วังสันติวังสันติภาพ หรือ เฟรเดิสปาไลส์ (ดัตช์: Vredespaleis) เป็นหมู่อาคารอันตั้งอยู่ในเดอะเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ชื่อว่าเป็น "บัลลังก์แห่งกฎหมายระหว่างประเทศ" หรือ "ที่ประดิษฐานกฎหมายระหว่างประเทศ" (seat of international law) เพราะเป็นที่ตั้งกองบัญชาการของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ, ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร, เนติบัณฑิตยสถานระหว่างประเทศแห่งเดอะเฮก และหอสมุดวังสันติภาพที่ล้ำค่า นอกจากเป็นที่ตั้งสถาบันดังกล่าวแล้ว ที่วังสันติภาพยังมักจัดเทศกาลพิเศษเกี่ยวกับนโยบายระหว่างประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศด้วย การเริ่มก่อสร้างใน ค.ศ. 1900 ฟรีดิช มาร์เท็นส์ (Friedrich Martens) นักการทูตชาวรัสเซีย กับแอนดรูว์ ไวต์ (Andrew White) นักการทูตชาวอเมริกัน พูดคุยกันเรื่องหาที่ตั้งให้ ศาลอนุญาโตตุลาการถาวร อันจัดตั้งขึ้นในการประชุมสันติภาพ ณ เดอะเฮกเมื่อ ค.ศ. 1899 ไวต์ชวน แอนดรูว์ คาร์เนกี (Andrew Carnegie) เพื่อนของเขาซึ่งเป็นนักกิจกรรมการกุศล มาร่วมวงด้วย คาร์เนกีค่อนข้างสงวนท่าที เพราะเขาสนใจจะหาทุนสร้างหอสมุดกฎหมายระหว่างประเทศมากกว่า แต่ไวต์ก็หว่านล้อมให้คาร์เนกีมาร่วมงานด้วยเป็นผลสำเร็จ ใน ค.ศ. 1903 คาร์เนกีตกลงจะบริจาคเงินหนึ่งล้านห้าแสนดอลลาร์สหรัฐสร้าง "วัดสันติภาพ" (Peace Temple) หรือที่ต่อมาเปลี่ยนมาเรียกว่า "วังสันติภาพ" เป็นที่ตั้งศาลอนุญาโตตุลาการถาวร แต่มีเงื่อนไขว่าต้องมีหอสมุดกฎหมายระหว่างประเทศอยู่ในอาณาบริเวณด้วย เบื้องต้น คาร์เนกีจะถวายเงินดังกล่าวให้แก่สมเด็จพระราชินีนาถวิลเฮลมินาแห่งเนเธอร์แลนด์ เพื่อไปดำเนินโครงการสร้างวังสันติภาพ แต่ติดขัดทางข้อกฎหมาย ดังนั้น ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1903 คาร์เนกีจึงตั้งมูลนิธิคาร์เนกีสาขาเนเธอร์แลนด์ขึ้น เพื่อควบคุมการก่อสร้าง เพื่อถือกรรมสิทธิ์ และเพื่อคอยบำรุงรักษาวังสันติภาพ ปัจจุบัน มูลนิธิคาร์เนกีก็ยังคงถือกรรมสิทธิ์ในวังสันติภาพ ตลอดจนมีสิทธิและอำนาจก่อสร้างและบำรุงรักษาดังกล่าวนั้นอยู่ การก่อสร้างเพื่อสรรหารูปแบบที่เหมาะสม มูลนิธิคาร์เนกีจึงจัดประกวดออกแบบสถาปัตยกรรมระหว่างประเทศขึ้น หลุยส์ แอ็ม. กอร์ดอนนีเยร์ (Louis M. Cordonnier) สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ชนะการประกวด เขาออกแบบวังไปในแนวฟื้นฟูศิลปวิทยาใหม่ (Neo-Renaissance) แต่เพื่อให้พอดีกับทุนที่มี คาร์เนกี กับฟาน เดอร์ สเทอร์ (Van der Steur) ผู้ช่วยชาวเนเธอร์แลนด์ของเขา ได้ปรับปรุงแบบวัง จากเดิมที่จะให้มีหอระฆังใหญ่สองหอด้านหน้าวัง และหอระฆังเล็กอีกสองหอด้านหลังวัง เป็นเหลือด้านหน้าและด้านหลังด้านละหอ นอกจากนี้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หอสมุดกฎหมายระหว่างประเทศที่เดิมจะให้แยกไว้ข้างวัง ก็ปรับปรุงเป็นให้อยู่ในตัววังเสียเลย ส่วนลานของวังนั้น ธอมัส เฮย์ตัน มอว์สัน (Thomas Hayton Mawson) ชนะการประกวด แต่เนื่องจากงบน้อย เขาจึงจำต้องตัดน้ำพุและประติมากรรมต่าง ๆ ออกจากแบบ ภายในวัง ประดับประดาด้วยของขวัญจากชาติต่าง ๆ ที่ร่วมการประชุมสันติภาพ ณ เดอะเฮก เพื่อแสดงการสนับสนุนการก่อสร้าง ในบรรดาของขวัญเหล่านี้ ชิ้นเด่น ๆ ได้แก่ แจกันน้ำหนัก 3.2 ตันจากรัสเซีย, บานประตูจากเบลเยียม, พรมติดผนังจากญี่ปุ่น, นาฬิกาสำหรับหอนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์, พรมเปอร์เซียจากอิหร่าน และไม้จากอินโดนีเซียกับสหรัฐอเมริกา อนึ่ง ยังมีรูปปั้นและรูปเขียนนักรณรงค์เพื่อสันติอีกหลาย ๆ คนที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกและจากหลาย ๆ ยุค ด้วย
ใน ค.ศ. 1907 ระหว่างการประชุมสันติภาพครั้งที่สอง ณ เดอะเฮก มีการวางศิลาฤกษ์ของวังสันติภาพ แล้วลงมือก่อสร้างกันในหลาย ๆ เดือนถัดมา จนเสร็จและมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 1913 แอนดรูว์ คาร์เนกี ก็มาร่วมงานด้วย ใน ค.ศ. 1999 มีการติดตั้ง "เพลิงสันติอันเป็นนิรันดร์ (eternal peace flame) ซึ่งเป็นชื่อเรียกคบเพลิงที่ตามไฟไว้ตลอด ไว้หน้าประตูทั้งปวงของวัง ใน ค.ศ. 2007 เบียทริกซ์ พระราชินีแห่งเนเธอร์แลนด์ เสด็จเปิดหอสมุดกฎหมายแห่งวังสันติภาพที่สร้างขึ้นใหม่ สำหรับเป็นที่ตั้งหอสมุดขนาดใหญ่ทั้งหลัง, ห้องบรรยายวิชา และห้องอ่านตำรา ซึ่งมีทางเชื่อมไปยังตัววังสันติภาพด้วย
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ วังสันติ อ้างอิง
|