นวัธ เตาะเจริญสุข
นวัธ เตาะเจริญสุข (เกิด 16 ตุลาคม พ.ศ. 2510, ชื่อเดิม:ประสิทธิ์ เตาะเจริญสุข) เป็นนักการเมืองชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขต 7 ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน ปัจจุบันต้องโทษคดีจ้างวานฆ่าปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ประวัตินวัธ เตาะเจริญสุข เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ที่อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายเง็กเท้ง และนางสำเนียง เตาะเจริญสุข มีพี่น้อง 9 คน สำเร็จการศึกษา BACHELOR OF SCIENCE IN COMMERCE (B.S.C.) REPUBLICAN COLLEGE ประเทศฟิลิปปินส์ สมรสและหย่ากับนางสรพิกา เตาะเจริญสุข อดีตผู้สมัครนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เมื่อปี พ.ศ. 2551[1] มีบุตร 2 คน งานการเมืองอดีตเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เขตอำเภอหนองเรือ และรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น ตามลำดับ พ.ศ. 2548 ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคมหาชน พ่ายให้กับนายสมศักดิ์ คุณเงิน จากพรรคไทยรักไทย ต่อมาในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2550 ย้ายเข้ามาลงสมัครกับพรรคพลังประชาชน และได้คะแนนมาเป็นอันดับที่ 1 ของเขต (มี ส.ส. ได้ 3 คน พรรคพลังประชาชนยกทีม) ซึ่งทำให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ จากพรรคเพื่อแผ่นดิน สอบตกยกทีม หลังจากนั้น พ.ศ. 2554, พ.ศ. 2562 ลงสมัครและได้รับการเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนวัธ เตาะเจริญสุข ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 3 สมัย คือ
งานในวงการมวยในวงการมวยไทย นวัธได้เข้าซื้อกิจการ บจก.แม็กซ์มวยไทย จากนายนริศ ว่องประเสริฐการ มาบริหารโดยให้บุตรชาย (นายอาสิระ เตาะเจริญสุข) ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท โดยได้สร้างสนามมวยแม็กซ์มวยไทยสเตเดียมขึ้นที่ ถนนสุขุมวิทพัทยา 42 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และจัดรายการชกมวยไทยในรูปแบบมวยไทย 3 ยก จนได้รับความนิยมจากผู้ชมและนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเป็นสนามแรกที่จัดมวยถ่ายทอดสด 7 วันต่อสัปดาห์ [2] คดีความนวัธ เตาะเจริญสุข เป็นผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่านายสุชาติ โคตรทุม อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพัก เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ซึ่งศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาประหารชีวิต[3] และไม่อนุญาตให้ประกันตัวเพื่อต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์[4] ส่งผลให้เขาพ้นสมาชิกภาพ ส.ส. ทันที ต่อมาเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2563 ศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ประหารชีวิตนายนวัธ และให้ชดใช้ค่าปลงศพ 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 แต่ศาลฎีกา พิพากษาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2564 แก้โทษอาญาลดโทษให้ 1 ใน 3 ให้จำคุกตลอดชีวิต ส่วนแพ่งให้จำเลยรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ร่วมนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย[5][6] เครื่องราชอิสริยาภรณ์นวัธ เตาะเจริญสุข เคยได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด คือ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|