Share to:

 

อัลบัส ดัมเบิลดอร์

ตัวละครในหนังสือชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์
อัลบัส ดัมเบิลดอร์
ไมเคิล แกมบอน แสดงเป็นดัมเบิลดอร์ใน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์
อัลบัส เพอร์ซิวาล วูลฟริก ไบรอัน ดัมเบิลดอร์

เพศ ชาย
สีผม เงิน (เคยเป็นสีน้ำตาลแดง)
สีนัยน์ตา ประกายฟ้า มองแทงทะลุ
บ้าน กริฟฟินดอร์
เชื้อสาย ไม่ระบุ
ภักดีต่อฝ่าย ภาคีนกฟีนิกซ์, ฮอกวอตส์
ผู้แสดงในภาพยนตร์ ริชาร์ด แฮร์ริส (ภาค 1, 2)
ไมเคิล แกมบอน (ภาค 3–7.2)
จู๊ด ลอว์ (สัตว์มหัศจรรย์)
โทบี เร็กโบ (ภาค 7, สัตว์มหัศจรรย์)
ปรากฏตัวครั้งแรกใน แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์

]]

ศาสตราจารย์ อัลบัส เพอร์ซิวาล วูลฟริก ไบรอัน ดัมเบิลดอร์ (อังกฤษ: Albus Percival Wulfric Brian Dumbledore) เป็นตัวละครในเรื่องแต่งชุดแฮร์รี่ พอตเตอร์ ของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง มีบทบาทเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ในเนื้อหาเกือบทั้งหมดของเรื่อง ต่อมามีการเปิดเผยในเนื้อเรื่องว่าดัมเบิลดอร์เป็นผู้ก่อตั้งภาคีนกฟีนิกซ์ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อต่อสู้กับตัวร้ายของเรื่องคือลอร์ดโวลเดอมอร์

มีการกล่าวว่าอัลเฟรด ดันน์ (Alfred Dunn) อดีตอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนเซนต์ไมเคิล (St Michael's Primary School) ที่โรว์ลิ่งเคยเรียนอยู่ เป็นแรงบันดาลใจในการให้กำเนิดตัวละครนี้[1][2]

ในภาพยนตร์สองภาคแรกนั้นผู้ที่รับบทเป็นดัมเบิลดอร์คือ ริชาร์ด แฮร์ริส ซึ่งต่อมาเสียชีวิต ดังนั้นเซอร์ไมเคิล แกมบอนจึงได้รับบทดัมเบิลดอร์ในภาคต่อ ๆ มา

ประวัติ

ชีวิตวัยเยาว์กับครอบครัว

อัลบัส ดัมเบิลดอร์เกิดใน ค.ศ. 1881 เป็นลูกชายคนโตของเพอร์ซิวาลและเคนดรา ดัมเบิลดอร์ มีน้องชายคือ อาเบอร์ฟอร์ธ ซึ่งมีอายุน้อยกว่าดัมเบิลดอร์สามปี และน้องสาวคือ แอรีอานนา ซึ่งเมื่อเธออายุหกขวบ เธอป่วยหลังจากที่เด็กมักเกิ้ลสามคนทำร้ายเธอหลังจากที่เห็นว่าเธอใช้เวทมนตร์ พ่อของ อัลบัส เพอร์ซิวาล ได้ทำร้ายเด็กสามคนนั้นจึงถูกส่งไปอยู่ในคุกอัซคาบันตลอดชีวิต เพื่อปกป้องแอรีอานนา ไม่ให้ถูกนำไปขังที่โรงพยาบาลเซนต์มังโกตลอดชีวิตเนื่องจากเธอควบคุมเวทมนตร์ไม่ได้ เคนดราจึงพาครอบครัวย้ายไปอยู่ที่ก็อดดริกส์โฮลโล่ โดยปฏิเสธมิตรภาพใด ๆ จากบ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อนบ้านจึงมักจะคิดว่าแอรีอานนาเป็นสควิบ

เมื่ออัลบัสได้เข้าเรียนในฮอกวอตส์ เขาได้รับการคัดสรรให้อยู่บ้านกริฟฟินดอร์ เขาได้เป็นเพื่อนกับเอลฟายอัส โดจที่ป่วยเป็นฝีมังกร ดัมเบิลดอร์เป็นที่รู้จักกันในฐานะนักเรียนผู้เฉลียวฉลาดที่สุดที่ฮอกวอตส์เคยมีมา เขาชนะรางวัลสำคัญทุกรางวัลที่ฮอกวอตส์ตั้งไว้ ต่อมาเขาก็ได้เป็นประธานนักเรียน

สามปีต่อมา อาเบอร์ฟอร์ธมาเข้าโรงเรียน เขาไม่เหมือนดัมเบิลดอร์และไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ ส่วนอัลบัสเมื่อเขาสอบ ส.พ.บ.ส. กริเซลด้า มาร์ชแบงส์ กรรมการคุมสอบเคยกล่าวว่า "เขาใช้ไม้กายสิทธิ์ทำอะไรแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย" ดัมเบิลดอร์เรียนจบเมื่ออายุ 18 ปี เขาวางแผนจะเดินทางรอบโลกกับโดจ แต่ก่อนวันเดินทางวันเดียว เคนดราตายด้วยอุบัติเหตุเนื่องจากแอรีอานนาควบคุมพลังตนเองไม่ได้

ดัมเบิลดอร์กับกรินเดลวัลด์

เนื่องจากพ่อแม่ของดัมเบิลดอร์เสียชีวิตแล้ว ดัมเบิลดอร์ต้องกลายเป็นหัวหน้าครอบครัว ทองก็มีเหลือน้อยเต็มที เขาต้องอยู่บ้านกับแอรีอานนาในขณะที่อาเบอร์ฟอร์ธยังเรียนอยู่ หลังจากนั้นไม่นาน เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์มาที่ก็อดดริก โฮลโลว์เพื่อมาอยู่กับ บาธิลดา แบ็กช็อต คุณยายน้อยของเขา เมื่อดัมเบิลดอร์ได้พบกรินเดลวัลด์ก็รู้สึกเหมือนเป็นรักแรกพบทั้งสองคนร่วมมือกันวางแผนจะปกครองโลกเวทมนตร์ "เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่" โดยใช้วัตถุในตำนาน "เครื่องรางยมทูต"

พวกเขาเชื่อว่าควรจะเปิดเผยความลับโลกเวทมนตร์ต่อมักเกิ้ลและสถาปนาการปกครองของพ่อมดเหนือพวกมักเกิ้ล หากมีคนต้องเสียสละชีวิตก็ถือว่า "เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่" ความเสียหายใด ๆ ก็จะได้รับการชดเชยเป็นร้อยเท่าด้วยผลประโยชน์ของเหล่าผู้วิเศษ แต่อย่างไรเสีย อาเบอร์ฟอร์ธขัดแย้งกับกรินเดลวัลด์จนเกิดการต่อสู้กันโดยมีอัลบัสร่วมด้วย บทสรุปของการต่อสู้จบลงด้วยการตายของแอรีอานนาซึ่งโดนลูกหลง จากนั้นมาทั้งชีวิต ดัมเบิลดอร์จมอยู่กับความรู้สึกผิด โดยไม่รู้แต่ก็คิดว่าคาถาของเขาหรือเปล่าที่ทำให้น้องสาวต้องตาย

กรินเดลวัลด์กลับไปบ้านของบาธิลดา แล้วหนีไปพร้อมกับแผนยึดอำนาจ ระหว่างนั้นในงานศพของแอรีอานนา อาเบอร์ฟอร์ธโทษว่าดัมเบิลดอร์เป็นต้นเหตุที่ทำให้แอรีอานาตายแล้วต่อยจมูกเขาหัก ต่อมาดัมเบิลดอร์สำนึกผิดต่อความผิดพลาดของเขาที่ได้ทำในช่วงวัยหนุ่ม ทำให้เขาไม่อยากมีอำนาจและทำให้เขาไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ แม้ว่าจะได้รับการเสนอชื่อหลายครั้งหลายหน แต่ดัมเบิลดอร์กลับไปที่ฮอกวอตส์ในฐานะอาจารย์สอนวิชาแปลงร่าง และยังคงสอนนักเรียนเรื่อยมา

ใน ค.ศ. 1945 ดัมเบิลดอร์ได้ต่อสู้และพิชิตพ่อมดฝ่ายมืดกรินเดลวัลด์ซึ่งเป็นเจ้าของไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ลงได้ ทำให้ดัมเบิลดอร์เป็นนายของไม้เอลเดอร์ซึ่งอยู่กับเขาจนเสียชีวิต เขาคิดว่าในเครื่องรางยมทูตสามอย่าง มีแต่ไม้เอลเดอร์ที่เหมาะสมที่จะใช้

ดัมเบิลดอร์กับการเถลิงอำนาจของโวลเดอมอร์

ภารกิจอย่างที่ดัมเบิลดอร์เคยได้รับมอบหมายในฐานะอาจารย์ของฮอกวอตส์คือตามหาเด็กหนุ่มชื่อ ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ลให้มาเรียนที่ฮอกวอตส์ ในขณะที่ดัมเบิลดอร์รู้สึกประทับใจกับพรสวรรค์ของริดเดิ้ล เขาก็รู้สึกหนักใจที่ริดเดิ้ลชอบทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดถ้าเขาต้องการทำให้ดัมเบิลดอร์ไม่เชื่อใจเขา หลายปีต่อมา ริดเดิ้ลขอรับตำแหน่งเป็นอาจารย์ในฮอกวอตส์แต่ดัมเบิลดอร์จูงใจให้อาจารย์ใหญ่ อาร์มันโด ดิพพิต ปฏิเสธคำขอของริดเดิ้ล และเมื่อดัมเบิลดอร์ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ เขาก็ปฏิเสธคำขอเดิมของริดเดิ้ลอีกหนในหลายปีต่อมา ในเวลานี้ริดเดิ้ลประกาศตนเป็นศัตรูกับดัมเบิลดอร์และใช้ชื่อแทนตัวที่ทำให้คนทั้งโลกผู้วิเศษเกรงกลัวเกินกว่าจะกล่าว คือชื่อ ลอร์ดโวลเดอมอร์

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ดัมเบิลดอร์จึงก่อตั้งภาคีนกฟีนิกซ์ เพื่อต่อต้านโวลเดอมอร์ซึ่งมีกองกำลังผู้เสพความตายและผู้ภักดีอีกจำนวนมาก ภาคีสูญเสียสมาชิกไปจำนวนมาก รวมถึงการตายของเจมส์และลิลี่ พอตเตอร์ด้วย ก่อนพวกพอตเตอร์จะตาย ดัมเบิลดอร์ได้ขอยืมผ้าคลุมล่องหนซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องรางยมทูตของเจมส์มา เมื่อเจมส์ตายไป ดัมเบิลดอร์จึงเก็บผ้าไว้และส่งต่อให้แฮร์รี่ พอตเตอร์ลูกชายของเจมส์ได้ครอบครองต่อจากผู้เป็นพ่อของเขา

เมื่อพ่อแม่แฮร์รี่ถูกสังหารและโวลเดอมอร์หมดอำนาจ ดัมเบิลดอร์จึงพาแฮร์รี่ไปอยู่บ้านของเวอร์นอนและเพ็ตทูเนีย เดอร์สลีย์ซึ่งเป็นลุงกับป้าของแฮร์รี่ เขารู้ว่าแฮร์รี่จะได้รับการคุ้มครองจากเวทมนตร์โบราณที่เกิดจากการที่ลิลี่สละชีวิตเพื่อปกป้องลูกชาย และดัมเบิลดอร์ได้ร่ายคาถาคุ้มกันทำให้สายสัมพันธ์ในเลือดของแฮร์รี่คือเพ็ตทูเนียรับเขาไว้ในบ้านทำให้สามารถคุ้มครองแฮร์รี่ได้ ด้วยเวทมนตร์นี้ผูกมัดไว้ด้วยความรักทำให้เป็นที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับโวลเดอมอร์

การปรากฏตัวในหนังสือ

สามเล่มแรก

ดัมเบิลดอร์ปรากฏตัวครั้งแรกในแฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ดัมเบิลดอร์มาถึงบ้านเลขที่สี่ ซอยพรีเว็ต เพื่อนำทารกน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ไปวางไว้บันไดหน้าบ้านเดอร์สลีย์ พร้อมกับทิ้งจดหมายที่อธิบายเรื่องราวทุกอย่างพร้อมกับพูดทิ้งท้ายไว้ว่า "โชคดี แฮร์รี่ พอตเตอร์"

เมื่อแฮร์รี่มาเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์ได้บอกความลับของกระจกเงาแห่งเอริเซดให้กับแฮร์รี่ เขาบอกว่าเขามองเห็นตัวเองถือถุงเท้าขนสัตว์หนา ๆ คู่หนึ่ง แต่จริง ๆ แล้วเขาก็เห็นเหมือนแฮร์รี่คือได้เห็นครอบครัวที่ยังอยู่และผูกพันกัน เขาคิดว่าควรใช้กระจกในการซ่อนศิลาอาถรรพ์ โดยที่คนที่จะนำมันออกมาได้คือ "คนที่ต้องการหาศิลา...แต่ไม่ใช้มัน" จึงควรค่าแก่การครอบครอง ดัมเบิลดอร์ได้รับจดหมายลวงจากศาสตราจารย์ควิรินัส ควีเรลล์ให้ไปที่กระทรวงเวทมนตร์ ในขณะที่แฮร์รี่ รอนและเฮอร์ไมโอนี่ ลงไปเพื่อปกป้องศิลาอาถรรพ์ ดัมเบิลดอร์รู้ในระหว่างทางว่าเขาต้องกลับไปช่วยแฮร์รี่จากควีเรลล์และโวลเดอมอร์ เขาสนทนากับแฮร์รี่หลังจากเหตุการณ์นี้และบอกเขาว่าแฮร์รี่ยังเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าทำไมโวลเดอมอร์ถึงพยายามจะฆ่าแฮร์รี่

ในเล่มสอง ดัมเบิลดอร์สงสัยว่าทอม ริดเดิ้ลมีส่วนในการทำร้ายเด็กนักเรียนลูกมักเกิ้ล อย่างที่เขาถามว่าใครเป็นตัวการ "ไม่ใช่ใคร แต่ทำอย่างไร" แฮร์รี่ได้พบดัมเบิลดอร์ในความทรงจำที่อยู่ในสมุดบันทึกของริดเดิ้ลและถามทอม ริดเดิ้ลเกี่ยวกับบางอย่างที่เขารู้ในเรื่องการทำร้ายนักเรียน ในครึ่งหลังของเล่มนี้ลูเซียส มัลฟอยข่มขู่ในคณะกรรมการโรงเรียนสิบเอ็ดคนให้ออกคำสั่งพักงานดัมเบิลดอร์ในฐานะอาจารย์ใหญ่เพราะห้องแห่งความลับถูกเปิดออกแต่ดัมเบิลดอร์หยุดยั้งการทำร้ายลูกมักเกิ้ลไม่ได้ แต่ดัมเบิลดอร์ได้คืนตำแหน่งเมื่อคณะกรรมการรู้ว่าจินนี่ วีสลีย์ถูกพาตัวลงไปในห้องแห่งความลับ และลูเซียสถูกจับได้ว่าใช้กำลังข่มขู่คณะกรรมการให้พักงานดัมเบิลดอร์

ในเล่มสาม ดัมเบิลดอร์โดนขอร้องแกมบังคับให้รับผู้คุมวิญญาณมาเฝ้าประตูทางเข้าฮอกวอตส์เพื่อคุ้มกันนักเรียนจากซิเรียส แบล็ก ฆาตกรที่แหกคุกอัซคาบันออกมาได้ เมื่อแบล็กลอบเข้ามาในฮอกวอตส์ได้ดัมเบิลดอร์จึงออกคำสังให้ปิดทางเข้าออกโรงเรียนทุกทาง เมื่อแฮร์รี่ตกจากไม้กวาดขณะแข่งควิดดิชเพราะผู้คุมวิญญาณ ดัมเบิลดอร์โกรธมากและใช้ไม้กายสิทธิ์ช่วยรับแฮร์รี่ไว้ ต่อมาดัมเบิลดอร์บอกให้เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ใช้เครื่องย้อนเวลากลับไปสามชั่วโมงเพื่อช่วยฮิปโปกริฟฟ์บัคบีคและซิเรียสจากการถูกประหารชีวิต

เล่มสี่และเล่มห้า

ในเล่มสี่ ดัมเบิลดอร์ได้จัดการแข่งขันประลองเวทไตรภาคีขึ้น แล้วเขาก็เป็นกรรมการตัดสินตลอดการแข่งขัน เมื่อชื่อของแฮร์รี่ออกมาจากถ้วยอัคนี ดัมเบิลดอร์ไม่ได้โกรธแต่ยังคงสงบถามแฮร์รี่ว่าเขาใส่ชื่อลงไปหรือเปล่า เมื่อแฮร์รี่ตอบปฏิเสธดัมเบิลดอร์ก็เชื่อเขา (แต่ในภาพยนตร์ดัมเบิลดอร์โกรธมากตอนซักถามแฮร์รี่)

ความกลัวของดัมเบิลดอร์เป็นจริงเมื่อแฮร์รี่กลับมาหลังจากเผชิญหน้ากับโวลเดอมอร์พร้อมกับแบกร่างไร้ชีวิตของเซดริก ดิกกอรี่มาด้วย และเมื่อศาสตราจารย์อลาสเตอร์ มู้ดดี้ (บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ปลอมตัวมาโดยน้ำยาสรรพรส) พาแฮร์รี่ไปจากดัมเบิลดอร์ไปที่ห้องทำงานของเขาในปราสาท ดัมเบิลดอร์รีบตรงมาที่ห้องทำงานของมู้ดดี้พร้อมกับมิเนอร์ว่า มักกอนนากัลและเซเวอรัส สเนปเพื่อช่วยแฮร์รี่และทำการสอบสวนเคร้าช์ จูเนียร์ หลังจากนั้นก็ฟังแฮร์รี่เล่าถึงการกลับมาของโวลเดอมอร์ แฮร์รี่นอนอยู่ในห้องพยาบาลเมื่อรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์คอร์นีเลียส ฟัดจ์เข้ามาเถียงกับดัมเบิลดอร์กับมักกอนนากัล ผลคือฟัดจ์ซึ่งดื้อดึงหัวชนฝาไม่ยอมเชื่อว่าโวลเดอมอร์กลับมาแล้วแยกทางเดินกับดัมเบิลดอร์


ในเล่มห้า ดัมเบิลดอร์เป็นผู้รักษาความลับของภาคีนกฟีนิกซ์ และเป็นพยานให้แฮร์รี่ ในวันที่เขาไปฟังการพิจารณาคดี เรื่องที่เขาใช้เวทมนตร์ต่อหน้าพวกมักเกิ้ล ดัมเบิลดอร์เป็นผู้ช่วยแฮร์รี่ไว้จากการถูก ลอร์ดโวลเดอมอร์ฆ่าที่กระทรวงเวทมนตร์

เล่มหก

ในเล่มหก แฮร์รี่ก็ได้รู้อดีตของโวลเดอมอร์จากดัมเบิลดอร์ และเดินทางไปกับดัมเบิลดอร์เพื่อทำลายฮอร์ครักซ์ ประดิษฐกรรมเวทมนตร์ที่เป็นการแบ่งวิญญาณของตนเองไว้ในวัตถุต่าง หรือสิ่งมีชีวิตได้ โดยการฆ่าคน 1 คน เพื่อทำฮอร์ครักซ์ 1 ชิ้น แฮร์รี่ได้เดินทางไปกับดัมเบิลดอร์เพื่อทำลายฮอร์ครักซ์ของโวลเดอมอร์ที่ซ่อนอยู่ในถ้ำ ดัมเบิลดอร์ได้ดื่มน้ำยาอันตรายเพื่อให้ได้ฮอร์ครักซ์ ทำให้ตนเองอ่อนแอลง ขณะเดินทางกลับ ดัมเบิลดอร์และแฮร์รี่ได้รู้จากมาดามโรสเมอร์ทา เจ้าของร้านไม้กวาดสามอันในฮอกส์มี้ดว่ามีตรามาร สัญลักษณ์ของโวลเดอมอร์ฉายอยู่เหนือปราสาทฮอกวอตส์ ดัมเบิลดอร์จึงรีบไปที่ฮอกวอตส์และพบว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับเดรโก มัลฟอยที่ขู่ว่าจะฆ่าดัมเบิลดอร์ แต่ดัมเบิลดอร์เกลี้ยกล่อมให้เลิก มัลฟอยกำลังจะทำตามเมื่อเซเวอร์รัส สเนป อาจารย์วิชาปรุงยาพุ่งเข้ามา และร่ายคาถาสังหารดัมเบิลดอร์ต่อหน้าแฮร์รี่ ที่ถูกดัมเบิลดอร์สะกดนิ่งและคลุมผ้าคลุมล่องหนอยู่ก่อนจะหนีไป

เล่มสุดท้าย

หลังจากที่ดัมเบิลดอร์จากไป ความลับทั้งหมดของเขาตั้งแต่วัยเยาว์จนวาระสุดท้ายก็ถูกเปิดเผยโดยริต้า สกีตเตอร์ ผู้กระหายอยากเขียนหนังสือชีวประวัติของดัมเบิลดอร์มาก เธอเค้นความลับมาจากบาธิลด้า แบ็กช็อต เพื่อนบ้านที่ยังมีชีวิตอยู่ของดัมเบิลดอร์โดยใช้คาถาล้วงความลับและสัจจะเซรุ่ม เมื่อแฮร์รี่ได้รู้ความจริง เขาเกือบหมดศรัทธาในตัวของดัมเบิลดอร์ แต่เฮอร์ไมโอนี่ยั้งเขาไว้ และสานต่อภารกิจลับต่อไป

เมื่อแฮร์รี่ได้ดูความทรงจำของสเนป จึงได้รู้ว่า สเนปไม่ใช่อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ เขาทำงานให้ดัมเบิลดอร์ อยู่ข้างฝ่ายภาคีมาโดยตลอด ตั้งแต่สเนปรู้ว่า โวลเดอมอร์ตามล่าตัวลิลี่ สเนปก็ไม่เคยภักดีต่อเขาเลย สเนปไม่ได้ฆ่าดัมเบิลดอร์ ตามคำสั่งโวลเดอมอร์แต่ฆ่าตามคำสั่งดัมเบิลดอร์ แม้สเนปไม่ฆ่าดัมเบิลดอร์ตัวดัมเบิลดอร์ก็ต้องตายด้วยเวทมนตร์ในแหวนที่เป็นฮอร์ครักซ์ ที่เขาทำลายมันด้วยดาบของกริฟฟินดอร์

ในขณะที่แฮร์รี่ติดอยู่ในช่องว่างระหว่างความตายกับการกลับไปมีชีวิต เขาได้พบกับดัมเบิลดอร์ในความฝัน แฮร์รี่ถามความจริงจากเขา ตั้งแต่เรื่องเหตุที่เขา (แฮร์รี่) ยังไม่ตาย จนถึงเรื่องของเครื่องรางยมทูต ในที่สุดเขาก็เข้าใจดัมเบิลดอร์ และกลับไปมีชีวิตอีกครั้ง เพื่อทำภารกิจให้เสร็จสิ้น เมื่อโวลเดอมอร์สิ้นชีวิต แฮร์รี่ได้พูดคุยกับภาพเหมือนของดัมเบิลดอร์ ว่าเขาจะนำไม้เอลเดอร์กลับไปที่หลุมศพ คืนมันให้แก่เจ้าของเดิม

สมบัติส่วนตัว

ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ชิงมาได้จากการสู้รบกับ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ตอนหลังถูกโวลเดอมอร์นำไปใช้แต่แฮร์รี่ก็สามารถยึดกลับมาและนำไปคืนเจ้าของได้สำเร็จ (แต่ในภาพยนตร์ปรากฏให้เห็นว่า แฮร์รี่หักไม้เอลเดอร์เป็นสองส่วนแล้วโยนไม้เอลเดอร์ลงใต้สะพานของฮอกวอตส์)

ฟอกส์ นกฟีนิกซ์สีแดงสลับเหลืองทอง สัตว์เลี้ยงของดัมเบิ้ลดอร์ เป็นผู้นำหมวกคัดสรรไปให้แฮร์รี่ตอน แฮร์รี่พอตเตอร์ กับ ห้องแห่งความลับ เมื่อดัมเบิ้ลดอร์เสียชีวิตลง ฟอกส์ก็หายตัวไป

อ่างเพนซิฟ อ่างที่สามารถทำให้เปิดดูความทรงจำได้ โดยพ่อมดจะดึงเส้นความทรงจำจากหัว ลักษณะเป็นเส้นสีเงิน แล้วใส่ลงไปในอ่างเพนซิฟ

อ้างอิง

  1. Albus Dumbledore. Winter Bourne. เรียกข้อมูลเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2550.
  2. Archaeology เก็บถาวร 2008-12-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Southlos.gov.uk. เรียกข้อมูลเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2550.
Kembali kehalaman sebelumnya