่

  • ตัว ห เมื่อเป็นตัวนำอักษรเดี่ยว ไม่ต้องออกเสียงคนละครึ่งเหมือนอักษรนำอื่น ๆ แต่ให้ออกเสียงประสมกันสนิทเหมือนอักษรควบแท้ เช่น หนู หมอ ใหญ่ ฯลฯ
  • ตัว อ เมื่อนำหน้า ตัว ย ไม่ต้องออกเสียงเหมือนอักษรนำธรรมดา ให้ออกเสียงทำนองเดียวกับ ห นำ แต่เป็นเสียงอักษรกลาง คือ อย่า อยู่ อย่าง อยาก มี 4 คำเท่านั้น

ถ้าพยัญชนะข้างหน้าเป็นอักษรกลางหรืออักษรสูง แล้วพยัญชนะข้างหลังเป็นอักษรต่ำที่เป็นอักษรเดี่ยว เวลาอ่านให้ผันเสียงอักษรต่ำนั้นเป็นเสียงสูงตามอักษรที่เป็นตัวนำ แต่ถ้าพยัญชนะข้างหน้าเป็นอักษรต่ำ หรือพยัญชนะข้างหลังไม่ใช่อักษรต่ำที่เป็นอักษรเดี่ยว ให้อ่านออกเสียงพยัญชนะนั้นตามปกติเมื่ออกเสียงจะต้องมีคำควบกล้ำผสมอยู่ด้วย

วิธีสังเกตอักษรนำ

  1. สังเกตเสียง ออกเสียงประสมกันแต่ไม่กล้ำกันสนิทเหมือนอักษรควบแท้ สามารถแยกเป็นสองพยางค์ได้ ยกเว้น และ ที่เป็นตัวนำ (กล่าวคือ อักษรนำที่ ห และ อ นำนั้นเป็นอักษรนำ แต่ไม่อ่านแบบอักษรนำ )
  2. คำที่มีสระหน้าหรือสระคร่อม (สระหน้า บน-หลัง) คำที่มีอักษรนำส่วนใหญ่จะอยู่ติดกับอักษรหลัก และรูปสระล้อมรอบอยู่ด้านนอก เช่น เฉลย แสลง (สะ-แหลง) ไฉน เสมียน เถลิง เสลา ฯลฯ มีส่วนน้อยที่อักษรแยกจากกันเช่น ขโมย ทแยง สแลง (สะ-แลง)
  3. สังเกตรูปพยัญชนะ คือ ถ้าอักษรนำเป็นอักษรสูง หรืออักษรกลาง อักษรเดี่ยวซึ่งเป็นตัวที่ 2 จะต้องออกเสียงเป็นเสียงสูงหรือกลางตามไปด้วย เช่น กนก ถนน สนิม ขนม ฯลฯ ในที่นี้ นก นน และ นิม ต้องออกเสียงให้เป็น หนก หนน หนิม ซึ่งผิดกับเมื่ออยู่ตามลำพัง
Kembali kehalaman sebelumnya