INS Available structures PDB Ortholog search: PDBe RCSB List of PDB id codes 1A7F , 1AI0 , 1AIY , 1B9E , 1BEN , 1EV3 , 1EV6 , 1EVR , 1FU2 , 1FUB , 1G7A , 1G7B , 1GUJ , 1HIQ , 1HIS , 1HIT , 1HLS , 1HTV , 1HUI , 1IOG , 1IOH , 1J73 , 1JCA , 1JCO , 1K3M , 1KMF , 1LKQ , 1LPH , 1MHI , 1MHJ , 1MSO , 1OS3 , 1OS4 , 1Q4V , 1QIY , 1QIZ , 1QJ0 , 1RWE , 1SF1 , 1T1K , 1T1P , 1T1Q , 1TRZ , 1TYL , 1TYM , 1UZ9 , 1VKT , 1W8P , 1XDA , 1XGL , 1XW7 , 1ZEG , 1ZEH , 1ZNJ , 2AIY , 2C8Q , 2C8R , 2CEU , 2H67 , 2HH4 , 2HHO , 2HIU , 2JMN , 2JUM , 2JUU , 2JUV , 2JV1 , 2JZQ , 2K91 , 2K9R , 2KJJ , 2KJU , 2KQQ , 2KXK , 2L1Y , 2L1Z , 2LGB , 2M1D , 2M1E , 2M2M , 2M2N , 2M2O , 2M2P , 2OLY , 2OLZ , 2OM0 , 2OM1 , 2OMG , 2OMH , 2OMI , 2QIU , 2R34 , 2R35 , 2R36 , 2RN5 , 2VJZ , 2VK0 , 2W44 , 2WBY , 2WC0 , 2WRU , 2WRV , 2WRW , 2WRX , 2WS0 , 2WS1 , 2WS4 , 2WS6 , 2WS7 , 3AIY , 3BXQ , 3E7Y , 3E7Z , 3EXX , 3FQ9 , 3I3Z , 3I40 , 3ILG , 3INC , 3IR0 , 3Q6E , 3ROV , 3TT8 , 3U4N , 3UTQ , 3UTS , 3UTT , 3V19 , 3V1G , 3W11 , 3W12 , 3W13 , 3W7Y , 3W7Z , 3W80 , 3ZI3 , 3ZQR , 3ZS2 , 3ZU1 , 4AIY , 4AJX , 4AJZ , 4AK0 , 4AKJ , 4EFX , 4EWW , 4EWX , 4EWZ , 4EX0 , 4EX1 , 4EXX , 4EY1 , 4EY9 , 4EYD , 4EYN , 4EYP , 4F0N , 4F0O , 4F1A , 4F1B , 4F1C , 4F1D , 4F1F , 4F1G , 4F4T , 4F4V , 4F51 , 4F8F , 4FG3 , 4FKA , 4GBC , 4GBI , 4GBK , 4GBL , 4GBN , 4IUZ , 5AIY , 2LWZ , 3JSD , 3KQ6 , 3P2X , 3P33 , 1JK8 , 2MLI , 2MPG , 2MPI , 2MVC , 2MVD , 4CXL , 4CXN , 4CY7 , 4NIB , 4OGA , 4P65 , 4Q5Z , 4RXW , 4UNE , 4UNG , 4UNH , 4XC4 , 4WDI , 4Z76 , 4Z77 , 4Z78 , 2N2W , 5CO6 , 5ENA , 4Y19 , 5BQQ , 5BOQ , 2N2V , 5CNY , 5CO9 , 5EN9 , 4Y1A , 2N2X , 5BPO , 5CO2 , 5BTS , 5HYJ , 5C0D ,%%s1EFE , 1SJT , 1SJU , 2KQP ,%%s1T0C ,%%s2G54 , 2G56 , 3HYD , 2OMQ
Identifiers Aliases INS , IDDM, IDDM1, IDDM2, ILPR, IRDN, MODY10, insulin, PNDM4External IDs OMIM : 176730 MGI : 96573 HomoloGene : 173 GeneCards : INS Wikidata
ผลึกของอินซูลิน
อินซูลิน (อังกฤษ : Insulin ) คือฮอร์โมน ชนิดอนาโบลิกโพลีเพบไทด์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นสารตัวกระทำในคาร์โบไฮเดรทชนิดโฮมีโอสตาซิส มีผลต่อการเผาผลาญไขมันเปลี่ยนการทำงานของตับให้ทำหน้าที่เก็บหรือปลดปล่อยกลูโคส และทำให้เกิดการทำงานของลิพิด (ไขมัน) ในเลือด และในเนื้อเยื่อ อื่น เช่นไขมัน และกล้ามเนื้อ ปริมาณของอินซูลินที่เวียนอยู่ในร่างกายมีผลกระทบสูงมากในวงกว้างในทุกส่วนของร่างกาย
คำว่าอินซูลินมาจากภาษาละติน insula หรือ "island" - "เกาะ" เนื่องจากการถูกสร้างขึ้นบน "ไอส์เล็ตส์ออฟแลงเกอร์ฮานส์ " ซึ่งเป็นกลุ่มเซลล์ ในตับอ่อน
ในวงการแพทย์ อินซูลินถูกใช้ในการรักษาโรคเบาหวาน บางชนิด คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานประเภท 1 ต้องอาศัยอินซูลินจากนอกร่างกาย (เกือบทั้งหมดใช้วิธีฉีดเข้าใต้ผิวหนัง) เพื่อช่วยให้รอดชีวีตจากการขาดฮอร์โมน คนไข้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 จะต่อต้านอินซูลิน หรือ ผลิตอินซูลินน้อย หรือทั้งสองอย่าง ผู้ป่วยเบาหวานประเภท 2 บางรายต้องการอินซูลินเฉพาะเมื่อยาอื่นที่ใช้รักษาอยู่ไม่เพียงพอในการควบคุมระดับกลูโคสในเลือด
อินซูลิน ประกอบด้วยกรดอะมิโน 51 ชนิดรวมกันอยู่ และมีน้ำหนักโมเลกุล 5808 Da
โครงสร้างของอินซูลิน ผันแปรเล็กน้อยตามชนิดของสัตว์ อินซูลินที่มีแหล่งมาจากสัตว์จะแตกต่างกันในเชิงขีดความสามารถในการควบคุมพลังการทำงาน (เช่น การเผาผลาญคาร์โบไฮเดรท) ในมนุษย์ อินซูลินจากสุกร มีความคล้ายคลึงกับอินซูลินของมนุษย์มากที่สุด
การค้นพบและลักษณะ
โครงสร้างของอินซูลิน
ภาพคอมพิวเตอร์โครงสร้างเฮกซาเมอร์ของอินซูลินซึ่งมีลักษณะสมมาตร 3 ด้านและแสดงการเป็นตัวเกาะยึดของสังกะสี
ในปี พ.ศ. 2412 ขณะที่ พอล แลงเกอฮานส์ นักศึกษาแพทย์ในเบอร์ลิน กำลังส่องกล้องจุลทัศน์ เพื่อศึกษาโครงสร้างของตับอ่อน (ต่อมคล้ายเยลลี หลังกระเพาะอาหาร ) อยู่นั้น ได้สังเกตเห็นกลุ่มเนื้อเยื่อ เกาะกันเป็นหย่อมๆ กระจายไปทั่วทั้งตัวตับอ่อน หน้าที่การทำงานของ "กองน้อยๆ ของเซลล์" ซึ่งได้รู้จักกันในภายหลังว่า "ไอส์เล็ตส์ออฟแลงเกอร์ฮานส์ " นี้ยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าเป็นอะไร แต่เอดวร์ด ลาเกส (นักพยาธิวิทยา ชาวฝรั่งเศส ) ได้เสนอว่าอาจเป็นตัวผลิตและหลั่งสารที่มีบทบาทในการควบคุมการย่อยอาหาร อาชบอลด์ บุตรชายของพอล แลงเกอร์ฮานส์ได้มีส่วนสร้างความเข้าใจถึงบทบาทการควบคุมของสารนี้มากขึ้นในภายหลัง
รางวัลโนเบล
ในปี พ.ศ. 2466 คณะกรรมการพิจารณาการให้รางวัลโนเบล ได้ยอมรับวิธีการสะกัดอินซูลินเชิงปฏิบัติแก่ทีมทำงานที่มหาวิทยาลัยโทรอนโท และมอบรางวัลโนเบลแก่บุคคล 2 คน คือ เฟรเดอริก แบนติง และ จอห์น แมคลอยด์ โดยได้รับรางวัลในสาขาสรีรวิทยา หรือ การแพทย์ ประจำปี พ.ศ. 2466 สำหรับการค้นพบอินซูลิน และได้ขายสิทธิบัตรให้แก่มหาวิทยาลัยโทรอนโทเป็นเงิน 1 ดอลลาร์แคนาดา
โครงสร้างและการผลิต
การปรับเปลี่ยนของอินซูลินในสายการผลิต
ในสัตว์มีกระดูกสันหลัง ด้วยกันจะมีอินซูลินคล้ายกันมาก อินซูลินของโค กระบือ มีกรดอะมิโนต่างจากมนุษย์เพียง 3 ตัว อินซูลินของสุกรมีกรดอมิโนต่างจากมนุษย์เพียงตัวเดียว แม้แต่อินซูลินจากปลาบางชนิด ยังมีความคล้ายคลึงกับของมนุษย์ มากพอจะมีผลกับร่างกายมนุษย์ได้
ปฏิกิริยาบนเซลล์และระดับการเผาผลาญ
เมื่อคุณทานอาหารคาร์โบไฮเดรต ระดับกลูโคสในกระแสเลือดจะเพิ่มขึ้น ตับอ่อนจะปล่อยอินซูลินออกมาเพื่อปรับความสมดุล โดยการผนึกอยู่กับผนังเซลล์ของกลุ่มเซลล์ทั้งหลาย แล้วกระตุ้นการดูดกลูโคสในเซลล์มาใช้งาน ซึ่งปฏิกิริยานี้จะเกิดกับทุก ๆ เนื้อเยื่อในร่างกายยกเว้นที่สมอง ไม่เพียงแต่กลูโคสเท่านั้น อินซูลินยังกระตุ้นให้เซลล์ดูดไขมัน (synthesis of lipid (fat)) ,โปรตีน และไกลโคเจน (ไกลโคเจนคือคาร์โบไฮเดรตที่ถูกเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อและ ตับ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรอง) ด้วย ดังนั้น อินซูลิน จึงถูกยกว่าเป็น ฮอร์โมนอนาบอริก ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ปฏิกิริยาควบคุมในกลูโคสของเลือด
สัญญาณการถ่ายโอนยีน
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำและภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
คนส่วนมากมักจะสับสนระหว่างอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ-สูง ที่จริงแล้วอาการทั้งสองมีอาการและวิธีการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันมาก ดังต่อไปนี้
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำคือการมีน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าระดับปกติ โดยอาการจะมีดังนี้ หน้ามืด ใจสั่น หิว ง่วงซึม ไม่มีแรง เหงื่อออก อุณหภูมิในร่างการลดต่ำ ความจำลดลง อารมณ์หงุดหงิดง่าย สับสน ตาพร่า ปฏิกิริยาตอบสนองน้อยลง พฤติกรรมเปลี่ยน พูดน้อย พูดช้า บางคนอาจมีอาการครึ่งซีก ถ้าเกิดในเวลากลางคืน จะฝันร้าย เหงื่อออกขณะหลับ ปวดศีรษะและมึนงง หากเป็นมากอาจเกิดอาการชัก และหมดสติได้
วิธีการแก้ไข ให้รีบหาน้ำหวานหรือของหวานมารับประทานโดยเร็ว
ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงคือการที่มีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าระดับปกติ อาการคือ กระหายน้ำมาก ปัสสาวะบ่อยมากและผิดปกติ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน อ่อนเพลียง่วงซึมไม่สดชื่น เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด ตาพร่ามัว คลื่นไส้ และอาจถึงขั้นชักกระตุกเฉพาะที่ และหมดสติได้
วิธีการแก้ไข สำหรับเบาหวานประเภทที่ 1 :ออกกำลังกาย ดื่มน้ำมาก ๆ ฉีดอินซูลิน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน สำหรับเบาหวานประเภทที่ 2 :ดื่มน้ำมาก ๆ และรีบไปโรงพยาบาล การออกกำลังกายก็ช่วยได้
โรคและอาการ
อินซูลินในฐานะเป็นยา
หลักการ
ช่องทางในการให้ยา
ขนาดยาและเวลาให้
ประเภท
การใช้ทางทางที่ผิด
ลำดับเวลาความเป็นมา
อ้างอิง
อ่านเพิ่ม
Laws GM, Reaven A (1999). Insulin resistance : the metabolic syndrome X . Totowa, NJ: Humana Press. ISBN 978-0-89603-588-1 .
Leahy JL, Cefalu WT (2002-03-22). Insulin Therapy (1st ed.). New York: Marcel Dekker. ISBN 978-0-8247-0711-8 .
Kumar S, O'Rahilly S (2005-01-14). Insulin Resistance: Insulin Action and Its Disturbances in Disease . Chichester, England: Wiley. ISBN 978-0-470-85008-4 .
Ehrlich A, Schroeder CL (2000-06-16). Medical Terminology for Health Professions (4th ed.). Thomson Delmar Learning. ISBN 978-0-7668-1297-0 .
Draznin B , LeRoith D (September 1994). Molecular Biology of Diabetes: Autoimmunity and Genetics; Insulin Synthesis and Secretion . Totowa, New Jersey: Humana Press. ISBN 978-0-89603-286-6 .
Misbin RI (February 2022). INSULIN - History from an FDA Insider . Washington, DC: Politics and Prose Publishing. ISBN 978-1-62429-391-7 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2022-06-29. สืบค้นเมื่อ 2022-10-03 .
Famous Canadian Physicians: Sir Frederick Banting at Library and Archives Canada
McKeage K, Goa KL (2001). "Insulin glargine: a review of its therapeutic use as a long-acting agent for the management of type 1 and 2 diabetes mellitus". Drugs . 61 (11): 1599–624. doi :10.2165/00003495-200161110-00007 . PMID 11577797 . S2CID 46972328 .
de Leiva A, Brugués E, de Leiva-Pérez A (November 2011). "[The discovery of insulin: continued controversies after ninety years]". Endocrinologia y Nutricion (ภาษาสเปน). 58 (9): 449–56. doi :10.1016/j.endonu.2011.10.001 . PMID 22036099 .
Vecchio I, Tornali C, Bragazzi NL, Martini M (2018). "The Discovery of Insulin: An Important Milestone in the History of Medicine" . Frontiers in Endocrinology . 9 : 613. doi :10.3389/fendo.2018.00613 . PMC 6205949 . PMID 30405529 .
แหล่งข้อมูลอื่น