Share to:

 

บลานช์แห่งอังกฤษ

ภาพบลานช์ (กลาง) กับพระสวามีและมาทิลดา พระมเหสีคนที่สอง ปี ค.ศ. 1435

บลานช์แห่งอังกฤษ (อังกฤษ: Blanche of England) หรือ บลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ (อังกฤษ: Blanche of Lancaster) เป็นสมาชิกของราชวงศ์แลงคัสเตอร์ โดยทรงเป็นพระราชธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษกับพระนางแมรี เดอ โบฮัน

ชีวิตครอบครัว

บลานช์แห่งอังกฤษประสูติในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1392 ที่ปราสาทปีเตอร์โบโรในนอร์แทมป์ตันเชอร์ โดยทรงเป็นธิดาของเฮนรี เอิรลแห่งเดอร์บี (ต่อมาคือพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ) กับพระนางแมรี เดอ โบฮันผู้เป็นพระมเหสีคนแรก พระองค์เป็นบุตรลำดับที่หก บลานช์อาจถูกตั้งชื่อตามบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ ย่าผู้ล่วงลับที่ยังคงเป็นที่รักของคนในครอบครัว ครอบครัวของบลานช์ได้รับความมั่งคั่งมาจากจอห์นแห่งกอนท์ ดยุคแห่งแลงคัสเตอร์ ปู่ของพระองค์ที่เป็นพระญาติใกล้ชิดของพระเจ้าริชาร์ดที่ 2

เมื่อบลานช์มีพระชนมายุได้ 2 พรรษา พระมารดาของพระองค์ได้ถึงแก่กรรมขณะคลอดบุตรคนที่เจ็ด บลานช์เติบโตมากับพี่น้องต่างมารดา พระเชษฐาร่วมบิดามารดาเดียวกันอย่างเฮนรี ทอมัส จอห์น และฮัมฟรีย์ มักถูกส่งไปฝึกทักษะที่อื่น ขณะที่พระราชธิดาจะอยู่กับนางข้าหลวงที่อีตัน ในปี ค.ศ. 1398 ชีวิตของพระองค์พลิกผันเมื่อพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ได้เนรเทศเฮนรี (ขณะนั้นเป็นดยุคแห่งเฮริฟอร์ด) ออกจากอังกฤษเป็นเวลา 10 ปี สิทธิ์ในการคุ้มครองบลานช์และพี่น้องตกเป็นของจอห์นแห่งกอนท์ผู้เป็นปู่ ขณะที่เฮนรี พี่ชายคนโตถูกกษัตริย์จำขัง ในปี ค.ศ. 1399 กอนท์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าริชาร์ดได้ขยายระยะเวลาลงโทษเป็นเนรเทศตลอดชีวิตและได้ริบทรัพย์สินที่ดินทั้งหมดของแลงคัสเตอร์เข้าหลวง เฮนรีจึงเดินทางกลับอังกฤษเพื่อมาโค่นบัลลังก์ของพระเจ้าริชาร์ด ในช่วงเดือนตุลาคมของปีนั้นพระบิดาของบลานช์ได้เข้ารับการสวมมงกุฎเป็นกษัตริย์ ซึ่งขณะนั้นบลานช์มีอายุได้ 7 ปี

ชีวิตสมรส

มงกุฎของเจ้าหญิงบลานช์ ปัจจุบันอยู่ที่พระราชฐานมิวนิก

บลานช์กับพี่น้องได้เดินทางมาลอนดอนเพื่อเข้าร่วมราชสำนักของพระราชบิดา บลานช์เป็นคนแรกในบรรดาพี่น้องที่ถูกจับสมรส พระราชบิดาของพระองค์หวังจะใช้การสมรสของพระราชบุตรเป็นเครื่องมือสร้างพันธมิตรเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ราชวงศ์แลงคัสเตอร์ พระองค์ต้องการผูกมิตรกับพระเจ้ารูเพิร์ตแห่งเยอรมนี บลานช์จึงถูกจับทำสัญญาสมรสกับลุดวิจ พระราชโอรสคนโตของกษัตริย์ ในช่วงต้นปี ค.ศ. 1402 ก่อนวันครบรอบวันประสูติปีที่ 10 บลานช์ต้องจากครอบครัวในอังกฤษไปเยอรมนี

ลุดวิจมีพระชนมายุมากกว่าเจ้าสาวของพระองค์ถึง 14 ปี พระองค์ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับรับใช้พระราชบิดาในช่วงที่เยอรนีกำลังรบทัพจัดศึกอยู่ในอิตาลี พระองค์มีการศึกษาสูง ศรัทธาในศาสนา และสนใจด้านศิลปะ พิธีสมรสของพระองค์กับบลานช์ถูกจัดขึ้นในวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1402 ที่อาสนวิหารโคโลญ บลานช์มีสินเดิมติดตัวมูลค่า 40,000 โนเบล์น หนึ่งในนั้นคือมงกุฎอันแสนงดงามที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน แม้จะเป็นการสมรสแบบคลุมถุงชน แต่ทั้งคู่น่าจะมีชีวิตสมรสที่มีความสุข อย่างน้อยก็ไม่เคยมีข่าวว่ามีปัญหาเกิดขึ้นภายในครอบครัว การสมรสน่าจะไม่ได้ถูกทำให้สมบูรณ์ทันทีเนื่องจากเจ้าสาวยังเด็กมาก คาดกันว่าการสมรสน่าจะสมบูรณ์ในอีกสี่ปีต่อมา คือ ในช่วงเดือนกันยายนของปี ค.ศ. 1405 ขณะบลานช์มีพระชนมายุได้ 13 พรรษาเมื่อนับจากการให้กำเนิดบุตรคนแรกในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1406 โดยทารกน้อยเป็นบุตรชายที่ถูกตั้งชื่อว่ารูเพิร์ตตามผู้เป็นปู่ ซึ่งต่อมารูเพิร์ตคนนี้ได้ฉายานามว่า รูเพิร์ตชาวอังกฤษ

แม้จะจากบ้านเกิดเมืองนอนไปตั้งแต่ยังอายุน้อยแต่บลานช์มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัวเดิม โดยเฉพาะกับพระราชบิดา ในปี ค.ศ. 1408 พระราชบิดาได้แต่งตั้งพระองค์เป็นเลดี้แห่งการ์เตอร์ ไม่ถึงปีต่อมาได้มีการประกาศว่าพระองค์กำลังตั้งครรภ์บุตรคนที่สอง ทว่าทรงติดเชื้อไข้ระหว่างการไปเยือนอาเกอโนทำให้ทรงล้มป่วยง่าย พระองค์มักเป็นลมและมีเลือดกำเดาไหล ไม่มีใครรูว่าทรงป่วยเป็นอะไรแต่ทรงสิ้นพระชนม์ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1409 ด้วยพระชนมายุเพียง 17 พรรษาพร้อมกับบุตรในครรภ์ซึ่งมีอายุครรภ์ประมาณหกเดือน พระสวามีของพระองค์ได้เขียนไว้ว่า

"ในเช้าวันที่ 22 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันที่เป็นทุกข์ที่สุดของข้าพเจ้า ภรรยาของข้าพเจ้าได้จากโลกอันโหดร้ายนี้ไปยังโลกอื่นที่ดีกว่า"

ร่างของบลานช์ถูกฝังที่โบสถ์เซนต์แมรีในนอยชตัดต์ ปัจจุบันสุสานยังคงอยู่ แต่หลุมฝังศพถูกปิดกำแพงไว้คาดว่าน่าจะเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น หลังพระองค์สิ้นพระชนม์ ลุดวิจ พระสวามีได้ครองตัวเป็นโสดถึงแปดปีจึงจะสมรสใหม่ ในปี ค.ศ. 1410 พระองค์ขึ้นเป็นเจ้าชายพาลาไทน์ผู้คัดเลือกต่อจากพระราชบิดา ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1417 พระองค์รับมาทิลดาแห่งซาวอยมาเป็นชายาคนที่สอง ทั้งคู่มีพระราชโอรสธิดาด้วยกันไม่ต่ำกว่าห้าคน ขณะที่รูเพิร์ต บุตรชายคนโตที่เกิดจากบลานช์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1426 ด้วยวัย 20 ปี เขาจากไปก่อนบิดาถึง 10 ปี

อ้างอิง

Kembali kehalaman sebelumnya