วัดไชยทิศ
วัดไชยทิศ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในแขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ประมาณ 8 ไร่เศษ ด้านทิศตะวันออก ด้านหน้าวัดมีเขตติดต่อกับคลอง เรียกกันว่าคลองวัดไชยทิศ ประวัติคาดว่าวัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยดูจากสถาปัตยกรรมของพระอุโบสถซึ่งยังหลงเหลืออยู่ จากคำบอกเล่า คาดว่าสร้างวัดนี้พร้อมวัดไชยชิตคือวัดบางขุนนนท์ บางท่านเล่าว่า เจ้ากรมฝ่ายพระราชวังหลัง สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ร่วมกันสร้างขึ้นหลังจากมีชัยชนะต่อข้าศึก หากวัดนี้สร้างขึ้นพร้อมวัดไชยชิต (บางขุนนนท์) จริงตามคำบอกเล่า ก็สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย แต่อีกแหล่งข้อมูลหนึ่งสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ประมาณ พ.ศ. 2370 พร้อมประกาศสร้างวัด[1] อาคารเสนาสนะและจิตรกรรมฝาผนังอาคารเสนาสนะพระอุโบสถขนาดกลางประมาณ 3 ห้อง คาดว่าสร้างตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย เดิมไม่มีช่อฟ้าใบระกา แต่การบูรณะในระยะหลังได้ต่อเติมเพิ่มขึ้นมา มีพาไลคลุมทั้งด้านหน้าและด้านหลังทำให้บริเวณมุกด้านหน้าและด้านหลังของพระอุโบสถมีหลังคาคลุมกันฝน ใบเสมาของพระอุโบสถแกะสลักจากหินทรายขนาดเล็ก มีการก่อแท่นฐานตกแต่งด้วยลายปูนปั้นประดับ เรียกว่า เสมานั่งแท่น เมื่อพิจารณาจากพาไลและเสมานั่งถือ เป็นเอกลักษณ์โบสถ์สมัยตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นต้นมา วิหารฝีมือช่างในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นอาคารทรงไทย หลังคาสองชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา หัวนาค หลังคามุงด้วยกระเบื้องมอญ หน้าบันแกะสลักลายนกเปลวกอปรด้วยภาพราหูอมจันทร์ ลงรักปิดทองประดับกระจก มีรวงผึ้ง และนาคห้อย ซุ้มประตู และซุ้มหน้าต่างเป็นปูนปั้นลายดอกไม้และใบไม้ ประดิษฐาน หลวงพ่อเพชร เป็นพระประธาน หลวงพ่อสุโขทัย พระพุทธรูปสำริด ปางมารวิชัย วิหารมีกำแพงแก้วและซุ้มประตูกำแพงทั้งสี่ทิศ พระปรางค์ ฐาน 2 ชั้น[2] ฐานชั้นล่างกลมประดับด้วยลูกมะหวด ฐานชั้นที่ 2 แบบ 8 เหลี่ยม หอระฆังก่ออิฐถือปูนสองชั้น ศิลปะแบบซุ้มกอทิก หลังคาก่อเป็นพระเจดีย์ทรงกลม ประดับด้วยชามสี ศาลาการเปรียญมีธรรมาสน์เทศน์ ลักษณะเป็นรูปทรงบุษบก ไม้แกะสลักลงรักปิดทอง ประดับกระจกสี ซึ่งได้รับพระราชทานในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 จิตรกรรมฝาผนังจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถ บ้างสันนิษฐานว่าน่าจะเขียนขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลายและมีการซ่อมแซมงานในสมัยรัชกาลที่ 1 ถึง 3 งานซ่อมแซมที่สามารถระบุได้ว่าซ่อมแซมในสมัยรัชกาลที่ 3 เช่นภาพทหารชาวเปอร์เซีย ภาพฝรั่งรุ่นเก่า[3] ภาพจิตรกรรมฝาผนังในอุโบสถ เขียนไว้เต็มฝาผนังทั้ง 4 ด้าน แต่ภาพบางส่วนเสียหายจากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2485 โดยเฉพาะบริเวณระหว่างช่องประตูหน้าต่างที่น้ำท่วมถึง กรมศิลปากรเข้ามาดำเนินการอนุรักษ์เมื่อต้นทศวรรษ 2550 ภาพฝาผนังส่วนเหนือช่องประตูหน้าต่างที่อยู่ด้านข้างพระประธานเขียนลายดอกมณฑารพ ซึ่งเป็นดอกไม้สวรรค์ที่ล่วงลงมาตอนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ผนังด้านหลังพระประธานเหนือช่องประตูเขียนเป็นภาพไตรภูมิตามขนบสมัยอยุธยา มีภาพพุทธประวัติแบ่งเป็น 3 เรื่อง ได้แก่ การแสดงธรรมเทศนาโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ การถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ และการแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ระหว่างช่องประตูหน้าต่างเขียนเรื่องพุทธประวัติจากคัมภีร์ปฐมสมโภช เช่น ภาพตอนพระอินทร์อาราธนาพระโพธิสัตว์อุบัติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ภาพพระพุทธมารดาประสูติเจ้าชายสิทธัตถะ ภาพพระพุทธบิดาประกอบพิธีแรกนาขวัญและเจ้าชายสิทธัตถะได้ปฐมฌาน ภาพอสิตดาบสทำนายเจ้าชายสิทธัตถะ ภาพเสด็จออกมหาภิเนษกรม[4] อ้างอิง
|