Share to:

 

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มเอ

กลุ่มเอของ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก เป็นหนึ่งในสิบกลุ่มที่ใช้ตัดสินหาทีมเข้ารอบสำหรับทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบสุดท้าย.[1] กลุ่ม เอ ประกอบไปด้วยห้าทีม: บัลแกเรีย, สาธารณรัฐเช็ก, อังกฤษ, คอซอวอ และ มอนเตเนโกร,[2] โดยที่พวกเขาจะลงเล่นในการพบกันหมดในรูปแบบเหย้าและเยือน.[3]

สองทีมที่ดีที่สุดจะได้เข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ. ไม่เหมือนกับครั้งก่อนหน้านี้, การมีส่วนร่วมของ รอบเพลย์ออฟ จะไม่ถูกนำมาตัดสินขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันจากรอบคัดเลือกรอบแบ่งกลุ่ม, แต่แทนที่ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของพวกเขาใน ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2018–19.

ตารางคะแนน

อันดับ ทีม
 เล่น ชนะ เสมอ แพ้ ได้ เสีย ต่าง คะแนน การผ่านเข้ารอบ อังกฤษ เช็กเกีย คอซอวอ บัลแกเรีย มอนเตเนโกร
1 ธงชาติอังกฤษ อังกฤษ 8 7 0 1 37 6 +31 21 ผ่านเข้ารอบ รอบสุดท้าย — 5–0 5–3 4–0 7–0
2 ธงชาติเช็กเกีย เช็กเกีย 8 5 0 3 13 11 +2 15 2–1 — 2–1 2–1 3–0
3 ธงชาติคอซอวอ คอซอวอ 8 3 2 3 13 16 −3 11 0–4 2–1 — 1–1 2–0
4 ธงชาติบัลแกเรีย บัลแกเรีย 8 1 3 4 6 17 −11 6 0–6 1–0 2–3 — 1–1
5 ธงชาติมอนเตเนโกร มอนเตเนโกร 8 0 3 5 3 22 −19 3 1–5 0–3 1–1 0–0 —
แหล่งข้อมูล: ยูฟ่า
กฏการจัดอันดับ: Tiebreakers

นัด

โปรแกรมการแข่งขันจะถูกปล่อยออกมาโดยยูฟ่าในวันเดียวกันกับการจับสลาก ซึ่งได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ใน ดับลิน[4][5] แต่ละเวลาคือ CET/CEST,[note 1] เป็นไปตามที่ระบุไว้โดยยูฟ่า (เวลาท้องถิ่น, ถ้าแตกต่าง, อยู่ในวงเล็บ)

อังกฤษ ธงชาติอังกฤษ5–0ธงชาติเช็กเกีย เช็กเกีย
สเตอร์ลิง ประตู 24', 62', 68'
เคน ประตู 45+2' (ลูกโทษ)
คาลาส ประตู 84' (เข้าประตูตัวเอง)		 รายงาน
ผู้ชม: 82,575 คน[6]
เช็กเกีย ธงชาติเช็กเกีย2–1ธงชาติบัลแกเรีย บัลแกเรีย
ชิค ประตู 20', 50' รายงาน อิซา ประตู 3'
ผู้ชม: 13,482 คน[6]

ผู้ทำประตู

การแข่งขันทั้งหมดมี 72 ประตูที่ทำได้ใน 20 นัด สำหรับค่าเฉลี่ย 3.6 ประตูต่อนัด.

12 ประตู
8 ประตู
4 ประตู
3 ประตู
2 ประตู
1 ประตู
1 การทำเข้าประตูตัวเอง

ระเบียบวินัย

ทีม ผู้เล่น โดนลงโทษในนัดที่พบกับ ติดโทษแบนในนัดที่พบกับ
ธงชาติอังกฤษ อังกฤษ แดนนี โรส โดนใบเหลือง พบกับ มอนเตเนโกร (25 มีนาคม ค.ศ. 2019)
โดนใบเหลือง พบกับ บัลแกเรีย (7 กันยายน ค.ศ. 2019)
โดนใบเหลือง พบกับ เช็กเกีย (11 ตุลาคม ค.ศ. 2019) 		พบกับ บัลแกเรีย (14 ตุลาคม ค.ศ. 2019)
ธงชาติคอซอวอ คอซอวอ บีซาร์ ฮาลิมี โดนใบเหลือง พบกับ บัลแกเรีย (25 มีนาคม ค.ศ. 2019)
โดนใบเหลือง พบกับ บัลแกเรีย (10 มิถุนายน ค.ศ. 2019)
โดนใบเหลือง พบกับ อังกฤษ (10 กันยายน ค.ศ. 2019) 		พบกับ มอนเตเนโกร (14 ตุลาคม ค.ศ. 2019)

หมายเหตุ

  1. ↑ CET (UTC+1) สำหรับแต่ละนัดในเดือนมีนาคมและเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019 และ CEST (UTC+2) สำหรับแมตช์อื่นๆ ทั้งหมด
  2. ↑ Montenegro were sanctioned by UEFA to play one home match (against Kosovo on 7 June 2019) without spectators for racist behaviour in their home match against England.[7]
  3. ↑ The Bulgaria v Czech Republic match was played behind closed doors due to a UEFA punishment against Bulgaria for racist behaviour in their UEFA Euro 2020 qualifying home match against England.[8]

อ้างอิง

  1. ↑ "UEFA Euro 2020: Qualifying Draw Procedure" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 27 September 2018. สืบค้นเมื่อ 27 September 2018.
  2. ↑ "UEFA EURO 2020 qualifying draw made in Dublin". UEFA.com. Union of European Football Associations. 2 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 December 2018.
  3. ↑ "Regulations of the UEFA European Football Championship 2018–20" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 9 March 2018. สืบค้นเมื่อ 13 March 2018.
  4. ↑ "UEFA EURO 2020 qualifying schedule: all the fixtures". UEFA.com. Union of European Football Associations. 2 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 December 2018.
  5. ↑ "European Qualifiers 2018–20: Group stage fixture list" (PDF). UEFA.com. Union of European Football Associations. 2 December 2018. สืบค้นเมื่อ 2 December 2018.
  6. ↑ 6.00 6.01 6.02 6.03 6.04 6.05 6.06 6.07 6.08 6.09 6.10 6.11 6.12 6.13 6.14 6.15 6.16 6.17 6.18 "Summary UEFA Euro 2020 qualifying – Group A". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 28 March 2019.
  7. ↑ "Disciplinary - Inside UEFA – UEFA.com". UEFA.com. 26 เมษายน 2019.
  8. ↑ "Bulgaria fans' racism: Racist abuse of England players leads to stadium ban". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 29 October 2019. สืบค้นเมื่อ 29 October 2019.

แหล่งข้อมูลอื่น
Kembali kehalaman sebelumnya