ตำรวจภูธรภาค 2
ตำรวจภูธรภาค 2 เป็นส่วนราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระดับกองบัญชาการ มีหน้าที่ดูแล 8 จังหวัดในภาคตะวันออกของประเทศไทยได้แก่
รวมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 37,000 ตารางกิโลเมตร ประวัติในสมัย นายพลตรีพระยาวาสุเทพ เป็นอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ถูกจัดตั้งขึ้น ราวปี พ.ศ. 2440 โดยแต่เดิมตั้งเป็น 2 หน่วย คือ ตำรวจมณฑลปราจีนบุรี โดยมีหน้าที่ดูแล 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา, นครนายก และ ปราจีนบุรี และ ตำรวจมณฑลจันทบุรีปกครอง 4 จังหวัด คือ จันทบุรี, ชลบุรี, ระยอง และ ตราด กระทั่งต่อมามีการเปลี่ยนชื่อเป็น กองตำรวจภูธรที่ 9 มณฑลปราจีนบุรี และกองตำรวจภูธรที่ 12 มณฑลจันทบุรี ภายหลังในปี พ.ศ. 2447 กรมตำรวจภูธร และกรมตำรวจนครบาล มีการรวมกันเป็น กรมตำรวจ จึงมีการแบ่งส่วนราชการใหม่ โดยครั้งนี้ อยู่ในส่วนของ ตำรวจภูธรภาคตะวันออก มีผู้บังคับการเป็นหัวหน้า และภายในภาคก็แบ่งเป็นกองกำกับเป็นสาย สายละ 3-4 จังหวัด โดยครั้งนี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็น กองกำกับการตำรวจภูธรสายที่ 6 มีเขตการปกครอง 4 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ,ปราจีนบุรี และ นครนายก กองกำกับการตำรวจภูธรสายที่ 7 มีเขตการปกครอง 4 จังหวัด คือ จันทบุรี, ชลบุรี, ระยอง และตราด ในปี พ.ศ. 2481 ได้มีการจัดแบ่งเขตตำรวจภูธรใหม่ ให้มี 8 เขต ครั้งนี้กองกำกับการตำรวจภูธรสาย 6 และ 7 รวมเป็น 1 เขต จัดตั้งขึ้นเป็น "กองบังคับการตำรวจภูธรเขต" 5 (ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา) ดูแล 7 จังหวัดด้านตะวันออก สี่ปีถัดมาได้มีการย้ายที่ตั้งกองบังคับการ ไปอยู่ที่จังหวัดพระตระบอง และเพิ่มจังหวัดในปกครองอีก 2 จังหวัด คือ พระตะบอง และพิบูลย์สงคราม เนื่องมาจากอนุสัญญาสันติภาพระหว่างไทย กับ ฝรั่งเศส พ.ศ. 2484 และได้โอน จังหวัดสมุทรปราการ มาปกครองเพิ่มอีก 1 จังหวัด มีพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบราชการกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2495 ให้แบ่งส่วนราชการของกระทรวงมหาดไทย "เขต" เป็น "ภาค" จึงได้เปลี่ยนแปลง "กองบังคับการตำรวจภูธรเขต 5" เป็น "กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2" ภายหลัง มีพระราชกฤษฎีกาจัดวางระเบียบส่วนราชการกรมตำรวจ พ.ศ. 2498 ในกระทรวงมหาดไทย ให้ "กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 2" เป็น "กองบังคับการตำรวจภูธรเขต 2" มีเขตการปกครอง 7 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด ในปี พ.ศ. 2514 ได้ย้าย กองบังคับการตำรวจภูธรเขต 2 มาตั้งอยู่ที่ อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ถัดมาปี พ.ศ. 2519 มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ กระทรวงมหาดไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2519 ให้ยุบกองบังคับการตำรวจ ภูธรเขตทั้ง 9 เขต หลังจากนั้นได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับ 45 ลงวันที่ 27 ต.ค.2519 ปรับปรุงแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจขึ้นใหม่ จัดตั้งกองบังคับการตำรวจภูธร 2 ขึ้น โดยขึ้นตรงกับกองบัญชาการตำรวจภูธร 1 มีเขตการ ปกครองรับผิดชอบ รวม 7 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ต่อมาในปี พ.ศ. 2536 มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจ โดยให้ยุบกองบัญชาการตำรวจภูธร 1-4 และกองบังคับการตำรวจภูธร 1-9 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2537 มีผู้ช่วย อธิบดีกรมตำรวจเป็นหัวหน้าภาค ผู้บัญชาการเป็นรองหัวหน้าภาค กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีเขตการปกครอง 8 จังหวัด คือ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และ สระแก้ว พ.ศ. 2539 มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมตำรวจใหม่ ลงวันที่ 17 ต.ค. 2539 ให้ยุบเลิกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 เป็นตำรวจภูธรภาค 1-9 มีผู้บัญชาการเป็นหัวหน้า มีเขตการปกครองในความรับผิดชอบ 8 จังหวัดเช่นเดิม[2] กองบังคับการในสังกัด
ตำรวจภูธรภาค 2 ประกอบไปด้วย 3 กองบังคับการ 8 ตำรวจภูธรจังหวัด[3] (สถานะเทียบเท่ากองบังคับการ แต่ไม่ต้องเรียกขึ้นต้นด้วยคำว่ากองบังคับการ) 1 ศูนย์ฝึก และ 1 กองกำกับการ ประกอบด้วย
ศูนย์ฝึก
หน่วยปฏิบัติการพิเศษหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธรภาค 2 คือกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ อยู่ภายใต้กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 มีชื่อเรียกว่า หน่วยปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 มาจากการก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2549[8] มีภารกิจในการถวายความปลอดภัยให้แก่องค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี และพระรัชทายาทที่เสด็จมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 2 รวมถึงเตรียมความพร้อมในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย การก่อความไม่สงบ การช่วยเหลือตัวประกัน และสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในการติดตามและจู่โจมจับกุมผู้กระทำผิดในคดีร้ายแรงต่าง ๆ เมื่อมีการร้องขอ[9] สำหรับปฏิบัติการเด่นของ ชุดปฏิบัติการพิเศษบูรพา 491 คือปฏิบัติการนำกำลังบุกจับกุมและสกัดกั้น[10]ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทำความผิดในประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับเขตรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 2[11] ซึ่งมีกำลังของหน่วย บูรพา 491 เป็นกำหลังหลักในการปฏิบัติการดังกล่าว[12] นอกจากนี้ จะมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ./ปพ.) แต่แต่ละภูธรจังหวัดทั้ง 8 จังหวัด อยู่ภายใต้กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด (กก.สส.ภ.จว.) เตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์อาชญากรรมที่มีความรุนแรงในท้องที่ ดูเพิ่มอ้างอิง
|