พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (มุ่ย พฺทฺธรกฺขิโต)
พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ (มุ่ย พุทฺธรกฺขิโต) นิยมเรียกว่า “หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่" เป็นพระเถราจารย์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสุพรรณบุรี อดีตเจ้าคณะตำบลหนองสะเดา และอดีตเจ้าอาวาสวัดดอนไร่ ตำบลหนองสะเดา อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ประวัติชาติภูมิชื่อ เชื่อม ภายหลังเปลี่ยนเป็น มุ่ย นามสกุล มีศรีไชย ชาตะวันพฤหัสบดี เดือนอ้าย ปีฉลู (ตรงกับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2432) ณ บ้านดอนไร่ แขวงเมืองสุพรรณบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขต ตำบลหนองสะเดา อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี) เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 5 คน ของนายเหมือน กับ นางชัง นามสกุล มีศรีไชย ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกร (ทำนา)[1] วัยเยาว์วัยเยาว์ ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกร (ทำนา) โดยทำหน้าที่เลี้ยงกระบือ วัยหนุ่มวัยหนุ่ม อายุครบเข้ารับการเกณฑ์ทหาร จับได้ใบแดงต้องเป็นทหาร ทางอำเภอจึงส่งตัวไปยังจังหวัด แต่ด้วยเหตุใดไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจน ทางจังหวัดส่งตัวกลับมาที่อำเภอ และผลปรากฏว่าไม่ต้องเป็นทหาร อุปสมบท (ครั้งที่ 1)อายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2452 บรรพชาและอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดใดไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจน สันนิษฐานว่าอาจเป็นพัทธสีมาวัดหนองสะเดา[2] หรือวัดหนองกระทุ่ม (วัดหนองสะเดาล่าง) อำเภอนางบวช เมืองสุพรรณบุรี[3][4] (ปัจจุบันอยู่ในเขต ตำบลหนองสะเดา อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี) เนื่องจากเป็นวัดที่มีพัทธสีมาอยู่ละแวกบ้าน โดยสันนิษฐานว่า พระครูอ้น ติสฺโส (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูธรรมสารรักษา)[5] เจ้าคณะแขวงอำเภอนางบวช เจ้าอาวาสวัดดอนดอกไม้ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดดอนบุบผา และวัดดอนบุบผาราม ตามลำดับ) อำเภอศรีประจันต์ เมืองสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ ไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจน อุปสมบทแล้วจำพรรษาที่วัดใดไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจน ต่อมาจำพรรษาอยู่วัดดอนไร่ สมัยพระปลั่ง เป็นเจ้าอาวาส (ภายหลังอยู่วัดวิมลโภคาราม) แล้วย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวเขา อำเภอนางบวช เมืองสุพรรณบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขต อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี) ในสมัยเจ้าอธิการอิ่ม สิริปุญฺโญ เป็นเจ้าอาวาส โดยจำพรรษาเป็นศิษย์ร่วมรุ่นกับพระปุย ปุญฺญสิริ (พระครูวรนาถรังษี วัดเกาะ)[6][7] ในปี พ.ศ. 2463[8] อุปสมบทเป็นระยะเวลาราว 10 กว่าพรรษา จึงลาสิกขา ออกมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพ ระหว่างทำนาเกิดเจ็บป่วย แทบเอาชีวิตไม่รอด จึงตั้งจิตอธิษฐานว่าหากหายป่วยจะอุปสมบทอีกครั้ง ปรากฏว่าหายเจ็บป่วย สันนิษฐานว่าช่วงนี้เองที่เปลี่ยนชื่อจากนายเชื่อมเป็นนายมุ่ย เป็นการแก้เคล็ดเสมือนว่ามีชีวิตใหม่ อุปสมบท (ครั้งที่ 2)อุปสมบทอีกครั้ง วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2465 ณ พัทธสีมาวัดดอนบุบผา (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดดอนบุบผาราม) ตำบลบ้านไร่ (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลบ้านกร่าง) อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดย[1] พระครูธรรมสารรักษา (อ้น ติสฺโส) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าอาวาสวัดดอนบุบผา (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดดอนบุบผาราม) อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระภิกษุทวน สุนทรวิภาต คงฺคสุวณฺโณ (ภายหลังเป็นพระอุปัชฌาย์ทวน) วัดบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระภิกษุกุน วัดดอนบุบผา (ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดดอนบุบผาราม) อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาทางพระพุทธศาสนาว่า "พุทฺธรกฺขิโต" [พุด - ทะ - รัก - ขิ - โต] อุปสมบทแล้วจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองสะเดา ตำบลหนองสะเดา อำเภอนางบวช (อำเภอสามชุก ในปัจจุบัน) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นระยะเวลาราว 6 เดือน[1] (เดือนมีนาคม - เดือนตุลาคม พ.ศ. 2465) ออกพรรษาและปวารณาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2465 แล้ว ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนไร่ ตำบลหนองสะเดา อำเภอนางบวช (อำเภอสามชุกในปัจจุบัน) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นระยะเวลา 6 พรรษา[1] (ปลายปี พ.ศ.2465 - พ.ศ. 2471)[9] จากนั้น พ.ศ. 2472 ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดหัวเขา อำเภอนางบวช เมืองสุพรรณบุรี (ปัจจุบันอยู่ในเขต อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี) ในสมัยพระปลัดอิ่ม สิริปุญฺโญ เป็นเจ้าอาวาส เป็นระยะเวลา 1 พรรษา[1] พ.ศ. 2473 ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดปู่บัว ตำบลพิหารแดง อำเภอท่าพี่เลี้ยง (อำเภอเมืองสุพรรณบุรี ในปัจจุบัน) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นระยะเวลา 1 พรรษา[1] กระทั่ง พ.ศ. 2474 จึงย้ายกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนไร่ ตำบลหนองสะเดา อำเภอนางบวช (อำเภอสามชุก ในปัจจุบัน) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นต้นมา ตำแหน่งงานปกครอง
สมณศักดิ์
อาพาธ และมรณภาพพระครูสุวรรณวุฒาจารย์ เริ่มอาพาธด้วยโรคชรา เมื่อ พ.ศ. 2516 กระทั่งวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2517 เวลา 07.15 น. ถึงแก่มรณภาพ สิริอายุ 84 ปี อุปสมบทได้ 52 พรรษา สิ่งเกี่ยวเนื่อง - อนุสรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|