เจ้าอุปราช (บุญทวงษ์) |
---|
บุญทวงษ์ |
|
เจ้าอุปราชนครเชียงใหม่ |
---|
พิราลัย | พ.ศ. 2425 |
---|
พระชายา | เจ้าฟองแก้ว ณ เชียงใหม่ |
---|
พระบุตร | เจ้าสิงห์โต ณ เชียงใหม่ เจ้าโสรส ณ เชียงใหม่ เจ้าราชบุตร (คำตื้อ ณ เชียงใหม่) เจ้าแสงเมือง ณ เชียงใหม่ |
---|
ราชวงศ์ | ทิพย์จักร |
---|
ราชสกุล | ณ เชียงใหม่ |
---|
พระบิดา | พระยาราชวงศ์ (มหาพรหมคำคง) |
---|
พระมารดา | เจ้าคำหล้า |
---|
เจ้าอุปราช (บุญทวงษ์)[1] [บุน-ทะ-วง] เป็นเจ้าอุปราชนครเชียงใหม่ในรัชสมัยพระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 7 ถือเป็นเจ้าอุปราชที่มีบทบาทสูงเทียบเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ เพราะสามารถยกเลิกคำสั่งของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ได้[2] จนมีการกล่าวว่าหากเจ้าอุปราช (บุญทวงษ์) ยังมีพระชนม์อยู่ การแทรกแซงจากสยามจะกระทำได้ยากยิ่ง[3]
พระประวัติ
เจ้าบุญทวงษ์ เป็นโอรสในพระยาราชวงศ์ (มหาพรหมคำคง) กับแม่เจ้าคำหล้า และมีศักดิ์เป็นหลานของพระยาคำฟั่น เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 3 มีราชอนุชาและราชขนิษฐา ร่วมราชบิดา 16 พระองค์ มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
- พระเจ้าอินทวิชยานนท์ พระเจ้านครเชียงใหม่ องค์ที่ 7
- เจ้าอุปราชบุญทวงษ์ เจ้าอุปราชนครเชียงใหม่ -
- เจ้าราชภาติกวงศ์ น้อยเทพวัง เจ้าราชภาติกวงศ์นครเชียงใหม่
- เจ้าน้อยไชยลังกา
- เจ้าหญิงฟองนวล
- เจ้าหญิงดวงเทพ
- เจ้าหญิงบุญฝ้าย
- เจ้าหญิงคำทิพย์
- เจ้าน้อยไชยวงศ์
- เจ้าดวงทิพย์ - เจ้าปู่ใน "เจ้าทิพย์สมาตย์ ณ เชียงใหม่" "คุณหญิง เจ้าฉมชบา (ณ เชียงใหม่) วรรณรัตน์" "เจ้าวัฒนา (ณ เชียงใหม่) โชตนา"
- เจ้าบุญสม
- เจ้าหญิงบัวใส
- เจ้าหญิงบัวเที่ยง
- เจ้าหญิงกาบเมือง
- เจ้าน้อยอ๋อ
- เจ้าหญิงแว่นคำ
โอรส
เจ้าบุญทวงษ์ สมรสกับเจ้าฟองแก้ว มีโอรส 4 พระองค์ คือ
- เจ้าสิงห์โต
- เจ้าโสรส
- เจ้าราชบุตร (คำตื้อ)
- เจ้าแสงเมือง
กรณียกิจ
เจ้าบุญทวงษ์ มีบทบาทในการช่วยพระเชษฐาปฏิบัติพระภารกิจเมื่อครั้งยังมิได้ดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ กระทั่งในปี พ.ศ. 2416 พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ต่อมาเจ้าหลวงได้มอบหมายให้เจ้าบุญทวงษ์ นำเครื่องบรรณาการไปถวายที่สยาม จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น "เจ้าอุปราช" ในปี พ.ศ. 2416 ภายหลังจากที่พระเจ้าอินทวิชยานนท์ ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าหลวงแล้ว 6 เดือน[4]
ในตำแหน่งเจ้าอุปราชนั้น เจ้าบุญทวงษ์ ได้ปฏิบัติหน้าที่เสมือนเป็นเจ้าหลวงองค์ที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่แม่ทัพในยามสงคราม เป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบในอาณาจักรยามสงบ และเป็นหัวหน้าคณะลูกขุนตุลาการพิจารณาโทษ[5]
เจ้าอุปราช (บุญทวงษ์) ถึงแก่กรรมในปี พ.ศ. 2425
ราชตระกูล
พงศาวลีของเจ้าอุปราช (บุญทวงษ์)
|
|
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- ปราณี ศิริธร ณ พัทลุง. เพ็ชร์ล้านนา. (ครั้งที่ 2) เชียงใหม่ :ผู้จัดการ ศูนย์ภาคเหนือ, 2538.
- สมหมาย เปรมจิตต์, สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ตำนานสิบห้าราชวงศ์ (ฉบับสอบชำระ) . เชียงใหม่: มิ่งเมือง, 2540.
- ศักดิ์ รัตนชัย. พงศาวดารสุวรรณหอคำนครลำปาง (ตำนานเจ้าเจ็ดพระองค์กับหอคำมงคล ฉบับสอบทานกับเอกสารสืบค้น สรสว.ลำปาง) .
- เจ้าวงศ์สัก ณ เชียงใหม่, คณะทายาทสายสกุล ณ เชียงใหม่. เจ้าหลวงเชียงใหม่. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), 2539.
- คณะทายาทสายสกุล เจ้าหลวงเมืองพะเยา, สถาบันศิลปวัฒนธรรมโยนก. ครบรอบ 100 ปี แม่เจ้าทรายมูล (มหาวงศ์) ไชยเมือง และประวัติสายสกุลเจ้าหลวงเมืองพะเยา พุทธศักราช 2387 - 2456. พะเยา :บ.ฮาซัน พริ้นติ้ง จก., 2546
- นงเยาว์ กาญจนจารี. ดารารัศมี : พระประวัติพระราชชายา เจ้าดารารัศมี. เชียงใหม่ :สุริวงศ์บุ๊คเซนเตอร์, 2539.