สุกรี เจริญสุข
รองศาสตราจารย์ ดร. สุกรี เจริญสุข หรือ ดร.แซ็ก (เกิด 29 ตุลาคม พ.ศ. 2495) เป็นอาจารย์ชาวไทย ผู้ก่อตั้ง อดีตผู้อำนวยการและคณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์[1] ในคณะกรรมการบริหารหอภาพยนตร์ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งวงดนตรีคลาสสิกเยาวชน ดร.แซ็ก เชมเบอร์ ออร์เคสตรา ประวัติรองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุข เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ที่อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช บิดามีอาชีพครู และเป็นนักร้องเพลงบอก ดนตรีพื้นบ้านของภาคใต้ จึงมีความคุ้นเคยกับดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ท่านได้เข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศรีธรรมราชศึกษา ในอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และเริ่มเล่นดนตรีกับวงโยธวาทิตของโรงเรียนจนได้เป็นหัวหน้าวง จากนั้นศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และต่อมาได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีด้านการศึกษา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยทักษิณ) จบการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2518 รับราชการเป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยครูจันทรเกษม และรับงานเสริมโดยการเล่นดนตรีตามร้านอาหารย่านพัฒนพงศ์และพัทยา ชื่นชอบการเล่นแซกโซโฟนเป็นพิเศษ ในปี 2521 รองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุขเดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาต่อปริญญาโทและเอก ที่มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์นโคโลราโด โคโลราโด จบปริญญาเอกสาขาการเล่นและสอนแซกโซโฟน เมื่อปี 2528 และได้บรรจุเป็นอาจารย์ของวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล การทำงานรองศาสตราจารย์ ดร.สุกรี เจริญสุขเคยทำนิตยสารเกี่ยวกับดนตรี ชื่อ ถนนดนตรี เคยจัด รายการดนตรีคลาสสิก ทาง สถานีวิทยุจุฬาฯ F.M.101.5 MHz เปิดร้านซ่อมเครื่องดนตรี และ โรงเรียนสอนดนตรี ชื่อ Dr. Sax ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนสอนดนตรีเอื้อมอารีย์ ในปี 2557 ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งศาสตราจารย์ นายแพทย์ รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รศ.ดร.สุกรี ได้แถลงข่าวเรียกร้องให้ ศ.นพ.รัชตะ ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีหรือรัฐมนตรีอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยเขากล่าวว่า
และได้ประท้วงโดยการนำปี๊บมาคลุมศีรษะ รอบปี๊บ 3 ด้านมีข้อความเรียกร้องให้ ศ.นพ.รัชตะ ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี ดังนี้ “ขอโทษด้วยรับไม่ได้ต้องใช้ปี๊บคลุมหัวไว้กลัวถูกปี๊บคลุมหัว จะเตะปี๊บ ตีปี๊บ ไม่โดนตัว ปี๊บคลุมหัวน่าอับอายไร้สำนึก”, “ฤๅบ้านเมืองนี้หมดสิ้นความดี สามัญสำนึกบ่มีหมดสิ้น จิ้งจกกิ้งก่ามีประจบเกลื่อน ผู้กล้าหดหัวเหี้ยนในกระดอง” และ “อายจนหน้าชา ซื้อปี๊บมาคลุมหัว อายเขาไปทั่ว เอาปี๊บคลุมหัวไม่ให้หน้าชา” นอกจากนั้น ยังมีการแจกโปสการ์ด ภาพนายสุกรี เอาปี๊บคลุมหัว ซึ่งมีข้อความ “ความสูงส่งของของอาชีพครูและหมอ คือ สามัญสำนึก หากครูและหมอไม่มีสามัญสำนึกประเทศชาติก็หายนะ”[2] เครื่องราชอิสริยาภรณ์
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |