การลดธงครึ่งเสาการลดธงครึ่งเสา (อังกฤษ: half-staff, half-mast) เป็นการชักธงให้อยู่ใต้ยอดเสากระโดงเรือ เสาบนบก หรือเสาบนอาคาร ในประเทศถือเป็นสัญลักษณ์การให้เกียรติ, การไว้อาลัย, ขอความช่วยเหลือ หรือในบางกรณีเป็นการทำความเคารพ[1] ธรรมเนียมการลดธงครึ่งเสามีมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17[ต้องการอ้างอิง] ตามแหล่งข้อมูลบางแห่งระบุว่ามีการลดธงลงเพื่อเปิดทางให้ "ธงแห่งความตายที่มองไม่เห็น" (the invisible flag of death) ได้ชักอยู่บนยอดเสาธงนั้น[2] กระนั้นยังมีการโต้เถียงว่าเมื่อชักธงครึ่งเสา ควรวางธงไว้บริเวณไหนของเสาธง โดยส่วนใหญ่แนะนำว่าควรชักธงลงครึ่งเสาให้เท่ากับความกว้างหรือความยาวของธงเท่านั้น[3][4] ระเบียบปฏิบัติของธงชาติอังกฤษคือ จะต้องชักธงขึ้นไม่น้อยกว่าสองในสามของความสูงเสาธง โดยให้ความสูงของธงอยู่ระหว่างยอดธงกับยอดเสาอย่างน้อยหนึ่งส่วน[5] เป็นเรื่องปกติที่วลีดังกล่าวจะถูกตีความตามตัวอักษร และธงจะถูกชักขึ้นเพียงครึ่งเสาธงเท่านั้น[6] แม้ว่าผู้มีอำนาจบางส่วนไม่ปฏิบัติตามสิ่งนั้น[4] สำหรับวิธีการลดธงครึ่งเสาในประเทศไทยนั้น จะต้องเชิญธงขึ้นไปสู่ยอดเสาเสียก่อน จากนั้นจึงลดธงลงมาอยู่ในระดับครึ่งเสา (ตามระเบียบ นร.ได้กำหนดให้ลดลงจากยอดเสาเพียง 1 ใน 3 ของความสูงเสา หรืออีกนัยหนึ่ง ธงจะอยู่ที่ความสูง 2 ใน 3 ส่วน ของความสูงเสาธง) หรือตามระดับอื่นที่กำหนดไว้ในกฎหมาย นอกจากนั้น เมื่อจะมีการเชิญธงจากยอดเสาในเวลาสิ้นสุดของวัน จะต้องเชิญธงกลับขึ้นไปที่ยอดเสาเสียก่อน จึงจะลดธงได้เช่นกัน[7] การไว้ทุกข์ด้วยธงชาติสำหรับบางประเทศยังอาจมีธรรมเนียมที่ต่างออกไป เช่น ในกรณีของประเทศญี่ปุ่น จะมีการเพิ่มแถบผ้าสีดำไว้เหนือธงชาติ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการไว้ทุกข์ สำหรับธงชาติซาอุดีอาระเบีย ธงชาติโซมาลีแลนด์ ธงชาติอิหร่าน ธงชาติอัฟกานิสถานและธงชาติอิรัก ถือเป็นธงชาติที่จะไม่มีการลดธงครึ่งเสา เนื่องจากข้อความชะฮาดะฮ์ หรือ(และ) ตักบีร์บนธงมีความหมายถึง พระนามของอัลลอฮ์ (พระเจ้า) จึงไม่อาจใช้ธงนี้เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความอาลัยได้ ประเทศไทยการลดธงครึ่งเสาเพื่อแสดงความไว้อาลัยต่อการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศครั้งแรกในสยามเกิดขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เมื่อคราวสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินีสวรรคต (ขณะดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระนางรำเพยภมราภิรมย์ สิ้นพระชนม์) เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2404 บรรดาฝรั่งลดธงลงครึ่งเสา 3 วัน ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานพระยาศรีพิพัฒน์หัวหน้าคณะทูตสยามไปเจริญพระราชไมตรียังประเทศฝรั่งเศส มีข้อความว่า
จากประโยคที่ยกมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่าบรรดาชาวต่างชาติในพระราชอาณาจักรสยามเมื่อล่วงรู้ข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระราชเทวีซึ่งเป็นพระมารดาในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าของพระมหากษัตริย์ต่างแสดงความไว้อาลัยด้วยการป่าวร้องให้ลดธงในสถานกงสุลและบรรดาเรือลดธงลงครึ่งเสา จากนั้นมาธรรมเนียมสากลนี้ถูกนำมาใช้ปฏิบัติต่อเนื่อง แต่ประกาศให้คนทั่วไปได้ทราบข่าวเสียก่อน เพื่อเกรงความเข้าใจผิดพลาด และอาจส่งผลต่อความมั่นคง สำหรับประเทศไทย การลดธงครึ่งเสา จะมีคำสั่งจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นกรณีไป หากเป็นบุคคลสำคัญในประเทศ ก็ให้ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลาตามกำหนด ให้สมเกียรติกับฐานันดรศักดิ์ (อย่างในภาพขวาบน โรงเรียนอัสสัมชัญบางรักลดธงครึ่งเสาเพื่อถวายอาลัยแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นเวลา 30 วัน) ส่วนหากเป็นบุคคลสำคัญต่างประเทศ ส่วนมากแล้ว ทางรัฐบาล จะประกาศให้ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 3 วัน อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ การลดธงครึ่งเสา |