ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์
ชาร์ล็อตส์ เอ็มม่า อิชชิซัน (อังกฤษ: Charlotte Emma Aitchison) (เกิด 2 สิงหาคม ค.ศ. 1992) รู้จักกันในนาม ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ (อังกฤษ: Charli XCX) เป็นนักร้องนักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ชาร์ลีปล่อยตัวซิงเกิลของเธอในปี 2008 และเริ่มดำเนินการอัดเพลงในบ้านที่กรุงลอนดอน เธอเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับสังกัดเพลง Asylum Records เมื่อปี 2010 และปล่อยมิกซ์เทปสองเพลง Heartbreaks , Earthquakes และ Super Ultra ในปี 2012 ชาร์ลีได้วางจำหน่ายอัลบั้มแรก True Romance ในปี 2013 และปล่อยซิงเกิลได้แก่เพลง Nuclear Seasons และ Stay Aways เธอเริ่มมีชิ่อเสียงสู่ระดับนานาชาติในช่วง 2013 - 2014 จากผลงานซิงเกิลที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลงานที่เธอได้รับเชิญได้แก่ ผลงานเพลง I Love It ของ อีคอนน่า ป็อป และ ผลงานเพลง แฟนซี ของอิ๊กกี้ อาซาเลียผลงานซิงเกิลของเธอในปี 2014 Boom Clap ติดอันดับท็อปเท็นในประเทศต่างๆซึ่งทำให้การการเปิดตัวอัลบั้มชุดที่สามของเธอนั้นล่าช้า อัลบั้มสตูดิโอชุดที่สองของเธอ Sucker[1] มีผลงานซิงเกิลทีปล่อยออกมาอันได้แก่ Break The Rules และ Doing It ประวัติชาร์ล็อตส์ เอ็มม่า อิชชิซัน เกิด 2 สิงหาคม ค.ศ. 1992 ใน เคมบริดจ์ เคมบริดจ์เชอร์ สหราชอาณาจักร[2] มีพ่อเป็นชาวสก็อตและแม่เป็นชาวอินเดียจากยูกันดา เธอเติบโตในไบช็อป สตอร์ฟอร์ด เฮิร์ดฟอร์ดไชน์[3][4] เธอแต่งเนื้อเพลงเมื่อตอนอายุ 14[5][6] เธอเรียนมหาวิทยาลัยที่ Bishop's Stortford College และออกจากโรงเรียนเมื่อปี 2010[7] ชาร์ลีเรียนที่โรงเรียนศิลปะ Slade School of Fine Art ในกรุงลอนดอนแต่ลาออกในช่วงปีที่สองของระดับ[8] หน้าที่การงาน2008 -11 การแสดงครั้งแรกและการอัดเพลงชาร์ลี เมื่ออายุได้ 14 เธอก็อัดอัลบั้มแรกของเธอซึ่งเงินที่ใช้ในการอัดพ่อแม่เธอเป็นคนช่วยเหลือ ในต้นเดือน 2008 เธอได้โพสต์เพลงบางส่วนในอัลบั้มในรูปแบบเดโม่ลง มายสเปซ ของเธอเอง มีผู้สนับสนุนผลงานเพลงของเธอจากบ้านเล็กๆในลอนดอนเป็นจำนวนมากจนเธอได้รับการชักชวนให้จัดคอนเสริ์ต [9][10] จนเธอตั้งชื่อบนเวทีการแสดงว่า ชาร์ลีเอ็กซ์ซีเอ็กซ์ อีกทั้งมันเป็นชื่อของเธอใน เอ็มเอสเอ็น เมื่อตอนเธอเด็กมาก[11] พ่อแม่ของเธอสนับสนุนในการทำงานของเธอและคอยช่วยเหลือ[12] เธอได้ปล่อยสองซิงเกิล "!Franchesckaar!" และปล่อยเพลงหลักของซิงเกิล Emeline และ Art Brick กลางปี 2008 ภายใต้สังกัด Orgy Music อัลบั้มชุดแรก 14 ของเธอถุกปล่อย ซึ่งไม่ได้ปล่อยออกมาในทางการค้า เธอได้เซ็นสัญญากับสังกัด Asylum Records ในปี 2010 เธอพักจากวงการเพลงไปซึ่งเธออธิบายว่าเธอสูญเสียเวลาพวกนั้นจริงๆ[13] ในเดือนเมษายน 2011 , เธอปล่อยซิงเกิล Stay Away ตามมาด้วยซิงเกิล Nuclear Seasons ที่ปล่อยในเดือนพฤศจิกายน ทั้งสองซิงเกิลดูแลโดย อริเอล รีชึเซล ถูกปล่อยในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ซิงเกิลเพลงเหล่านี้ได้รับความสนใจจากเว็บไซต์เพลงอย่าง Pitchfork Media โดยเธอยังได้รับการชื่นชมว่าเป็นเพลงชิ้นใหม่ที่ดีทั้งสอง และยังได้ติดอยู่ในเพลงที่ดีในปี 2011[14] ในเดือนเมษายน 2012 , ชาร์ลีปล่อยมิกซ์เทปแรกของเพลง 'Heartbreaks และ Earthquake จากทั้งหมดแปดเพลง[15] เธอยังให้ความสนับสนุน โคลด์เพลย์ และ ซานติโกลด์ ในการทัวร์คอนเสริ์ตปีเดียวกันด้วย [16] มิกซ์เทปของเธอลำดับที่สอง , Super Ultra ถูกปล่อยในเว็บไซต์ของเธอเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012[17] 2012 - 13: True Romanceชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ยังร่วมแต่งเนื้อเพลงและร่วมขับร้องในซิงเกิลเพลง ในปี 2012 I Love It โดยร่วมอัดเพลงกับคู่หูดูโอ้ชาวสวีเดน อิคอนนา ป็อป และทำให้ทั้งคู่ประสบความสำเร็จในปี 2013[18] เพลงดังกล่าวเข้าชาร์จ บิลบอร์ดฮอต 100 ในสหรัฐหลังจากถูกปล่อยในช่วงต้นปี 2013 และพุ่งพะย่านไปยังอันดับที่ 7 ในชาร์จบิลบอร์ดฮอต 100[19][20] และมันยังติดอันดับ 1 ในชาร์จซิงเกิลของสหราชอาณาจักร UK Single Chart , ซิงเกิลเพลงของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ You're the One ถูกปล่อยในกลางเดือน 2012 และถูกแต่งตั้งให้เป็น 20 เพลงที่สุดยอดในปี 2012 โดยนิตรสารบิลบอร์ด[21] ซิงเกิลที่ประสบความสำเร็จ You (Ha Ha Ha) ถูกระบุโดยนิตรสาร Spin และเว็บไซต์ดนตรี Consequence of Sound ว่าเป็นหนึ่งในผลงานเพลงที่ดีในปี 2013[22] ผลงานอัลบั้มชุดที่สองของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ (และการเปิดตัวในค่ายใหญ่) True Romance ถูกปล่อยในเดือนเมษายน 2013 ตามมาด้วยซิงเกิลสุดท้าย What I Like เธอยังเขียนในอัลบั้มว่า มุมประวัติศาสตร์ที่โรแมคนิคของเธอคือการได้อัดเพลง , ในอุดมคติของฉัน , มันดิบและหยาบ , มันยังตรงไปตรงมา และมันยังเป็นความจริง[23] โดยมันยังติดอันดับ 85 ในชาร์จ UK Album Chart[24] และติดอันดับที่ 5 ใน US Billboard Top Heatseekers , และติดอันดับที่ 11 Australian Hitseekers Albums Chart.[25] True Romance ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากเหล่านักวิจารณ์เพลงจำนวนมาก โดยอัลบั้มยังได้คะแนน 76/100 จาก Metacritic จากทั้งหมด 100 รีวิวโดยมีทั้งนักวิจารณ์เพลง[26] 2013 - ปัจจุบัน อัลบั้มชุดที่ 2 Sucker และอัลบั้มชุดใหม่ที่กำลังจะออกชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์เริ่มทำงานอัลบั้มชุดที่ 3 ของเธอในปลายเดือน 2013[27] สิ้นปี 2013 เธอได้ปล่อยซิงเกิล Super Love และเป็นผลงานเดี่ยวแรกของเธอที่ติดชาร์จใน UK Single Charts โดยติดลำดับที่ 62[28] ในกลางปี 2014, เธอได้ร่วมร้องกับแร็ฟเปอร์ชาวออสเตเรีย อิ๊กกี้ อาซาเลีย ในผลงานซิงเกิล Fancy;[29] เพลงดังกล่าวขึ้นติดใน บิลบอร์ดฮอต 100 ส่งผลให้ทั้งคู่ติดเป็นอันดับหนึ่งในชาร์จซิงเกิล[30][31]ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ ยังได้ร่วมแต่งเพลงกับศิลปินอื่นๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว พร้อมยังเป็นผู้ร่วมแต่งในซิงเกิล Beg for it ของ อิ๊กกี้ อาซาเลีย และ ไรลิน เวพเวอร์ ในผลงานซิงเกิลเปิดตัว OctaHate และนักร้องที่มีส่วนช่วยอาทิ สกาย เฟอร์เรร่า , นีออน จังเกิล ริฮานน่า และ เกว็น สเตฟานี กลางปี 2014 , ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ มีส่วนร่วมในเพลง 'Boom Clap เพลงประกอบภาพยนตร์ The Fault in Our Stars Boom Clap ขึ้นอันดับที่แปดในบิลบอร์ด ฮอต 100[32]และอันดับที่หกในอังกฤษ[28] และได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำในออสเตเรีย[33] เพลง Boom Clap ยังติดอยู่ในอัลบั้มชุดที่ 3 ของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ อัลบั้มชุดที่ 2 Sucker วางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ในอเมริกาเหนือและกุมภาพันธ์ 2015 ในยุโรป ซิงเกิลลำดับที่ 2 Break The Rules ขึ้นชาร์จติดท็อปสิบในออสเตเรียและเยอรมัน , และซิงเกิลที่สาม Doing It (ร่วมขับร้องโดยนักร้องหญิงชาวอังกฤษ ริต้า โอรา ขึ้นติดอันดับที่ 8 ใน UK Single Chart , ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ยังร่วมเล่นเป็นศิลปินเปิดให้กับ เคที่ เพอร์รี่ กับคอนเสริ์ตพริมาติค เวิลด์ทัวร์ ในช่วงต้นปี 2015 ชาร์ลีได้แสดงในอังกฤษ และร่วมร้องกับศิลปินอาร์แอนด์บี Tinashe ร่วมกับแร็ฟเปอร์ Ty Dolla Sign ในผลงานซิงเกิล "Drop That Kitty"[34][35][36] ในกลางเดือน 2015 ชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ได้ให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานในอัลบั้มชุดที่สี่ว่า เป็นผลงานเพลงแนวอิเล็คทรอนิค [37] แนวเพลงและอิทธิพลทางสังคมแนวเพลงของชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์จะออกไปทาง ป็อปพังก์ [38][39] และ อิเล็กโทรป็อปบางครั้งเธอยังแสดงในแนวเพลง ดาร์คป็อป [40] อินดีโทรนิกา[41] และ witch house ในเสียงของเธอ[40] ชาร์ลียังกล่าวถึง เด็บบี แฮร์รี นักร้องนำวงบลอนดีและ เอ็มมิเน็ม ว่าเป็นอิทธิพลให้กับเธอ เธอยังกล่าวเพิ่ม ศิลปินที่ดีที่สุดที่เป็นคนเปลี่ยนแปลงวงการเพลงอย่างสิ้นเชิง -- อาทิ มาดอนน่า , เดวิด โบอี[42] เพลงของเอ็กซ์ซีเอ็กซ์มักถูกเปรียบเทียบกับวงดนตรีในยุค 80's อาทิ จิตวิญญาณแห่ง Siouxsie Sioux หรือ ต้นแบบที่สมบูรณ์ของมาดอนน่า[43] เมื่อเธอกล่าวถึงผู้ที่มีอิทธิพล , เธอจะเอ่ยชื่อ ปีเยิร์ก , Siouxsie Sioux , เควนติน แทแรนติโน[44] เธอยังกล่าวว่า "Siouxsie Sioux เปรียบเสมือนฮีโร่ของเธอ[45] เธอกล่าวศิลปินในฝันของเธอเป็น ปีเยิร์ก , เคต บุช หรือกระทั่ง ดิออน วอร์วิค .[46] เธอกล่าวถึงโรเบริ์ต ปาล์มเมอร์ โดยผลงานเพลงของโรเบริ์ต Addicted To Love เป็นหนึ่งในเพลงที่เธอชื่นชอบ[46] ศิลปินที่มีอิทธิลต่อเธออาทิ บริตนีย์ สเปียส์ , แอวริล ลาวีน[47][48] สไปซ์เกิลส์ , Uffie , บรุค แคนดี้ , ลิล เวย์น[49][50][51] สำหรับผลงานเดี่ยวชุดที่ 3 ของเธอ เธอมี เดอะไฮฟส์ , วีเซอร์ และ ราโมนส์ เป็นอิทธิพล[52] สตูดิโออัลบั้ม
แหล่งข้อมูลอื่นอ้างอิง
|