รักสลับขั้ว
รักสลับขั้ว (ญี่ปุ่น: ぱられる) (อังกฤษ: Parallel) เป็นการ์ตูนรักของเด็กวัยรุ่น สอดแทรกด้วยเนื้อหาตลกขบขัน ผลงานของ โตชิฮิโกะ โคบายาชิ ผู้วาดเรื่อง พาสเทล ลงตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในนิตยสาร โชเน็นแม็กกาซีนรายสัปดาห์ ของสำนักพิมพ์ โคดันฉะ มีทั้งหมด 19 ตอน และตอนพิเศษอีก 1 ตอน โดยตอนพิเศษดังกล่าวตีพิมพ์ในระหว่างที่เนื้อเรื่องหลักดำเนินอยู่ในเวลาเดียวกัน ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษาไทย โดย วิบูลย์ พับลิชชิ่ง กรุ๊ป จัดทำเล่มแรกเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 จากนั้นเล่มที่ 2 จัดทำเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ส่วนเล่มที่ 3 จัดทำเมื่อ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และเล่มสุดท้ายจัดทำเมื่อ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ฉากส่วนใหญ่การ์ตูนเรื่องนี้ วาดจากสถานที่จริงในเมืองโอโนะมิจิ จังหวัดฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น เนื้อเรื่องเนื้อเรื่องหลักเนโกตะ ชินโนสุเกะ เด็กหนุ่มอายุ 15 ที่เป็นหัวโจกของเหล่าเด็กผู้ชายในชั้นเรียน มักจะมีปากเสียงกับเหล่าเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะ โฮชิโนะ ซากุระ เด็กสาวหน้าตาดี แถมหัวดี และเป็นหัวหน้าของกลุ่มเด็กผู้หญิง ถึงแม้เนโกตะจะทะเลาะกับโฮชิโนะได้ไม่เว้นวัน แต่ลึกๆ ในใจแล้ว เขาแอบชอบโฮชิโนะมานาน จนในที่สุดหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจที่จะบอกความในใจให้โฮชิโนะได้รู้ แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือคำปฏิเสธจากเธอว่า "ไม่ได้หรอก" หลังจากผิดหวัง เนโกตะจึงกลับบ้าน และพบว่าพ่อของเขาที่แทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน เพราะเป็นนักดนตรีอาชีพและต้องตระเวณแสดงยังที่ต่างๆ รอพบเขาอยู่เพื่อที่จะบอกข่าวการแต่งงานใหม่กับเพื่อนนักดนตรีด้วยกัน และก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไปแสดงดนตรีอีกนานนับปี ก็จะฝากลูกติดของแม่ใหม่จะมาพักอาศัยอยู่กับเนโกตะด้วย เพราะปัญหาเรื่องการเช่าบ้าน ซึ่งลูกติดคนดังกล่าวก็คือโฮชิโนะนั่นเอง พร้อมกันนั้นพ่อของเนโกตะและแม่ของโฮชิโนะยังกำชับให้ทุกคนเก็บเรื่องความสัมพันธ์นี้ไว้เป็นความลับด้วยจนกว่าพวกเขาจะแต่งงานกัน เนโกตะเอง แม้จะยังไม่รู้ว่าหากแท้จริงแล้วโฮชิโนะจะคิดชอบเขาบ้างหรือไม่ แต่ในตอนนี้เขาก็เข้าใจได้ว่าที่โฮชิโนะปฏิเสธเขานั้นสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะเมื่อพ่อของเขากับแม่ของโฮชิโนะแต่งงานกันแล้ว พวกเขาจะต้องมีความสัมพันธ์เป็นพี่น้องกัน เนโกตะเองเข้าใจถึงเรื่องนี้แต่ก็รู้สึกเสียใจกับความจริงดังกล่าว จนทำให้มีปากเสียงกับโฮชิโนะ และพลั้งปากบอกกับเธอไปว่าที่เขาสารภาพรักเธอเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นเท่านั้นเอง ถึงกระนั้นก็ตามแท้จริงแล้วเนโกตะก็ไม่อาจตัดใจจากโฮชิโนะได้ เวลาที่ทั้งคู่อยู่ที่โรงเรียนก็ยังคงทะเลาะกันเช่นเดิม และไม่อาจเปิดเผยได้ว่าพวกเขาอยู่บ้านเดียวกัน ในขณะที่ความสัมพันธ์แบบแปลกประหลาดระหว่างเนโกตะและโฮชิโนะเริ่มดำเนินไปเรื่อยๆ คิตามุระ เด็กหนุ่มผู้เป็นที่นิยมในกลุ่มเด็กผู้หญิง และเป็นเพื่อนสนิทของเนโกตะ ได้รู้ความจริงในที่สุดว่าเนโกตะกับโฮชิโนะอยู่บ้านเดียวกัน เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่กำลังจะแต่งงานกัน ทำให้เขาตัดสินใจบอกกับเนโกตะว่าเขาแอบชอบโฮชิโนะอยู่ ทั้งยังขอให้เนโกตะช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างเขากับโฮชิโนะด้วย เนโกตะเองจึงเกิดความสับสนขึ้นภายในใจ แต่ท้ายที่สุด เนโกตะก็ยอมช่วยคิตามุระเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิท และเป็นคนดี จนในที่สุดคิตามุระก็ได้ไปออกเดทดูหนังกับโฮชิโนะ แต่เนโกตะก็ไม่วายแอบตามไปดูทั้งคู่อยู่ห่างๆ จนช่วงท้ายของการเดท คิตามุระได้สารภาพรักกับโฮชิโนะ ทว่ากลับโดนปฏิเสธ พร้อมกับที่เนโกตะถูกจับได้ว่าแอบตามดูการเดทของพวกเขาอยู่ และนั่นทำให้คิตามุระเข้าใจในที่สุดว่า แท้จริงแล้วเนโกตะก็ชอบโฮชิโนะอยู่เช่นกัน เวลาผ่านเข้าสู่ช่วงปิดเทอมหน้าร้อน สมาชิกชมรมเบสบอลพากันไปเที่ยวบ้านพักตากอากาศของคิตามุระบนเกาะเล็กๆ รวมทั้ง ไอฮาระ รินะ เด็กสาวรุ่นน้องของเนโกตะที่เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมเบสบอล เพราะรู้สึกชอบและอยากใกล้ชิดเนโกตะ ในตอนที่ไปเที่ยวกันนี้เองที่คิตามุระได้บอกกับเนโกตะว่าเขาเองได้หันไปคบกับ นิชิกาวะ เพื่อนหญิงคนสนิทของโฮชิโนะแล้ว ทำให้เนโกตะรู้สึกดีใจระคนโล่งใจ คิตามุระยังบอกอีกว่าเขาได้ชวนนิชิกาวะให้มาเที่ยวด้วยกัน ทางด้านนิชิกาวะเองก็อยากไปเที่ยวด้วย จึงชวนโฮชิโนะให้ไปด้วยกัน โดยในช่วงเวลาที่ไปเที่ยวกันนั้น ไอฮาระแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบเนโกตะ จนถึงขนาดขออาสาไปทำอาหารให้เนโกตะกินที่บ้าน หลังกลับจากการไปเที่ยวแล้ว ไอฮาระได้คุยกับโฮชิโนะ และขอให้โฮชิโนะช่วยให้เธอได้ใกล้ชิดกับเนโกตะ นอกจากนี้เธอยังคงวนเวียนไปมาหาสู่เนโกตะอยู่เป็นประจำอีกด้วย ทำให้เนโกตะอึดอัดมาก เพราะเขาไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษให้กับไอฮาระ แถมยังกลัวว่าการที่ไอฮาระไปหาเขาที่บ้านบ่อยๆ จะทำให้ความลับที่ว่าเขากับโฮชิโนะอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันจะแตกอีกด้วย ซึ่งเนโกตะคิดแล้วว่าหากไอฮาระรู้เรื่องนี้แล้ว คงไม่ช่วยเก็บไว้เป็นความลับต่อไปเหมือนอย่างคิตามุระแน่ๆ เขาจึงติดสินใจบอกไอฮาระไปตามตรงว่าเขามีคนที่ชอบแล้ว คือโฮชิโนะ แต่ปฏิกิริยาที่ได้จากไอฮาระกลับผิดคาด เมื่อไอฮาระยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะเป็นแฟนกับเนโกตะ อยู่มาวันหนึ่ง จู่ๆพี่สาวของโฮชิโนะที่แยกจากกันไปนาน ฮารุโนะ โมโมโกะ ก็มาขออาศัยอยู่ที่บ้านของเนโกตะด้วย ทำให้โฮชิโนะไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่พอใจนิสัยของโมโมโกะที่เลื่อนลอย ขี้เล่น จนสร้างปัญหาให้เธอบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดเนโกตะก็ได้พูดคุยกับโฮชิโนะและช่วยให้เธอปรับความเข้าใจกับโมโมโกะได้ในที่สุด ต่อมาได้มีกองถ่ายโฆษณามาถ่ายทำที่เมืองที่เนโกตะและโฮชิโนะอาศัยอยู่ ในตอนนั้นเองที่ทำให้พวกเขาได้รู้ว่า แท้จริงแล้วโมโมโกะรับงานเป็นนักแสดงด้วย ระหว่างที่เนโกตะและโฮชิโนะ รวมถึงเพื่อนๆ กำลังดูการถ่ายทำโฆษณาอยู่ ผู้กำกับก็เห็นโฮชิโนะและตัดสินใจให้เธอมาเทสต์หน้ากล้อง จนในที่สุดก็จับพลัดจับผลู มีการนำเทปดังกล่าวออกอากาศทางทีวี ทำให้โฮชิโนะยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากคนในโรงเรียนเอง และคนทั่วไปภายนอก ทำให้เนโกตะรู้สึกว่าโฮชิโนะยิ่งอยู่ห่างจากตนเองออกไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นานโฮชิโนะได้รับคำชวนให้เข้าวงการเป็นดารา แต่เธอก็ปฏิเสธในนาทีสุดท้าย เพราะไม่อยากย้ายไปอยู่โตเกียว เนื่องจากเป็นห่วงเนโกตะ วันหนึ่ง เนโกตะได้รับโทรศัพท์จากพ่อที่อยู่ต่างประเทศว่าได้ข่าวคุณย่าของเนโกตะที่อยู่แถบชนบทไม่สบายหนัก ขอให้เนโกตะไปช่วยดูแลด้วย เนโกตะจึงเดินทางไปหาคุณย่า ที่นั่นเองเนโกตะได้พบกับเพื่อนสมัยเด็ก คันโนะ โทโกะ ซึ่งเปลี่ยนไปมากจากความทรงจำของเนโกตะ จากเด็กผู้หญิงแก่นแก้ว ขี้เหร่ กลายเป็นสาวสวย เปรี้ยวซ่า โฮชิโนะได้ตามไปบ้านคุณย่าด้วยเพราะเหตุบังเอิญว่าเนโกตะไม่ได้เอาชุดจากที่บ้านไปเปลี่ยน ช่วงระหว่างที่เนโกตะอยู่ที่บ้านคุณย่า โทโกะก็ได้บอกความในใจ และเอ่ยถึงสัญญาที่เนโกตะเคยให้ไว้สมัยเด็กๆ ว่าจะแต่งงานกับเธอ แต่เนโกตะก็ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษให้กับโทโกะ แม้ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับโทโกะเพียงสองต่อสองในห้องนอนของโทโกะเอง เนโกตะก็ยังคงแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความมั่นคงของความรักที่เขามีให้กับโฮชิโนะ หลังกลับจากบ้านคุณย่า พวกเนโกตะและโฮชิโนะ รวมถึงเพื่อนรวมห้องคนอื่น ต้องช่วยกันเตรียมการออกร้านในงานวัฒนธรรมของโรงเรียน โดยห้องของพวกเขาตัดสินใจจะทำบ้านผีสิงผนวกกับค็อฟฟี่ช็อป ในระหว่างนั้นไอฮาระได้เข้ามาคลุกคลีกับพวกเขาอยู่ตลอด แม้ไอฮาระจะเกาะติดแจอยู่กับเนโกตะสักเพียงไร แต่เขาก็พยายามที่จะไม่ได้ให้โฮชิโนะเข้าใจผิด เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้กลุ่มเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายในห้องที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอดได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ยิ่งวันเวลาผ่านไป เนโกตะยิ่งแสดงออกมากขึ้นว่าเขาชอบโฮชิโนะเพียงใด จนครั้งหนึ่งเขาและโฮชิโนะโดนขังไว้ในห้องเก็บของด้วยกัน เนโกตะจึงใช้โอกาสนี้บอกความในใจกับโฮชิโนะอีกครั้ง เพราะเขาอยากบอกกับเธอถึงเรื่องที่เคยพลั้งปากว่าการที่เขาบอกรักเธอเพียงเพื่อจะล้อเล่นกับโฮชิโนะนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่เหตุการณ์กลับกลายเป็นว่าอาจารย์หญิงท่านหนึ่งมาเห็นทั้งคู่อยู่ในห้องเก็บของด้วยกันพอดี ทำให้อาจารย์ท่านนั้นไม่พอใจมาก และต้องการพบผู้ปกครองของทั้งคู่ ร้อนถึงโมโมโกะที่ต้องสวมบทแสดงละครเป็นแม่ของเนโกตะและโฮชิโนะ แต่ท้ายที่สุดโมโมโกะก็สามารถกล่อมอาจารย์ท่านนั้นไม่ให้เอาเรื่องเนโกตะและโฮชิโนะได้ หลังผ่านเหตุการณ์ตึงเครียดมาด้วยกัน เนโกตะคิดว่าเขาน่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กับโฮชิโนะได้มากขึ้น ทว่าจู่ๆ พ่อของเขาและแม่ของโฮชิโนะก็กลับมาจากการตระเวณแสดงดนตรี เนโกตะรู้สึกเสียใจมาก เพราะเมื่อมีการแต่งงานอย่างเป็นทางการระหว่างพ่อของเขากับแม่ของโฮชิโนะ นั่นเท่ากับว่าตัวเขาเองและโฮชิโนะก็จะกลายเป็นพี่น้องกันทันที วันเวลาที่เขาจะมีความสุขด้วยความหวังที่จะเป็นคู่รักกับโฮชิโนะก็จะหมดลงเช่นกัน ทุกสิ่งดูเหมือนจะมืดมนไปหมดสำหรับเนโกตะ แต่ในตอนท้ายเขาก็รู้ว่า แท้จริงแล้วพ่อของเขากับแม่ของโฮชิโนะตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันโดยไม่แต่งงานกัน และนั่นจะทำให้เขากับโฮชิโนะพ้นจากสถานะการเป็นพี่น้องกัน พวกเขามีสิทธิ์ที่จะคบหาเป็นคู่รักกันได้ เพียงแต่พวกเขาต้องแยกบ้านกันอยู่เพราะไม่ได้เป็นพี่น้องกันอีกต่อไปแล้ว ตอนนั้นเองที่ทำให้โฮชิโนะกล้าที่จะบอกความในใจว่าแท้จริงแล้วเธอดีใจมากที่เนโกตะบอกว่าชอบเธอ ซึ่งเธอเองก็ชอบเนโกตะเช่นกัน แต่ต้องอดกลั้นความรู้สึกนั้นไว้มาตลอดเพราะความเป็นพี่น้อง ในที่สุดเรื่องราวความรักของพวกเขาก็จบอย่างมีความสุข เนื้อเรื่องตอนพิเศษเนโกตะ และโฮชิโนะ รับจ้างทำงานพิเศษที่ร้านอาหารริมทะเลในช่วงปิดเทอม ที่นั่นเองเนโกตะได้พบกับ มาริ รุ่นพี่สาวสวยที่เคยรู้จักกันสมัยที่มาริเป็นผู้จัดการทีมเบสบอล มาริดูอาการของเนโกตะและโฮชิโนะแล้วรู้ดีว่าทั้งคู่ต่างมีใจให้กัน แต่เพราะโฮชิโนะยืนยันหนักแน่นว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นพี่น้องกันเท่านั้นไม่มีเกินเลยเป็นอื่น จึงทำให้มาริมีความหวังและตัดสินใจบอกความในใจของตนให้เนโกตะรับรู้ว่าตนเองนั้นเขา ถึงอย่างนั้นเนโกตะก็ใจแข็งและแสดงให้มาริได้รู้ว่า ภายในใจของเขายังคงมีเพียงโฮชิโนะเท่านั้น แม้จะรู้ดีก็ตามว่าตอนนี้คนที่เขารักมีสถานะเป็นพี่สาวของตนเอง นั่นเองที่ทำให้มาริเข้าใจได้ในที่สุด ตัวละคร
รายชื่อตอนต่างๆจากการตีพิมพ์เรื่องรักสลับขั้วเป็นภาษาไทยทั้งหมด 4 เล่ม มีชื่อตอนต่างๆ ดังนี้
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|