ลน นน
ลน นน (Lon Non; เอกสารภาษาไทยบางฉบับใช้ ลอน โนน[1]) เป็นทหารและนักการเมืองชาวกัมพูชาที่มีอำนาจในสมัยสาธารณรัฐเขมร เกิดเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2473 เป็นน้องชายของ ลอน นอล มีบทบาทมากในการสนับสนุนการปกครองของพี่ชาย เขาถูกเขมรแดงสังหารหลังจากพนมเปญแตกเมื่อ 17 เมษายน พ.ศ. 2518 วัยเด็กนนเป็นบุตรชายของ ลน ฮิน ซึ่งเป็นกำนันในจังหวัดไพรแวง เข้าเรียนในวิทยาลัยนโรดม สีหนุ (Collège Norodom Sihanouk) ในกำปงชนัง เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาคือลต ซอ (ต่อมาคือ พล พต)[2] ด้วยการสนับสนุนของพี่ชายเขาได้ไปศึกษาต่อทางด้านอาชญวิทยาที่ฝรั่งเศส[3] อาชีพในช่วงระบอบสังคมของพระนโรดม สีหนุ นนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีบทบาทสำคัญในรัฐประหาร พ.ศ. 2513 หลังจากนั้น นนก้าวหน้าในอาชีพการงานอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะขาดประสบการณ์ทางทหารแต่ก็ได้เลื่อนยศจนเป็นนายพล และเป็นผู้บัญชาการทหารเขมรเสรีและทหารจากขแมร์กรอมที่เข้ามาในประเทศหลังการรัฐประหาร การฆ่าชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในกัมพูชาเชื่อว่าเป็นผลงานของลน นนเช่นกัน[4] กิจกรรมทางการเมืองบทบาททางการเมืองของนน เน้นที่ความจงรักภักดีต่อพี่ชาย แต่ความขัดแย้งของเขากับพระสีสุวัตถิ์ สิริมตะทำให้เกิดความแตกแยกทางการเมือง เมื่อลน นลสุขภาพไม่ดีและไปรักษาตัวระหว่าง พ.ศ. 2513 – 2514 นนเกิดความขัดแย้งกับพระสิริมตะที่เป็นนายกรัฐมนตรี ใน พ.ศ. 2514 ภาพพจน์ของนนดีขึ้นเมื่อเขานำกองทัพรบชนะฝ่ายคอมมิวนิสต์ในปฏิบัติการอกิเนธ โมหะ ปาเดะวุธ ต้นปี พ.ศ. 2515 ลน นนสามารถกำจัดพระสิริมตะออกจากรัฐบาลได้สำเร็จหลังจากจัดให้นักศึกษาออกมาประท้วงขับไล่[5] และมีส่วนผลักดันให้พี่ชายของเขาขึ้นเป็นประธานาธิบดีในปลายปี พ.ศ. 2515 นน ที่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายในได้ก่อตั้งพรรคสาธารณรัฐสังคมนิยมเพื่อเข้าร่วมในการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปไตยของอิน ตัม กับพรรคสาธารณรัฐของพระสิริมาตะปฏิเสธเข้าร่วมการเลือกตั้ง ทำให้พรรคสาธารณรัฐสังคมนิยมได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด ภายในพรรคสาธารณรัฐสังคมนิยมมีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มดงแร็กกับกลุ่มดังกอร์ นนอยู่ในกลุ่มดังกอร์ซึ่งเป็นคนละพวกกับเซิง งอกทัญและฮาง ทุน ฮัก ในระหว่างสงครามกลางเมืองกัมพูชา นนพยายามขอความช่วงเหลือจากฝรั่งเศสและสหภาพโซเวียตเพื่อเจรจาสันติภาพ[6] การฉ้อราษฎร์บังหลวงมีหลักฐานที่เชื่อมโยงนนเข้ากับการค้าเฮโรอีน[7] และยังเกี่ยวข้องกับการค้าอาวุธ และส่วนใหญ่จะตกไปถึงมือเขมรแดง สหรัฐอเมริกาได้กดดันลน นลให้ลดบทบาทของนนลง เนื่องจากปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวง ขาดการควบคุมอารมณ์ ออสเตรเลียกล่าวว่านนได้จัดตั้งหน่วยลอบสังหารที่เรียกว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยสาธารณรัฐ ใช้รถฮอนด้าสีเหลืองเป็นพาหนะ[8] เมื่อนนถูกกดดันให้ออกจากกัมพูชาเมื่อ พ.ศ. 2516 ภรรยาของเขาได้นำเงินจำนวนมากออกนอกประเทศเพื่อไปใช้ชีวิตร่วมกับสามี[9] เสียชีวิตลน นนกลับสู่กัมพูชาอีกครั้งใน พ.ศ. 2517 และเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีก ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 นนเลือกที่จะอยู่ในกัมพูชาหลังจากที่ลน นลพี่ชายได้ลี้ภัยออกนอกประเทศไป เพื่อเจรจาสงบศึกกับเขมรแดงร่วมกับลอง โบเรตและคนอื่น ๆ นนยังคงอยู่ในพนมเปญเมื่อเขมรแดงเข้าเมืองได้ในวันที่ 17 เมษายน[10] มีผู้พบเห็นเขาอยู่กับชุดรักษาความปลอดภัยของเขา หลังจากที่กอย ทวนได้เป็นหัวหน้ากองกำลังของเขมรแดงที่ออกกวาดล้างคนของระบบเก่า เขาได้สั่งจับกุมลน นน และเจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐเขมรมาประหารชีวิตกลางกรุงพนมเปญ วิทยุกระจายเสียงของเขมรแดงบอกว่าเขาถูกรุมประชาทัณฑ์จนเสียชีวิต แต่ไม่มีใครทราบว่าที่แท้จริงเป็นอย่างไร อ้างอิง
|