พระเจ้าแทโจแห่งโครยอ
พระเจ้าแทโจแห่งโครยอ (เกาหลี: 태조; ฮันจา: 太祖; อาร์อาร์: Taejo; เอ็มอาร์: Taejo ค.ศ. 877 - ค.ศ. 943) เป็นกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โครยอ ซึ่งปกครองเกาหลีตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ถึงศตวรรษที่ 14 พระเจ้าแทโจปกครองตั้งแต่ ค.ศ. 918 ถึง ค.ศ. 943 พระองค์บรรลุการรวมชาติของสามอาณาจักรหลังใน ค.ศ. 936[1] ก้าวขึ้นสู่อำนาจพระเจ้าแทโจพระนามเดิมวังกอน เสด็จพระราชสมภพติเมื่อ ค.ศ. 877 ที่เมืองซองโด ตระกูลของพระองค์นั้นมีอิทธิพลทางการค้ามหาศาลควบคุมการค้ากับจีนและชิลลาและคุมเส้นทางการค้าบริเวณตอนกลางของคาบสมุทรเกาหลี[2] ตำนานกล่าวว่าบรรพบุรุษของพระองค์อาศัยอยู่ในดินแดน โคกูรยอ มาก่อน ดังนั้นพระองค์ทรงจึงเป็นชาวโคกูรยอ อาณาจักรชิลลาภายใต้การปกครองของราชินีจินซองทรงอ่อนแอบรรดาขุนนางท้องถิ่นที่มีอำนาจพากันตั้งตนเป็นอิสระ และรบพุ่งกันเองจนเหลืออยู่สองฐานอำนาจใหญ่ คือ พระเจ้าคุงเย (궁예) ทางตอนเหนือ และพระเจ้าคยอนฮวอน (견훤) ทางตอนใต้ ใน ค.ศ. 895 พระเจ้าคุงเยทรงนำทัพเข้าบุกยึดเมืองซองโดของชิลลา ชาวเมืองซองโดจึงตกอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้าคุงเย ซึ่งประกาศปราบดาภิเษกพระองค์ป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรโกกูรยอใหม่ (후고구려, 後高句麗) พระเจ้าแทโจทรงถวายรับใช้พระเจ้าคุงเยเป็นแม่ทัพคุมทัพเรือด้วยประสบการณ์การเดินเรือสมัยเป็นพ่อค้าทำให้พระองค์ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางพระทัยจากพระเจ้าคุงเยอย่างมากถึงขนาดตรัสว่าพระเจ้าแทโจเป็นน้อง ใน ค.ศ. 915 พระเจ้าคุงเยทรงเปลี่ยนชื่ออาณาจักรเป็นแทบง (태봉, 泰封) และโปรดให้วังกอนเป็นอัครเสนาบดี แต่พระเจ้าคุงเยทรงเหลิงอำนาจ ประกาศว่าเพระองค์ทรงเป็น มีนึก (พระศรีอาริยเมตตรัย) ทรงปกครองอย่างเผด็จการ ใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยในการจัดพิธีบูชาตัวเอง ใน ค.ศ. 918 บรรดาผู้นำทหารของแทบงจึงกระทำการยึดอำนาจและสังหารคุงเย และเชิญวังกอนขึ้นครองราชสมบัติวังกอนเปลี่ยนชื่ออาณาจักรใหม่เป็น โครยอ (고려, 高麗) มาจาก โกคูรยอ เพื่ออ้างถึงการสืบทอดจากอาณาจักรโบราณที่ยิ่งใหญ่ พระเจ้าแทโจทรงสถาปนาเมืองซองโดขึ้นเป็นเมืองหลวง ใน ค.ศ. 926 อาณาจักรบัลแฮ (발해, 渤海) ของชาวเกาหลีถูกพวกคิตันบุกทำลาย ชาวเกาหลีจำนวนมากจึงอพยพลงมาโครยอนำโดยแทควางฮย็อน (대광현, 大光顯) รัชทายาทแห่งพาลแฮ พระเจ้าแทโจก็ต้อนรับเลี้ยงดูชาวพาลแฮอย่างดีในฐานะที่มีบรรพบุรุษเป็นชาวโคกูรยอเหมือนกัน รวมคาบสมุทรเกาหลีพระเจ้าแทโจฟื้นฟูเมืองเปียงยางอดีตเมืองหลวงอาณาจักรโคกูรยอให้เป็นศูนย์กลางทางการทหารเพื่อต้านทานพวกคิตันทางเหนือ หลังจากที่รกร้างไปนานหลังอาณาจักรโคกูรยอล่มสลาย ใน ค.ศ. 927 พระเจ้าคยอนฮวอน กษัตริย์แห่งฮูแบกเจ (후백제, 後百濟) นำทัพบุกทำลายเมืองคยองจู เมืองหลวงของชิลลา สังหารพระเจ้าคยองแอ (경애왕, 景哀王) จับตัวพระราชวงศ์ชิลลา กวาดต้อนชาวเมือง และตั้งพระเจ้าคยองซุน (경순왕, 敬順王) เป็นกษัตริย์หุ่นเชิด เหตุการณ์นี้ทำให้คยอนฮวอนมีอำนาจเด็ดขาดในคาบสมุทรเกาหลี และหันมาบุกโครยอ พระเจ้าแทโจทรงยกทัพไปสู้ แต่พ่ายแพ้ยับเยินที่เขาคงซาน (공산, 公山) และสูญเสียผู้นำทหารคนสำคัญรวมทั้งคนที่ช่วยพระองค์ให้ขึ้นบัลลังก์ด้วย แต่ใน ค.ศ. 930 พระเจ้าแทโจก็สามารถกู้สถานการณ์คืนได้โดยยกทัพบุกเอาชนะทัพฮูแบกเจที่โคชัง (고창 전투) ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้ราชสำนักของฮูแบกเจปั่นป่วน เกิดความขัดแย้งภายในเพื่อแย่งชิงบัลลังก์ คยอนฮวอนจึงตั้งบุตรชายคนที่สี่ของตนเป็นรัชทายาท ทำให้บุตรชายคนโตของคยอนฮวอน คือ ชินกอม (신검) ไม่พอใจจับคยอนฮวอนบิดาของตนขังไว้ที่วัด แต่คยอนฮวอนหลบหนีมาได้ และเดินทางมาโครยอขอยอมจำนนแต่พระเจ้าแทโจ ใน ค.ศ. 935 พระเจ้าคยองซุนนำขุนนางชิลลามาสวามิภักดิ์ต่อพระเจ้าแทโจ สิ้นสุด 900 กว่าปีอาณาจักรชิลลา ใน ค.ศ. 936 พระเจ้าแทโจยกทัพบุกฮูแบกเจ เอาชนะชินกอมแล้วบุกยึดฮูแบกเจ รวมคาบสมุทรเกาหลีเป็นหนึ่งได้อีกครั้ง ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์โครยอพระเจ้าแทโจตระหนักว่าพระองค์ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ได้ด้วยการสนับสนุนจากขุนนางท้องถิ่นราชสำนักของพระองค์นั้นก็ประกอบไปด้วยขุนนางจากอาณาจักรต่าง ๆ พระเจ้าแทโจจึงดำเนินนโยบายประนีประนอมกับอำนาจเก่าเหล่านี้ ไม่กดขี่หรือแย่งอำนาจมาพระเจ้าแทโจตั้งพระเจ้าคยองซุนกษัตริย์องค์สุดท้ายของชิลลาเป็นเจ้าเมืองคยองจูซึ่งมีบรรดาศักดิ์สูงกว่าองค์ชายรัชทายาทของโครยอเสียอีก[3] ให้ยศถาบรรดาศักดิ์กับขุนนางชิลลาเดิม และพยายามอย่างมากที่จะรวมพระราชวงศ์ชิลลาเข้ากับพระองค์โดยการอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงชิลลาหลายพระองค์ พระเจ้าแทโจยังประกาศให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำอาณาจักรอีกด้วย พระเจ้าแทโจเกลียดชังพวกคิตันว่าป่าเถื่อนมาข่มเหงชาวเกาหลี แม้พวกคิตันจะส่งทูตมาเจรจาสัมพันธไมตรีมากี่ครั้งแต่ก็ขับไล่ทูตคิตันออกไปและจับอูฐที่ทูตคิตันให้มาเป็นของขวัญขังไว้ให้อดอาหารตาย พระราชวงศ์
พระมเหสี พระราชโอรสและพระราชธิดา
พระสนม พระราชโอรสและพระราชธิดา
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ พระเจ้าแทโจแห่งโครยอ
|