Share to:

 

การฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บง

ราชอาณาจักรฝรั่งเศส

Royaume de France
ค.ศ. 1814–1815
ค.ศ. 1815–1830
คำขวัญมงต์ฌัว แซ็งต์ เดอนี!
"ก่อความสุขนักบุญเดอนี!"
เพลงชาติเลอเรอทูร์เดส์แพร็งส์ฟร็องเซส์อาปารีส์
"การเสด็จนิวัติปารีสของเหล่าเจ้าชายฝรั่งเศส"
ราชอาณาจักรฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1818
เมืองหลวงปารีส
ภาษาทั่วไปฝรั่งเศส
ศาสนา
โรมันคาทอลิก
การปกครองรัฐเดี่ยว ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ
กษัตริย์ 
• 1814–1824
พระเจ้าหลุยส์ที่ 18
• 1824–1830
พระเจ้าชาร์ลที่ 10
นายกรัฐมนตรี 
• ค.ศ. 1815 (คนแรก)
ชาร์ล เดอ เบเนว็องต์
• ค.ศ. 1829–1830 (คนสุดท้าย)
ฌูล เดอ ปอลีญัก
สภานิติบัญญัติรัฐสภา
สภาขุนนาง
สภาผู้แทน
ประวัติศาสตร์ 
3 พฤษภาคม ค.ศ. 1814
30 พฤษภาคม ค.ศ. 1814
4 มิถุนายน ค.ศ. 1814
20 มีนาคม – 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1815
6 เมษายน ค.ศ. 1823
26 กรกฎาคม ค.ศ. 1830
สกุลเงินฟรังก์ฝรั่งเศส
ก่อนหน้า
ถัดไป
จักรวรรดิฝรั่งเศสที่หนึ่ง
1815:
จักรวรรดิฝรั่งเศสที่หนึ่ง
1830:
ราชอาณาจักรฝรั่งเศส

การฟื้นฟูราชวงศ์บูร์บง (ฝรั่งเศส: La Restauration; ลาเรสโตราซียง) คือช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสซึ่งเริ่มตั้งแต่จักรพรรดินโปเลียนก้าวลงจากพระราชอำนาจในปี พ.ศ. 2357 ไปจนถึงการปฏิวัติเดือนกรกฎาคมในปี พ.ศ. 2373

พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งราชวงศ์บูร์บงถูกถอดถอนออกจากพระราชอำนาจโดยการปฏิวัติฝรั่งเศส (พ.ศ. 2332-2342) ตามมาด้วยการปกครองของสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่หนึ่ง (พ.ศ. 2335-2347) และจักรวรรดิฝรั่งเศสที่หนึ่งของจักรพรรดินโปเลียน (พ.ศ. 2347-2357 และ 2358) ซึ่งถูกบังคับให้สิ้นสุดลงโดยสงครามประสานมิตรครั้งที่หก เมื่อพันธมิตรของชาติมหาอำนาจในยุโรปร่วมกันฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ในฝรั่งเศสและคืนราชบัลลังก์แก่รัชทายาทของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16

ราชวงศ์บูร์บงฟื้นฟูดำเนินอยู่ในช่วงวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2357 จนกระทั่งเกิดการลุกฮือครั้งสำคัญในการปฏิวัติเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2373 ซึ่งมีช่วงที่จักรพรรดินโปเลียนหวนคืนสู่พระราชอำนาจเป็นเวลา 100 วัน (10 มีนาคม - 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2358) ก่อนที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 จะขึ้นสู่บัลลังก์ตามเดิม ต่อมาระบอบกษัตริย์ภายใต้ราชวงศ์บูร์บงก็เสื่อมความนิยมลงจนพระราชวงศ์ถูกบังคับให้ต้องเสด็จลี้ภัยไปยังเกนต์

ในช่วงของการฟื้นฟูราชวงศ์ การปกครองเป็นแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งแตกต่างไปจากการปกครองระบบโบราณของกษัตริย์ฝรั่งเศสก่อนการปฏิวัติ ทำให้พระมหากษัตริย์มีข้อจำกัดบางประการในการใช้พระราชอำนาจปกครองแผ่นดิน ยุคนี้ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นช่วงที่ฝ่ายอนุรักษนิยมตอบโต้การปฏิวัติอย่างรุนแรงและมีความไม่สงบในสังคมที่ไม่รุนแรงแต่ยาวนานต่อเนื่อง[1] นอกจากนี้คริสตจักรโรมันคาทอลิกยังกลับมามีอิทธิพลต่อการเมืองฝรั่งเศสอีกครั้งหนึ่ง[2]

ภาพรวมทางประวัติศาสตร์

ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2357 กองทัพของฝ่ายประสานมิตรครั้งที่หกฟื้นฟูราชบัลลังก์ฝรั่งเศสแก่พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 หรือที่ทรงถูกเรียกว่า ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์สายราชวงศ์บูร์บง โดยนักประวัติศาสตร์นิพนธ์กลุ่มที่ไม่ปรารถนาการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ จากนั้นรัฐธรรมนูญ (ธรรมนูญ พ.ศ. 2357) จึงถูกร่างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าชาวฝรั่งเศสทุกคนมีความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย[3] แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งพระราชสิทธิ์สำคัญบางอย่างสำหรับพระมหากษัตริย์และขุนนาง

พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ทรงมีฐานะเป็นประมุขสูงสุดแห่งรัฐ มีพระราชอำนาจบัญชาการกองทัพบกและกองทัพเรือ, ประกาศสงคราม, กระทำสนธิสัญญาสันติภาพ, สนธิสัญญาการค้า และสนธิสัญญาการเป็นพันธมิตร, แต่งตั้งข้าราชการทุกตำแหน่ง และออกกฏระเบียบข้อบังคับที่มีความจำเป็นต่อการบังคับใช้กฎหมายและความมั่นคงของรัฐ[4] ทรงมีแนวคิดเสรีนิยมมากกว่าพระอนุชา พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ซึ่งสืบทอดราชสมบัติต่อจากพระองค์ เห็นได้จากการที่ทรงเห็นชอบแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีที่มีแนวความคิดสายกลางหลายชุด[5]

พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 สวรรคตในเดือนกันยายน พ.ศ. 2367 พระอนุชา พระเจ้าชาร์ลที่ 10 จึงสืบราชสมบัติต่อจากพระองค์ พระเจ้าชาร์ลที่ 10 ครองราชย์ในแนวทางอนุรักษนิยมมากกว่ารัชกาลของพระเชษฐา ทรงประกาศใช้กฎหมายแนวขวาจัด เช่น พระราชบัญญัติห้ามทำลายรูปเคารพ (Anti-Sacrilege Act; พ.ศ. 2368 - 2373) ซึ่งทำให้ความนิยมในตัวพระองค์เสื่อมถอยลง พระองค์กับบรรดารัฐมนตรีพยายามจะชี้นำผลการเลือกตั้งทั่วไปในปี พ.ศ. 2373 ด้วยการออกกฤษฎีกาเดือนกรกฎาคม (July Ordinances) ซึ่งก่อให้เกิดการปฏิวัติตอบโต้การกระทำของพระเจ้าชาร์ลที่ 10 ต่อมาในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2373 พระเจ้าชาร์ลสละราชสมบัติแก่พระนัดดา อองรี ดยุกแห่งบอร์โดซ์ แต่รัชกาลของพระเจ้าอองรีกลับสิ้นสุดลงในวันที่ 9 สิงหาคม เมื่อสภาผู้แทนมีมติประกาศให้หลุยส์-ฟีลิป แห่งออร์เลอองส์ ที่ก่อนหน้านี้ทรงปกครองฝรั่งเศสในฐานะผู้สำเร็จราชการแทน ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งชาวฝรั่งเศส อันเป็นจุดเริ่มต้นของยุคราชาธิปไตยเดือนกรกฎาคม

อ้างอิง

  1. Davies 2002, pp. 47–54
  2. Furet, p. 296
  3. The Charter of 1814, Public Law of the French: Article 1
  4. The Charter of 1814, Form of the Government of the King: Article 14
  5. Price, p 93

อ่านเพิ่ม

  • Artz, Frederick B. "The Electoral System in France during the Bourbon Restoration, 1815-30." Journal of Modern History 1.2 (1929): 205–218. online
  • Artz, Frederick (1934). Reaction and Revolution, 1814–1832; covers all of Europe
  • Artz, Frederick. 1931. France Under the Bourbon Restoration, 1814–1830 (Harvard University Press, 1931) online free; the main scholarly history
  • Beach, Vincent W. (1971) Charles X of France: His Life and Times (Boulder: Pruett, 1971) 488 pp
  • Brogan, D. W. "The French Restoration: 1814-1830" History Today (Jan 1956) 6#1 pp 28-36; part 2, (Feb 1956), 6#2, pp 104-109..
  • Bury, J.P.T. (2003). France, 1814–1940. Routledge. ISBN 0-415-31600-6.
  • Charle, Christophe. (1994) A Social History of France in the 19th Century (1994) pp 1–52
  • Collingham, Hugh A. C. (1988). The July Monarchy: A Political History of France, 1830–1848. London: Longman. ISBN 0-582-02186-3.
  • Counter, Andrew J. "A Nation of Foreigners: Chateaubriand and Repatriation." Nineteenth-Century French Studies 46.3 (2018): 285–306. online
  • Crawley, C. W. (1969). The New Cambridge Modern History. Volume IX: War and Peace in an Age of Upheaval, 1793–1830. Cambridge: Cambridge UP. ISBN 978-0-521-04547-6.
  • Davies, Peter (2002). The Extreme Right in France, 1789 to the Present: From De Maistre to Le Pen. Routledge. ISBN 0-415-23982-6.
  • Fenby, Jonathan. "Return of the King." History Today (Oct 2015) 65#10 pp 49–54; Very well illustrated popular history.
  • Fortescue, William. (1988) Revolution and Counter-revolution in France, 1815-1852 (Blackwell, 1988).
  • Fozzard, Irene. "The Government and the Press in France, 1822 to 1827." English Historical Review 66.258 (1951): 51–66. online
  • Furet, François. Revolutionary France 1770-1880 (1995), pp 269–325. survey of political history by leading scholar
  • Hall, John R. The Bourbon Restoration (1909) online free
  • Haynes, Christine. Our Friends the Enemies. The Occupation of France after Napoleon (Harvard University Press, 2018) online reviews
  • Hudson, Nora Eileen (1973). Ultra-Royalism and the French Restoration. Octagon Press. ISBN 0-374-94027-4.
  • Jardin, Andre, and Andre-Jean Tudesq. Restoration and Reaction 1815–1848 (1988)
  • Kent, Sherman (1975). The Election of 1827 in France. Harvard UP. ISBN 0-674-24321-8.
  • Kelly, George A. "Liberalism and aristocracy in the French Restoration." Journal of the History of Ideas 26.4 (1965): 509–530. Online เก็บถาวร 2018-06-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  • Kieswetter, James K. "The Imperial Restoration: Continuity in Personnel and Policy under Napoleon I and Louis XVIII." Historian 45.1 (1982): 31–46. online
  • Knapton, Ernest John. (1934) "Some Aspects of the Bourbon Restoration of 1814." Journal of Modern History (1934) 6#4 pp: 405–424. in JSTOR
  • Kroen, Sheryl T. (Winter 1998). "Revolutionizing Religious Politics during the Restoration". French Historical Studies. 21 (1): 27–53. doi:10.2307/286925. JSTOR 286925.
  • Lucas-Dubreton, J. The Restoration and the July Monarchy (1929) pp 1–173.
  • Merriman, John M. ed. 1830 in France (1975). 7 long articles by scholars.
  • Newman, Edgar Leon (March 1974). "The Blouse and the Frock Coat: The Alliance of the Common People of Paris with the Liberal Leadership and the Middle Class during the Last Years of the Bourbon Restoration". The Journal of Modern History. 46 (1): 26–59. doi:10.1086/241164. S2CID 153370679.
  • Newman, Edgar Leon, and Robert Lawrence Simpson. Historical Dictionary of France from the 1815 Restoration to the Second Empire (Greenwood Press, 1987) online edition เก็บถาวร 2011-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
  • Pilbeam, Pamela (June 1989). "The Economic Crisis of 1827–32 and the 1830 Revolution in Provincial France". The Historical Journal. 32 (2): 319–338. doi:10.1017/S0018246X00012176.
  • Pilbeam, Pamela (June 1982). "The Growth of Liberalism and the Crisis of the Bourbon Restoration, 1827–1830". The Historical Journal. 25 (2): 351–366. doi:10.1017/S0018246X00011596.
  • Pilbeam, Pamela (1999). Alexander, Martin S. (บ.ก.). French History Since Napoleon. Arnold. ISBN 0-340-67731-7.
  • Pinkney, David. The French Revolution of 1830 (1972)
  • Price, Munro. (2008). The Perilous Crown: France between Revolutions. Pan. ISBN 978-0-330-42638-1.
  • Rader, Daniel L. (1973). The Journalists and the July Revolution in France. The Hague: Martinus Nijhoff. ISBN 90-247-1552-0.
  • de Sauvigny, Guillaume de Bertier. The Bourbon Restoration (1966)
  • Tombs, Robert (1996). France 1814–1914. London: Longman. ISBN 0-582-49314-5.
  • Stewart, John Hall. The restoration era in France, 1814-1830 (1968) 223pp
  • Wolf, John B. (1940) France: 1815 to the Present (1940) online free pp 1–75.

ประวัติศาสตร์นิพนธ์

  • Alexander, Robert (2003). Re-Writing the French Revolutionary Tradition: Liberal Opposition and the Fall of the Bourbon Monarchy. Cambridge UP. ISBN 0-521-80122-2.
  • Haynes, Christine. Our Friends the Enemies. The Occupation of France after Napoleon (Harvard University Press, 2018) online reviews on H-DIPLO 2020
  • Haynes, Christine. "Remembering and Forgetting the First Modern Occupations of France,” Journal of Modern History 88:3 (2016): 535-571 online
  • Sauvigny, G. de Bertier de (Spring 1981). "The Bourbon Restoration: One Century of French Historiography". French Historical Studies. 12 (1): 41–67. doi:10.2307/286306. JSTOR 286306.

ข้อมูลปฐมภูมิ

  • Anderson, F.M. (1904). The constitutions and other select documents illustrative of the history of France, 1789–1901. The H. W. Wilson company 1904., complete text online
  • Collins, Irene, ed. Government and society in France, 1814-1848 (1971) pp 7–87. Primary sources translated into English.
  • Lindsann, Olchar E. ed. Liberté, Vol. II: 1827-1847 (2012) original documents in English translation regarding politics, literature, history, philosophy, and art. online free; 430pp
  • Stewart, John Hall ed. The Restoration Era in France, 1814-1830 (1968) 222pp; excerpts from 68 primary sources, plus 87pp introduction

แหล่งข้อมูลอื่น

48°49′N 2°29′E / 48.817°N 2.483°E / 48.817; 2.483

Kembali kehalaman sebelumnya