วอลโว่
วอลโว่ เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ของสวีเดน ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1927 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ เมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ถือหุ้นใหญ่โดย Zhejiang Geely Holding Group [3]วอลโว่ถือกำเนิดจากการเป็นบริษัทลูกของบริษัทผลิตลูกปืน SKF ต่อมาปี2010 บริษัทรถยนต์จี๋ลี่ (Geely Holding Group) ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์เอกชนรายใหญ่ของจีนที่มีฐานธุรกิจที่มณฑลเจ้อเจียง เข้าซื้อกิจการรถยนต์วอลโว (Volvo) จากบริษัทฟอร์ดมอเตอร์แล้ว ด้วยเงินมูลค่า 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีพิธีลงนามสัญญาที่กรุงโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2010 ที่ผ่านมา สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการรถยนต์จีนในการยกระดับแบรนด์ผ่านการซื้อยี่ห้อแบรนด์ไฮแอนด์ระดับโลกเพื่อบุกตลาดตะวันตก ในปี 1935 SKF ได้ขายหุ้นทั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์สต็อกโฮล์ม และถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มบริษัทวอลโว่ จนถึงปี 1999 บริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ ได้ซื้อหุ้นทั้งหมดของ วอลโว่ คาร์ คอร์เปอเรชั่น และในปี 2010 กลุ่มจีลี่ ออโตโมบิล ได้ซื้อหุ้นทั้งหมดจากฟอร์ดมอเตอร์[4] วอลโว่ ผลิตรถยนต์ชนิดต่างๆ ตั้งแต่ รถยนต์ SUVs รถยนต์นั่งชนิดท้ายยาว(Station wagon) รถยนต์ซีดาน รถยนต์ซีดานขนาดเล็ก ไปจนถึงรถยนต์คูเป้สองประตู ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของวอลโว่คือ สหรัฐอเมริกา ตามมาด้วยสวีเดน สหราชอาณาจักร จีน และเยอรมนี [2] ในปี 2010 วอลโว่ ทำสถิติยอดขายทั่วโลกกว่า 373,525 คัน เพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2009[5] รถยนต์วอลโว่มักจะถูกเรียกว่า รถยนต์ทรงเหลี่ยม ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของวอลโว่มาตั้งแต่เริ่ม ภายหลังวอลโว่ได้ออกแบบให้รถยนต์หลุดออกจากภาพรถยนต์ทรงเหลี่ยม เพื่อเรียกความนิยมจากผู้ที่นิยมรถยนต์ทรงสปอร์ตมากขึ้น[6] รถยนต์วอลโว่มีจุดขายและมีชื่อเสียงในเรื่องความปลอดภัย ก่อนที่รัฐบาลสวีเดนจะออกกฎความปลอดภัยของตัวรถยนต์ วอลโว่ได้รับความเชื่อถือในเรื่องปลอดภัยทางวิศวกรรมอย่างสูง[7][8] เครื่องหมายการค้าของวอลโว่ เป็นสัญลักษณ์ของดาวอังคาร (Mars) และถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ทางเคมีของธาตุ "เหล็ก" ในสมัยโบราณ วอลโว่ใช้สัญลักษณ์นี้แสดงถึงความแข็งของเหล็กจากสวีเดน ซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกแร่เหล็กที่สำคัญของโลก รถที่ผลิตอยู่ในปัจจุบัน
++วอลโว่ C40 2023- Pure electric
รถที่ผลิตอยู่ในอนาคต
รถที่ยกเลิกการผลิต
พลังงานทางเลือกFlexible-fuelในปี 2005 วอลโว่ได้เปิดตัวรถยนต์ชนิดที่ใช้ flexifuel ครั้งแรก คือวอลโว่รุ่น S40 และ S50 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ใช้ได้ทั้งเชื้อเพลิงเบนซิน และ E85 ตามมาด้วยรุ่น C30 ในปี 2006 ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกจำหน่ายในเฉพาะประเทศสวีเดนเท่านั้น จนกระทั่งปี 2007 รถยนต์ทั้งสามรุ่นได้เริ่มจำหน่ายในทวีปยุโรป 8 ประเทศ[9] รถยนต์ไฮบริด (Plug-in hybrids)วอลโว่ รีชาร์ต เป็นแนวคิดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่วิ่งได้กว่า 97 กม.ต่อการชาร์ตไฟ 1 ครั้ง (1 AER) เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี 2007 ที่ แฟรงค์เฟริต ออโต้ โชว์ ในเยอรมนี ในปี 2009 วอลโว่ได้ประกาศว่าจะทำรถยนต์ดีเซลที่ใช้พลังงานไฟฟ้าร่วมด้วยภายในปี 2012[10][11] และมีแผนที่จะจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดนี้ภายใต้แนวคิดที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากกว่า 50 กรัม ต่อ กิโลเมตร[10][11] ในปี 2017 นาย คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เรามีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากกับ S90 T8 Twin Engine AWD Plug-in Hybrid ใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ผสานรูปลักษณ์และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยจาก XC90 ที่กวาดรางวัลมาแล้วทั่วโลก ยังเป็นอีกก้าวในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวอลโว่อีกด้วย” รถยนต์ไฟฟ้ารถยนต์วอลโว่รุ่น C30 DRIVe Electric concept car ถูกแสดงครั้งแรกในงาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ ปี2010 เป็นรถยนต์ที่วิ่งด้วยแบตเตอรี่ชนิด ลิเที่ยมไอออน วิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. วิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 150 กม. ต่อการชาร์ตแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ทำการทดลองวิ่งแล้วในเมืองโกเธนเบิร์กประเทศสวีเดน เป็นจำนวน 10 ครั้งในปี 2010 และจะเริ่มทำการทดสอบภาคสนามที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน ในปี 2011 Gas-turbine Hybridรถยนต์วอลโว่รุ่น EEC (Environmental Concept Car) ถูกแสดงครั้งแรกในงาน ปารีส มอเตอร์ โชว์ ปี1992 เป็นรถยนต์ที่วิ่งด้วยแบตเตอรี่และเครื่องยนต์แบบ กังหันก๊าซ (Gas turbine) วิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 90 ไมล์ (140 กม.) Drive-E enginesอ้างอิง
|