Share to:

 

ซีเซียม-137

ซีเซียม-137, 137Cs
ซีเซียม-137 ที่ถูกปิดสนิท
ทั่วไป
สัญลักษณ์137Cs
ชื่อซีเซียม-137, 137Cs, Cs-137
โปรตอน (Z)55
นิวตรอน (N)82
ข้อมูลนิวไคลด์
ปริมาณในธรรมชาติ0 (ปริมาณน้อยมาก)
ครึ่งชีวิต (t1/2)30.05±0.08 ปี[1]
มวลไอโซโทป136.907 Da
สปิน7/2+
ไอโซโทปต้นกำเนิด137Xe (β)
ผลผลิตจากการสลาย137mBa
137Ba
การสลายตัว
รูปแบบการสลายพลังงานการสลายตัว (MeV)
β- (การสลายให้อนุภาคบีตา)0.5120[2]
γ (gamma-rays)0.6617

ซีเซียม-137 (อังกฤษ: Caesium-137) เป็นไอโซโทปกัมมันตรังสีของธาตุซีเซียม มีลักษณะเป็นโลหะอ่อน สีทองเงิน[3] แผ่อนุภาคบีตาและรังสีแกมมา เมื่อสัมผัสจะทำลายหรือสร้างความเสียหายแก่ดีเอ็นเอของเซลล์ ส่งผลทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือไทรอยด์ตามมา ในธรรมชาติอาจใช้เวลาสลายตัวของซีเซียม-137 มากกว่า 100 ปี[4] ครึ่งชีวิตของซีเซียมอยู่ที่ประมาณ 30 ปี เมื่อซีเซียมสลายตัว จะแผ่รังสีบีตาแล้วจะแปรสภาพกลายเป็นแบเรียม-137m (137mBa) [5]

ประโยชน์

การใช้งานของสารซีเซียม-137 มีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ใช้เป็นสารต้นกำเนิดรังสีในการรักษามะเร็ง และใช้ในเครื่องมือวัดทางอุตสาหกรรม ถ้ามีปริมาณน้อยจะใช้สำหรับปรับเทียบเครื่องมือวัดรังสีหรือใช้เป็นต้นกำเนิดรังสีแกมมาที่นำมาใช้ในการวัดความหนาแน่นของเครื่องมือเจาะสำรวจน้ำมัน [5]

อันตราย

ในระยะสั้นหากได้รับหรือสัมผัสจะไม่ส่งผลอันตรายให้เห็นผลชัดเจน แต่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้ ถ้าได้รับเข้าไปในร่างกายผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผล ผ่านการหายใจ หรือรับประทานเข้าไป ซีเซียม-137 จะเข้าไปสะสมอยู่ในเนื้อเยื่ออ่อนของอวัยวะต่าง ๆ และจะแผ่รังสีผ่านสู่อวัยวะเหล่านั้น เป็นผลให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งมากขึ้น [5]

หากได้รับปริมาณรังสีต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ผิวหนังมีอาการแสบร้อนคล้ายโดนไฟไหม้หรือน้ำร้อนลวก และจะมีอาการคลื่นไส้ถ้าได้รับปริมาณรังสีสูงมากพอ [5]

เหตุการณ์อุบัติเหตุในไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2566

เกิดการสูญหายของ ซีเซียม-137 จากโรงงานไฟฟ้าที่จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งต่อมาพบว่าถูกหลอมพร้อมกับเหล็ก [6] แต่เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ภัยพิบัติเชียร์โนบีลแล้ว อุบัติเหตุครั้งนี้ถือว่าสร้างความเสียหายที่เล็กกว่ามาก[7] แต่อย่างไรก็ตามบุคคลที่ใกล้ชิดหรือพักอาศัยใกล้กับพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุก็ควรเฝ้าระวังเป็นอย่างมาก

เมื่ออ้างอิงข้อมูลจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency)[8] ค่ารังสีส่วนเกินจากธรรมชาติที่คนทั่วไปควรได้รับไม่ควรจะเกิน 1 มิลลิซีเวิร์ต/ปี โดยในเหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ได้รับรังสีเกินกว่าที่คนทั่วไปควรได้รับ ซึ่งสามารถเปรียบเทียบใกล้เคียงการอยู่ในพื้นที่ที่มีรังสีต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ปี

อ้างอิง

  1. Bé, M. M., Chisté, V., Dulieu, C., Browne, E., Baglin, C., Chechev, V., ... & Lee, K. B. (2006). Table of Radionuclides (vol. 3–A= 3 to 244). Monographie BIPM, 5.
  2. "137
    55
    Cs
    82"
    . WWW Table of Radioactive Isotopes. LBNL Isotopes Project - LUNDS Universitet. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 May 2015. สืบค้นเมื่อ 14 March 2009.
  3. "ซีเซียม 137 คืออะไร สารกัมมันตรังสี อันตรายแค่ไหน". Hfocus.org. สืบค้นเมื่อ 20 March 2023.
  4. "สรุปปมพบ 'ซีเซียม 137' ที่สูญหาย". workpointTODAY. สืบค้นเมื่อ 20 March 2023.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 โชคเกิด, ปาริชาติ (20 March 2023). "รู้จักรังสีซีเซียม-137 พร้อมเช็คไทม์ไลน์การหายไปไร้ร่องรอย". สืบค้นเมื่อ 21 March 2023.
  6. https://workpointtoday.com/cesium/
  7. https://www.iaea.org/newscenter/focus/chernobyl/faqs?fbclid=IwAR0ntGC2eqwZzF04pOCvRaoE0YSlL2Cq81d9-vq9slEAUlpO_hgtp0d0YnI
  8. "Radiation in Everyday Life". www.iaea.org (ภาษาอังกฤษ). 21 November 2014. สืบค้นเมื่อ 21 March 2023.
Kembali kehalaman sebelumnya