อุบัติเหตุทางรังสีที่ปราจีนบุรี
อุบัติเหตุทางรังสีที่ปราจีนบุรี เป็นอุบัติเหตุทางรังสี เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 ในจังหวัดปราจีนบุรี อุบัติเหตุนี้เกิดขึ้นเมื่อเครื่องมือวัดทางรังสี หรือเครื่องฉายรังสีซีเซียม-137 ที่เก็บไว้อย่างไม่ถูกต้องสูญหายจากโรงไฟฟ้าไอน้ำ บริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ในอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี[1] ในเบื้องต้นมีการสัมภาษณ์นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ พบว่ายังไม่มีการรั่วไหลของรังสีออกไปภายนอก แต่มีการปิดโรงงานและกันพื้นที่เพื่อความปลอดภัย[2] ในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2566 ชาวสวนพืชผลทางการเกษตรในจังหวัดปราจีนบุรีได้ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐรีบสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของสินค้าทางการเกษตรของจังหวัด [3] ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และสถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ ได้มีการแถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์การที่เกิดขึ้นว่า ซีเซียม-137 ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าในจังหวัดปราจีนบุรีอาจถูกหลอมไปแล้วในโรงงานหลอมโลหะ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าแท่งซีเซียมถูกหลอมหรือยัง แต่ได้มีการตรวจพบฝุ่นเหล็กแดงบริเวณโดยรอบโรงงานหลอม ที่สามารถตรวจได้ว่าฝุ่นดังกล่าวคือ ฝุ่นซีเซียมจริง[4] ต่อมาวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2566 นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับประทานผลไม้ภายในสวนติดกับพื้นที่โรงงานที่พบ ซีเซียม-137 เพื่อสร้างความมั่นใจของผลิตผลทางการเกษตร [3] การสูญหายและการค้นหาหลังจากมีการหายไปในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้เริ่มปฎิบัติการค้นหา แต่เหตุการณ์นี้ได้ปรากฎเป็นข่าวการหายไปสู่สาธารณะครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งห่างจากวันที่สูญหายถึง 4 วัน ต่อมากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประกาศตั้งเงินรางวัลถึง 1 แสนบาทให้คนที่มีเบาะแสเกี่ยวกับสารดังกล่าว[5] สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติกล่าวว่า ซีเซียมที่คาดว่ามีอยู่เพียงครึ่งช้อนชา ได้ถูกบรรจุในแคปซูลที่ห่อหุ้มด้วยท่อตะกั่วน้ำหนักประมาณ 25-50 กิโลกรัม ได้ถูกติดตั้งไว้บริเวณตึกมีความสูง 5 ชั้น ที่พึ่งถูกตรวจสอบในช่วงเดือนมกราคม ภาชนะมีลักษณะเป็นโลหะทำให้ความกังวลว่าจะถูกนำไปแปรสภาพซึ่งเมื่อผ่าออกจนถึงจุดแคปซูลจะทำให้ผู้สัมผัสเสี่ยงอันตราย[6] อ้างอิง
|