อูเอซูงิ เค็นชิง
อูเอซูงิ เค็นชิง (ญี่ปุ่น: 上杉 謙信; โรมาจิ: Uesugi Kenshin, 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1530 - 19 เมษายน ค.ศ. 1578) เป็นไดเมียวผู้ปกครองแคว้นเอจิโงะ และไดเมียวผู้ทรงอำนาจในยุคเซ็งโงกุของญี่ปุ่น ได้รับฉายาว่า "มังกรแห่งเอจิโงะ" และเทพแห่งสงคราม "บิชามนเต็ง" (ญี่ปุ่น: 毘沙門天; โรมาจิ: Bishamonten ตรงกับท้าวเวสสุวรรณของทางศาสนาพุทธ) ด้วยความศรัทธาของอูเอซูงิ เค็นชิง ที่มีต่อเทพเจ้าบิชามนเต็ง อูเอซูงิ เค็นชิง เป็นคู่ปรับของไดเมียว ทาเกดะ ชิงเง็ง ผู้มีฉายาว่า "พยัคฆ์แห่งคาอิ" ซึ่งไดเมียวทั้งสองได้ทำศึกสงครามกันหลายครั้งและไม่สามารถเอาชนะกันได้อย่างเด็ดขาด ชีวิตวัยเยาว์อูเอซูงิ เค็นชิง เดิมมีชื่อว่า "นางาโอะ คาเงโตระ" (ญี่ปุ่น: 長尾景虎; โรมาจิ: Nagao Kagetora) เกิดเมื่อค.ศ. 1530 ที่ปราสาทคาซูงายามะ (ญี่ปุ่น: 春日山城; โรมาจิ: Kasugayama-jō) ในเมืองโจเอ็ตสึ จังหวัดนีงาตะในปัจจุบัน เป็นบุตรชายของนางาโอะ ทาเมกาเงะ (ญี่ปุ่น: 長尾為景; โรมาจิ: Nagao Tamekage) ไดเมียวผู้ครองแคว้นเอจิโงะ มารดาคือนางเซงัง-อิง (ญี่ปุ่น: 青岩院; โรมาจิ: Seigan-in) ใน ค.ศ. 1536 เมื่อคาเงโตระอายุเจ็ดปี ทาเมกาเงะผู้เป็นบิดาได้ยกทัพไปปราบกลุ่มกบฎอิกโก-อิกกิ ที่เมืองคางะ ทัพทั้งสองฝ่ายสู้รบกันในยุทธการที่เซ็นดันโนะ (Battle of Sendanno) ผลปรากฏว่าฝ่ายแคว้นเอจิโงะพ่ายแพ้และทาเมกาเงะเสียชีวิตในที่รบ การเสียชีวิตอย่างกระทันหันของไดเมียวทาเมกาเงะ เป็นเหตุให้เกิดศึกการแก่งแย่งแคว้นเอจิโงะระหว่างพี่ชายสองคนของคาเงโตระ ได้แก่ นางาโอะ ฮารูกาเงะ (ญี่ปุ่น: 長尾晴景; โรมาจิ: Nagao Harukage) และนางาโอะ คาเงยาซุ (ญี่ปุ่น: 長尾景康; โรมาจิ: Nagao Kageyasu) โดยฮารูกาเงะซึ่งเป็นพี่ชายคนโตเป็นผู้มีชัย และคาเงยาซุถูกสังหาร ฝ่ายคาเงโตระได้หลบหนีลี้ภัยการเมืองภายในครอบครัวไปอยู่วัด เพื่อศึกษาเล่าเรียน จนกระทั่ง ค.ศ. 1544 ซามูไรข้ารับใช้ของตระกูลคนหนึ่งชื่อว่า อูซามิ ซาดามิตสึ (ญี่ปุ่น: 宇佐美定満; โรมาจิ: Usami Sadamitsu) ได้เข้ามาทาบทามให้คาเงโตระเข้าแย่งแคว้นเอจิโงะมาจากฮารูกาเงะผู้เป็นพี่ชาย เนื่องจากฮารูกาเงะไม่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาซามูไรผู้รับใช้ตระกูลนางาโอะทั้งหลาย คาเงโตระจึงก่อสงครามกับพี่ชายของตนเอง ด้วยการสนับสนุนจากซามูไรผู้จงรักภักดี คาเงโตระสามารถเอาชนะฮารูกาเงะผู้เป็นพี่ชายได้ ฮารูกาเงะจึงฆ่าดัวตายด้วยการเซ็ปปูกุ ใน ค.ศ. 1545 อูเอซูงิ โนริมาซะ (ญี่ปุ่น: 上杉憲政; โรมาจิ: Uesugi Norimasa) ผู้ปกครองแคว้นโคซูเกะ (Kōzuke) หรือจังหวัดกุมมะในปัจจุบัน และผู้ดำรงตำแหน่ง คันโตกังเร (ญี่ปุ่น: 関東管領; โรมาจิ: Kantō Kanrei) หรือผู้แทนโชกุนในญี่ปุ่นภาคตะวันออก ได้ถูกตระกูลตระกูลโฮโจ (Hōjō) นำโดยไดเมียวโฮโจ อูจิยาซุ (ญี่ปุ่น: 北条氏康; โรมาจิ: Hōjō Ujiyasu) เข้ารุกรานแคว้นโคซูเกะและยึดดินแดนมาจากคันโตกังเรอูเอซูงิ โนริมาซะ โนริมาซะได้หลบหนีมาขอความช่วยเหลือจากนางาโอะ คาเงโตระ โดยที่นางาโอะ คาเงโตระ ให้คำมั่นสัญญาว่า จะยกทัพไปยึดดินแดนแคว้นโคซูเกะมาคืนให้แก่อูเอซูงิ โนริมาซะ สงครามกับทาเกดะ ชิงเง็งเมื่อคาเงโตระก้าวขึ้นสู่อำนาจในแคว้นเอจิโงะนั้น ไดเมียวผู้ยิ่งใหญ่ทางใต้ ทาเกดะ ชิงเง็ง จากแคว้นคาอิ กำลังแผ่ขยายอำนาจขึ้นมาทางเหนือในแคว้นชินาโนะ ไดเมียวทั้งหลายแห่งแคว้นชินาโนะได้เดินทางมาร้องขอให้คาเงโตระนำกำลังเข้าช่วยเหลือต่อต้านการรุกรานของตระกูลทาเกดะ นำไปสู่สงครามอันยืดเยื้อยาวนานระหว่างอูเอซูงิ เค็นชิง และทาเกดะ ชิงเง็ง ซึ่งเป็นทั้งการแข่งขันระหว่างตระกูลและการแข่งขันระหว่างบุคคลทั้งสอง ทั้งสองตระกูลสู้รบกันในยุทธการที่คางานางาจิมะ (ญี่ปุ่น: 川中島の戦い; โรมาจิ: Kawanagajima-no-tatakai ใกล้กับเมืองนางาโนะในปัจจุบัน) ทั้งหมดห้าครั้ง ใน ค.ศ. 1554 ค.ศ. 1555 ค.ศ. 1557 ค.ศ. 1561 และค.ศ. 1564 โดยไม่มีผู้แพ้ชนะเด็ดขาด แม้ว่าในการรบครั้งที่สี่ ค.ศ. 1561 อูเอซูงิ เค็นชิง เกือบจะได้รับชัยชนะเหนือทาเกดะ ชิงเง็ง โดยที่ชิงเง็งสูญเสียญาติและทหารเอกคนสำคัญไปในการรบครั้งที่สี่นี้ ภูมิภาคตะวันออกของญี่ปุ่นทั้งตระกูลทาเกดะและตระกูลอูเอซูงิต่างคานอำนาจกัน การสู้รบของไดเมียวทั้งสองกลายเป็นตำนานที่สำคัญของสมัยเซ็งโงกุ ใน ค.ศ. 1559 อูเอซูงิ มาซาโตระ เดินทางไปยังนครเกียวโตเพื่อพบกับโชกุนอาชิกางะ โยชิเตรุ (ญี่ปุ่น: 足利義輝; โรมาจิ: Ashikaga Yoshiteru) และได้เปลี่ยนชื่อของตนเองเป็น "นางาโอะ เทรูโตระ" (ญี่ปุ่น: 長尾輝虎; โรมาจิ: Nagao Terutora) เพื่อเป็นเกียรติแก่โชกุน ใน ค.ศ. 1561 อูเอซูงิ โนริมาซะ ได้ทวงถามถึงสัญญาที่คาเงโตระเคยให้ไว้ ว่ากองกำลังเข้าบุกยึดดินแดนของตนคืนจากตระกูลโฮโจ คาเงโตระตอบตกลงภายใต้เงื่อนไขว่า โนริมาซะต้องรับตนเองเป็นบุตรบุญธรรมและยกตำแหน่งคันโตกังเรให้แก่ตน เมื่อโนริมาซะยอมรับข้อตกลงแล้ว นางาโอะ คาเงโตระ จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "อูเอซูงิ มาซาโตระ" (ญี่ปุ่น: 上杉政虎; โรมาจิ: Uesugi Masatora) และขึ้นครองตำแหน่งคันโตกังเร แทนที่โนริมาซะ อูเอซูงิ เค็นชิง ยกทัพเข้ายึดแคว้นโคซูเกะคืนมาจากตระกูลโฮโจได้สำเร็จ และยังรุกรานต่อเข้าไปในดินแดนของตระกูลโฮโจ โฮโจ อูจิยาซุ ผู้นำตระกูลโฮโจ ไม่สามารถต้านทานการรุกรานของฝ่ายอูเอซูงิได้ ค.ศ. 1561 อูเอซูงิ เค็นชิง นำทัพเข้าล้อมปราสาทโอดาวาระ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นหลักของตระกูลโฮโจ ในจังหวัดคานางาวะในปัจจุบัน แม้ว่าจะไม่สามารถหักตีเอาปราสาทมาครอบครองได้ แต่ก็เป็นการลดอำนาจของตระกูลโฮโจในภูมิภาคคันโตลงไป ต่อมาภายหลัง อูเอซูงิ มาซาโตระ บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ ได้รับฉายาว่า "เค็นชิง" (ญี่ปุ่น: 謙信; โรมาจิ: Kenshin) สงครามกับ โอดะ โนบูนางะตระกูลโอดะ นำโดยโอดะ โนบูนางะ (ญี่ปุ่น: 織田 信長; โรมาจิ: Oda Nobunaga) ซึ่งเป็นไดเมียวที่กำลังเรืองอำนาจอยู่ในญี่ปุ่นภาคกลาง ได้เข้ามาสานสัมพันธไมตรีกับอูเอซูงิ เค็นชิง ในการทำสงครามกับตระกูลทาเกดะ จนกระทั่งทาเกดะ ชิงเง็ง เสียชีวิตเมื่อค.ศ. 1573 ทำให้อำนาจของตระกูลทาเกดะเสื่อมถอยลง และตระกูลโอดะสามารถแผ่ขยายอำนาจเข้ามาแทนที่ตระกูลทาเกดะได้ อูเอซูงิ เค็นชิง จึงมีความตระหนักถึงภัยอันตรายของศัตรูใหม่ นั่นคือ โอดะ โนบูนางะ ใน ค.ศ. 1574 ฮาตาเกยามะ โยชิโนริ (ญี่ปุ่น: 畠山義慶; โรมาจิ: Hatakeyama Yoshinori) ไดเมียวแห่งแคว้นโนโตะ (ญี่ปุ่น: 能登; โรมาจิ: Nōto) จังหวัดอิชิกาวะในปัจจุบัน ได้ถูกสังหารโดยโช ชิเง็ตสึระ (ญี่ปุ่น: 長重連; โรมาจิ: Chō Shigetsura) ซึ่งเป็นซามูไรข้ารับใช้ของตนเอง ภายใต้การยุยงของโอดะ โนบูนางะ ฝ่ายอูเอซูงิ เค็นชิง เมื่อทราบข่าวความวุ่นวายในแคว้นโนโตะ จึงยกกองทัพเข้ารุกรานแคว้นโนโตะใน ค.ศ. 1577 สังหารโช ชิเง็ตสึระ โดยอ้างจุดประสงค์เพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ไดเมียวผู้ถูกสังหารไป เค็นชิงยึดแคว้นโนโตะมาเป็นของตนเอง จากนั้นเค็นชิงยกทัพเข้ารุกรานแคว้นคางะ (ญี่ปุ่น: 加賀; โรมาจิ: Kaga) และเอจิเซ็ง (ญี่ปุ่น: 越前; โรมาจิ: Echizen) ซึ่งเป็นดินแดนของตระกูลโอดะ ในขณะนั้นปกครองโดยชิบาตะ คัตสึอิเอะ (ญี่ปุ่น: 柴田勝家; โรมาจิ: Shibata Katsuie) โอดะ โนบูนางะจึงมอบหมายให้ชิบาตะ คัตสึอิเอะ และมาเอดะ โทชิอิเอะ (ญี่ปุ่น: 前田利家; โรมาจิ: Maeda Toshiie) ยกทัพมาต้านทานการรุกรานของเค็นชิง ทัพของทั้งสองฝ่ายปะทะกันในยุทธการที่เทโดริงาวะ (ญี่ปุ่น: 手取川の戦い; โรมาจิ: Tedorigawa no Tatakai) ผลคือฝ่ายอูเอซูงิ เค็นชิง เป็นฝ่ายมีชัย ขับไล่กองทัพของตระกูลโอดะออกไปได้ อูเอซูงิ เค็นชิง ยังคงมีโครงการที่จะแผ่ขยายอำนาจเข้าไปในดินแดนของตระกูลโอดะต่อไป แต่ทว่าเค็นชิงล้มป่วยจากการดื่มสุราอย่างหนักตลอดชีพ จนกระทั่งอูเอซูงิ เค็นชิง ได้เสียชีวิตในปีค.ศ. 1578 ด้วยอายุ 48 ปี มรดกอูเอซูงิ เค็นชิง เป็นไดเมียวผู้ซึ่งตั้งตนเป็นเทพเจ้าบิชามนเต็งในพุทธศาสนามหายาน และไม่เคยสมรสกับสตรีใด อูเอซูงิ เค็นชิงจึงไม่มีบุตรชายไว้สืบทอดแคว้นของตน อย่างไรก็ตาม อูเอซูงิ เค็นชิงได้รับบุตรชายบุญธรรมเอาไว้สองคน ได้แก่
สงครามการแก่งแย่งตำแหน่งผู้สืบทอดของบุตรชายบุญธรรมทั้งสองของอูเอซูงิ เค็นชิง ทำให้ตระกูลอูเอซูงิอ่อนแอลง เป็นเหตุให้โอดะ โนบูนางะ และโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ สามารถแผ่ขยายอิทธิพลเข้าปกครองตระกูลอูเอซูงิได้ในที่สุด อ้างอิงวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ อูเอซูงิ เค็นชิง
|