เซเวนทีน (วงดนตรี)
เซเวนทีน (อังกฤษ: Seventeen เขียนด้วยตัวใหญ่ทั้งหมดหรือย่อว่า SVT; เกาหลี: 세븐틴) เป็นบอยแบนด์เกาหลีใต้ ก่อตั้งโดยเพลดิสเอนเตอร์เทนเมนต์ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนสิบสามคนคือ เอสคุปส์, จองฮัน, โจชัว, จุน, โฮชิ, วอนอู, อูจี, ดีเค, มินกยู, ดิเอท, ซึงกวาน, เวอร์น่อน และดิโน่ ได้รับความนิยมจากผู้ชมจำนวนมากนับตั้งแต่เปิดตัวและเติบโตจนกลายเป็น กลุ่มเคป็อป ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยดนตรีและการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ เซเวนทีนเปิดตัวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ด้วยอีพี 17 Carat[2] ซึ่งกลายเป็นอัลบั้มเคป็อปที่ติดชาร์ตยาวนานที่สุดแห่งปีในสหรัฐ[3] และเป็นอัลบั้มหน้าใหม่เพียงอัลบั้มเดียวที่ติดอันดับ "10 อัลบั้มเคป็อปยอดเยี่ยมแห่งปี 2015" ของบิลบอร์ด[4][5] เซเวนทีนวางจำหน่ายสตูดิโออัลบั้มมาแล้ว 4 อัลบั้ม อีพี 12 อีพี และอัลบั้มออกใหม่อีก 3 อัลบั้ม กลุ่มจะแสดงเป็นกลุ่มเดียวและสมาชิกจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย แต่ละกลุ่มมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน: 'กลุ่มฮิปฮอป', 'กลุ่มเสียงร้อง' และ'กลุ่มการแสดง' นับตั้งแต่เปิดตัวเซเวนทีนได้ออกสตูดิโออัลบั้มสามชุดและอีพีอีกสิบเพลง เซเวนทีนถือเป็นกลุ่มไอดอลที่ "ผลิตเอง" โดยสมาชิกมีส่วนร่วมอย่างมากในการแต่งเพลง, การออกแบบท่าเต้นและด้านอื่น ๆ ของดนตรีและการแสดงของพวกเขา[6][7] ประวัติก่อนเปิดตัวในปี พ.ศ. 2556 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนต์ ได้เริ่มต้นโครงการที่มีชื่อว่า "เซเวนทีนทีวี" (SEVENTEEN TV) มีการออกอากาศทาง Ustream ในปี 2012-2014 ด้วยสมาชิก 13 คน เป็นรายการที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงสมาชิกเซเวนทีน (ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นศิลปินฝึกหัด) ในอิริยาบถต่าง ๆ ทั้งการฝึกซ้อม การร้องเพลง การเต้น รวมไปถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันภายในห้องฝึกซ้อม และมีการประเมินผลความสามารถในด้านต่าง ๆ ด้วย นอกจากนี้เซเวนทีนยังได้มีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ "Like Seventeen Concerts" ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 2015: เปิดตัวด้วย เซเวนทีนกะรัต และ บอยส์บีในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนต์ ได้ปล่อยตัวอย่างแรกของรายการเรียลลิตีแรกของเซเวนทีน Seventeen Project: Debut Big Plan โดยรายการได้ออกอากาศตอนแรกในวันที่ 2 พฤษภาคม 2558 และออกอากาศตอนสุดท้ายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2558 ซึ่งเป็นเปิดตัวโชว์เคสที่ถ่ายทอดสดเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเต็ม และเปิดตัวอย่างสวยงามด้วยเพลง 'Shining Diamond' ที่แต่งเนื้อร้องและออกแบบท่าเต้นโดยสมาชิกในวง ซึ่งบ่งบอกตัวตนและจุดเริ่มต้นของเซเวนทีนได้เป็นอย่างดี และได้รับแหวนประจำตัวคืน ที่ใส่ตั้งแต่ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน ภายในแหวนสลักชื่อวงชื่อสมาชิกแต่ละคน (เจ้าของแหวน) ไว้ด้วย เป็นการประกาศว่าเป็นสมาชิกที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นเซเวนทีนอย่างเป็นทางการและเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป ในวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เซเวนทีนได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลงแรก "Adore U"(아낀다)[8] ที่เป็นเพลงไทเทิลหลัก พร้อมกับมินิอัลบั้มแรก '17 CARAT' ในรูปแบบดิจิทัลดาวน์โหลดออกมาอย่างเป็นทางการในวันเดียวกัน ก่อนที่แบบอัลบั้มนั้นจะออกวางขายตามมาในวันที่ 2 มิถุนายน โดยอัลบั้มนี้เปิดตัวในอันดับที่ 8 ของชาร์ตอัลบั้มกาออนและติดชาร์ตในอันดับที่ 9 ของชาร์ตอัลบั้มโลกบิลล์บอร์ดภายในสัปดาห์แรกที่ปล่อยออกมา[9][10][11]โดยสามารถอยู่ในชาร์ตได้นานถึง 11 สัปดาห์ ซึ่งอัลบั้ม '17 CARAT' นี้ยังถูกจัดให้อยู่ในอับดับที่ 9 ของการจัดอันดับ สุดยอดอัลบั้มเค-ป็อปที่ดีที่สุดแห่งปี 2015 ที่จัดอันดับโดยบิลบอร์ดอีกด้วย ซึ่งเซเวนทีนนั้นเป็นศิลปินหน้าใหม่เพียงวงเดียวที่ติดอยู่ในการจัดอันดับนี้[12] ในวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เซเวนทีนได้ปล่อยทีเซอร์ของมินิอัลบั้มชุดที่ 2 'BOYS BE' ซึ่งได้ทำออกมาเป็น 2 รูปแบบ คือ แบบ Hide และแบบ Seek และปล่อยมิวสิกวิดีโอ เพลงไทเทิล "Mansae"(만세)[13] ออกมาในวันที่ 10 กันยายน อัลบั้มนี้เปิดตัวในอันดับที่ 2 ของกาออนชาร์ต[14] และติดชาร์ตในอันดับที่ 1 ของชาร์ตอัลบั้มโลกบิลล์บอร์ด โดยอัลบั้ม 'BOYS BE' นั้นสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 100,000 แผ่น ซึ่งทำให้เซเวนทีนกลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่สามารถทำยอดขายอัลบั้มได้สูงที่สุดในปี พ.ศ. 2558 ในฐานะของศิลปินหน้าใหม่ เซเวนทีนนั้นมีชื่ออยู่ในการจัดอันดับของ "Billboard's 21 Under 21 2015: Music's Hottest Young Stars" (21 ศิลปินดาวรุ่งสุดฮอตแห่งปี พ.ศ. 2558 ที่อายุต่ำกว่า 21 ปี) ซึ่งเซเวนทีนเป็นศิลปินเกาหลีเพียงกลุ่มเดียวที่มีชื่ออยู่ในการจัดอันดับนี้ และได้ฉายา Monster Rookies หรือรุกกี้ปีศาจจากสื่อต่าง ๆ ในประเทศเกาหลี[15][16] เพราะเป็นไอดอลที่ทำเองหมดทุกอย่าง ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เพียง 7 เดือนหลังจากเปิดตัวเซเวนทีนได้ประกาศจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ 2015 LIKE SEVENTEEN - Boys Wish Concert โดยคอนเสิร์ตนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 24-26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ณ หอศิลป์ยงซัน ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเมื่อเปิดขายบัตรในวันที่ 24 พฤศจิกายนนั้น บัตรเข้าชมคอนเสิร์ตทั้ง 3 วันก็ถูกขายหมดภายใน 1 นาที[17] ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เซเวนทีนได้ปล่อยผลงานดิจิทัลซิงเกิลพิเศษ "Q&A" ซึ่งเป็นการร่วมงานกันของสมาชิกจากเซเวนทีน (เอส.คูปส์ อูจี และเวอร์นัน) กับนักร้องสาวเอลี[18] 2016: เลิฟแอนด์เลตเทอร์, ทัวร์เอเชีย และ โกอิงเซเวนทีนในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559 เซเวนทีนได้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับคอนเสิร์ต LIKE SEVENTEEN - Boys Wish ENCORE CONCERT ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของคอนเสิร์ตเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยคอนเสิร์ตจะจัดขึ้นในวันที่ 13 และ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 และเปิดขายบัตรในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 โดยบัตรคอนเสิร์ตทั้งหมด 7,000 ที่นั่ง สามารถขายหมดภายใน 5 นาที และในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตวันสุดท้าย เซเวนทีนได้ประกาศชื่อของแฟนคลับอย่างเป็นทางการ โดยใช้ชื่อว่า กะรัต[7] ลีดเดอร์เอส.คูปส์ได้บอกความหมายว่า 'กะรัตบ่งบอกคุณค่าของเพชร ที่ทำให้เซเวนทีนเปล่งประกาย' และ 'พวกคุณคือกะรัตที่ทำให้เพชรทั้ง 13 ส่องสว่าง' ในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559 เซเวนทีนได้ปล่อยผลงานอัลบั้มเต็มชุดแรกโดยใช้ชื่อว่า 'Love & Letter' ซึ่งได้ทำออกมาเป็น 2 เวอร์ชันคือ เวอร์ชัน Love และเวอร์ชัน Letter ซึ่งอัลบั้มนี้มียอดการสั่งซื้อล่วงหน้าสูงถึง 150,000 อัลบั้ม ซึ่งสูงกว่ามินิอัลบั้มชุดก่อนถึง 4 เท่า และยังติดชาร์ตในประเทศญี่ปุ่นทั้ง ๆ ที่ไม่มีการโพรโมตในประเทศญี่ปุ่นก็ตาม โดยเพลงไทเทิลหลักของอัลบั้มนี้มีชื่อว่า "Pretty U"(예쁘다)[19] ซึ่งถูกปล่อยออกมาในวันที่ 24 เมษายน หลังจากการแสดงโชว์เคสของพวกเขาจบลง อัลบั้มนี้เปิดตัวในชาร์ตอัลบั้มโลกบิลล์บอร์ดในอันดับที่ 3 และด้วยเพลง "Pretty U"(예쁘다) นี้เองที่ทำให้เซเวนทีนสามารถคว้ารางวัลที่ 1 ในรายการเพลงได้เป็นครั้งแรก ในวันที่ 4 พฤษภาคม ในรายการ Show Champion[20] ในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เซเวนทีนได้ประกาศรายละเอียดของการจัดคอนเสิร์ตเอเชีย แปซิฟิกทัวร์ ครั้งแรกซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม SEVENTEEN 1ST ASIA PACIFIC TOUR 'SHINING DIAMONDS' รายชื่อของประเทศที่จะทำการจัดคอนเสิร์ตนั้นมีทั้งสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ (มะนิลา), อินโดนีเซีย (จาการ์ตา), ไทย (กรุงเทพมหานคร), ออสเตรเลีย (เมลเบิร์น), ออสเตรเลีย (ซิดนีย์), นิวซีแลนด์ (ออกแลนด์), ฮ่องกง (เกาลูน), จีน (ปักกิ่ง) และไต้หวัน (ไทเป) ซึ่งได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทุกประเทศที่ได้ไปทำการแสดง หลังจากจบการทัวร์เอเชียแปซิฟิกครั้งแรก เซเวนทีนก็ปล่อย MixTape เพลงแรก 'CHECK IN' หลังจากเปิดตัวเพื่อตอบแทนแฟนคลับในประเทศต่าง ๆ ที่แต่งขึ้นโดยสมาชิกฮิปฮอปทีม เอส.คูปส์ ว็อนอู มินกยู เวอร์นัน ซึ่งในเนื้อเพลงมีชื่อประเทศที่พวกเค้าได้ไปทำการแสดงในเอเชียแปซิฟิกทัวร์ครั้งนี้ หลังจากจบการโพรโมตอัลบั้มเต็มได้ไม่ถึง 3 เดือน เซเวนทีนก็กลับมาอีกครั้งด้วยอัลบั้มรีแพ็กกิจ 'Love & Letter' ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2559 ด้วยเพลงไทเทิล "Very Nice"(아주 NICE)[21] ในแนวฟังกีที่มีจังหวะสนุกสนาน กับท่าเต้นที่สนุกพร้อมเพรียงเป็นที่จดจำและคำฮิตติดปาก 'อาจูไนซ์!' เป็นเอกลักษณ์ที่เราคุ้นเคยกันดีในแบบเซเวนทีน วันที่ 5 ตุลาคม 2559 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ประกาศสีประจำวงของเซเวนทีนอย่างเป็นทางการในวันครบ 500 วันเปิดตัวของเซเวนทีนเอง นั่นก็คือสี Rose Quartz & Serenity[22] ซึ่งเป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของเซเวนทีนมาตั้งแต่เปิดตัวปี 2558 ก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการตรงกับวันพิเศษในปี 2559 วันที่ 4 ธันวาคม 2559 เซเวนทีนได้กลับมาอีกครั้งเป็นรอบที่ 3 ของปีมินิอัลบั้มที่ 3 'Going Seventeen' ด้วยเพลงไทเทิลที่มีชื่อว่า "Boom Boom"(붐붐)[23] จังหวะสนุก ๆ สดใสเช่นเคย และชนะรางวัลรายการเพลงมาได้ถึง 3 ครั้ง เป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง 2017: อัลวัน, เซเวนทีนโปรเจ็กต์ 2017, ไดมอนด์เอดจ์ และ ทีน, เอจวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 เพลดิสเอนเตอร์เทนเมนต์ได้เปิดตัวแท่งไฟทางการของเซเวนทีนที่มีชื่อว่า กะรัตบง[24] (อังกฤษ: CARAT BONG; เกาหลี: 캐럿봉; ญี่ปุ่น: キャラットボン) ออกแบบมาได้อย่างดีรูปทรงสวยงาม สื่อความหมายถึงเซเวนทีนและกะรัต เซเวนทีนเริ่มต้นปี 2560 ด้วยแฟนมีตติงครั้งแรกภายใต้ชื่อ SEVENTEEN 1ST FANMEETING 'SEVENTEEN IN CARAT LAND' ซึ่งมีจำนวนแฟนคลับเข้าชมถึง 20,000 คน จัดขึ้นในวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2560 หลังจากแฟนมีตติง เซเวนทีนก็เดินทางต่อไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรก SEVENTEEN 17 JAPAN CONCERT 'SAY THE NAME' วันที่ 15-22 กุมภาพันธ์ 2560 ทั้งในเมืองโคเบะและโยโกฮามะ ซึ่งถึอได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่เซเวนทีนยังไม่ได้เปิดตัวที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการและเป็นคอนเสิร์ตครั้งแรก แต่มีผู้เข้าชมมากถึง 68,000 คน ทำให้เซเวนทีนติดอันดับ 'ศิลปินเคป๊อบที่มีจำนวนผู้เข้าชมคอนเสิร์ต ครึ่งแรกของปี 2560 ในประเทศญี่ปุ่น จาก ORICON' เป็นอันดับที่ 8 (ด้วยผู้เข้าชม 68,000 คน / จาก 6 โชว์) หลังจากจบแฟนมีตติง 'SEVENTEEN IN CARAT LAND' และคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่น เซเวนทีนได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง Smile Flower เป็นเพลงที่แต่งเพื่อแฟนคลับอยู่ในมินิอัลบั้มที่ 3 'Going Seventeen' เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนคลับอีกครั้ง วันที่ 15 เมษายน 2560 เซเวนทีนได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา เพื่อศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเพลงการออกแบบท่าเต้น จากโปรดิวเซอร์ต่างชาติและโรงเรียนสอนเต้นชื่อดัง พร้อมทั้งถ่ายทำ MV เพื่อการคัมแบคครั้งต่อไปด้วย วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 หลังจากจบทัวร์คอนเสิร์ตและทำกิจกรรมต่าง ๆ ถึงครึ่งปี เซเวนทีนก็คัมแบคอีกครั้ง ด้วยมินิอัลบั้มที่ 4 ในชื่อ 'Al1' ด้วยเพลงไทเทิล "Don't Wanna Cry"(울고 싶지 않아)[25] ถือได้ว่าเป็นความแปลกใหม่ของเซเวนทีนกับการกลับมาครั้งนี้ด้วยเพลงเศร้า ผสมผสานดนตรีแบบ EDM แต่ยังคงความเป็นเซเวนทีนอยู่ด้วยท่าเต้นแนวใหม่ Modern Dance ที่เซเวนทีนได้ออกแบบมาอย่างลงตัว มีความนุ่มนวล แปลกใหม่ แต่ยังคงความพร้อมเพรียงและแข็งแรงตามแบบฉบับของเซเวนทีน ทำให้การคัมแบคครั้งนี้ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมากทั้งเรื่องเพลง และท่าเต้นที่ได้อันดับ 1 ท่าเต้นของวงบอยกรุ๊ปที่มีความยากที่สุด รวมถึงการทำลายสถิติตัวเองในชาร์ตต่าง ๆ และได้ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 10 ศิลปินชายที่มียอดขายอัลบั้มมากที่สุดในสัปดาห์แรก จำนวน 192,3** อัลบั้ม อยู่ในอันดับที่ 4 Kpop บอยกรุ๊ปที่ดีที่สุด (จัดอันดับโดยผู้เชี่ยวชาญ 32 คนจากบริษัทค่ายเพลงชั้นนำต่าง ๆ ปี 2560) และชนะรางวัลรายการเพลงถึง 6 ครั้ง ถือได้ว่าการกลับมาครั้งนี้ของเซเวนทีนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หลังจากเปิดตัวครบสองปีเซเวนทีนได้จัดเวิลด์ทัวร์ครั้งแรก SEVENTEEN 1ST WORLD TOUR 'DIAMOND EDGE' ที่จะเริ่มในวันที่ 14 กรกฎาคม จนถึง 6 ตุลาคม 2560 หลายประเทศทั่วโลกเริ่มต้นที่ประเทศเกาหลีใต้ (โซล) เป็นที่แรก[26] คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดขึ้นในสนามกีฬาเปิดขนาดใหญ่มีแฟนคลับเข้าร่วมมากขึ้นเป็นเท่าตัว ต่อมาเป็นประเทศ ญี่ปุ่น (ไซตามะ) จัดขึ้นที่ Saitama Super Arena ซึ่งถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วของเซเวนทีนที่ได้จัดคอนเสิร์ตในสังเวียนที่ใหญ่ขึ้นภายในไม่กี่เดือนในประเทศญี่ปุ่น มีผู้เข้าชมมากกว่า 60,000 ในการแสดงแค่ 2 วัน และอีกหลายประเทศ ไทย (กรุงเทพมหานคร), ฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา (ชิคาโก, แดลลัส, นิวยอร์ก), ชิลี (ซานเตียโก), แคนาดา (โทรอนโต), มาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์), อินโดนีเซีย (จาการ์ตา), สิงคโปร์, ไต้หวัน (ไทเป) และฟิลิปปินส์ (มะนิลา) วันที่ 1 สิงหาคม 2560 มินกยูได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเพื่อถ่ายทำละครเรื่องแรก ซิตคอม 'หลวงตามหาชน' ทางไทยทีวีช่อง 3 ร่วมกับนักแสดงชั้นนำของไทย คุณสรพงศ์ ชาตรี และนักแสดงตลกอีกมากมาย ซึ่งถือเป็นการแสดงความสามารถด้านการแสดงครั้งแรกของสมาชิกเซเวนทีน และในวันที่ 3 สิงหาคม 2560 เซเวนทีนได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเตรียมตัวแสดงคอนเสิร์ต 1ST WORLD TOUR 'DIAMOND EDGE IN BANGKOK ที่จัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม การกลับมาประเทศไทยครั้งนี้ของเซเวนทีนได้รับความสนใจจากสื่อโทรทัศท์และสำนักข่าวต่าง ๆ มากมาย และประสบความสำเร็จอย่างมากในการจัดคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรกที่ประเทศไทยด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 5,500 คน เซเวนทีนจบ World Tour Concert ครั้งแรกด้วยจำนวนผู้ชมมากกว่า 200,000 คน ซึ่งถือเป็นการทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกครั้งแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และได้ประกาศการกลับมาครั้งต่อไปในระหว่างทัวร์ ซึ่งก่อนจะกลับมาในอัลบั้มเต็มที่ 2 เซเวนทีนได้เปิดเผยโครงการ 2017 SEVENTEEN PROJECT[27]โดยเริ่มด้วย Don't Wanna Cry ที่เป็นเพลงเปิดตัวโปรเจกต์ซึ่งผ่านไปแล้ว เซเวนทีนได้เตรียมเพลงเพลงเอ็มวีของแต่ละกลุ่มย่อย โดยเริ่มจาก SVT LEADER กับเพลง Chenge Up, Hiphop Team เพลง Trauma, Performance Team เพลง Lilili Yabbay, Vocal Team เพลง Pinwheel เพื่อเล่าเรื่องราวของตัวเองและแสดงความสามารถในแต่ละทีมได้เต็มที่ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงโปรโมตในอัลบั้มเต็มที่ 2 วันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เซเวนทีนกลับมาด้วยอัลบั้มเต็มที่ 2 'TEEN, AGE' ด้วยเพลงไทเทิลที่ชื่อว่า "CLAP"(박수)[28] กับดนตรีที่แปลกใหม่จังหวะร็อกสนุก ๆ และท่าเต้นที่มีเอกลักษณ์แบบ เซเวนทีน นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลที่ 1 จากรายการเพลง Show Champion[29] และจากรายการ Music Bank ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560[30] อีกทั้งอัลบั้มนี้ก็ยังทำลายสถิติยอดขายอัลบั้มเดิมได้อีกครั้ง และในปีนี้เซเวนทีนก็ได้รับรางวัลจากเทศกาลดนตรีปลายปีมากมาย รวมถึงรางวัล Best Artist Awards และ Best Dance Performance Male Group Awards ในเพลง Don't Wanna Cry ซึ่งถือเป็นรางวัลที่บ่งบอกความสามารถด้านดนตรี การเต้น การแสดงของเซเวนทีนได้อย่างดี และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 2560 นี้ 2018: ไดเร็กเตอส์คัต, เปิดตัวในญี่ปุ่น, ยูเมกมายเดย์เซเวนทีนมีงานแฟนมีตติ้งครั้งที่ 2 จัดขึ้นวันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 2561 ที่โซลประเทศเกาหลีใต้ ใช้ชื่อว่า SEVENTEEN 2nd Fanmeeting SEVENTEEN in 'CARATLAND' พร้อมทั้งมีการแสดง เพลงโพรโมตของอัลบั้มต่อไปก่อนการคัมแบคเป็นที่แรก ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เซเวนทีนคัมแบคด้วยอัลบั้มพิเศษ 'Director's Cut'[31] มีเพลงไทเทิลที่ใช้ในการโพรโมตชื่อว่า "THANKS"(고맙다) ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นวันครบรอบ 2 ปี สำหรับการประกาศชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ หรือวันครบรอบ 2 ปี ของกะรัต และได้รับรางวัลที่ 1 ในรายการเพลง Show Champion[32] เป็นรางวัลแรกของเพลง "THANKS"(고맙다) อีกด้วย ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ไปจนถึงวันที่ 7 มีนาคม 2561 เซเวนทีนมีทัวร์คอนเสิร์ต 3 เมืองของประเทศญี่ปุ่น โยโกฮามะ โอซากะ และนาโงยะ พร้อมทั้งจัดงานแฟนมีตติงไปพร้อมกัน มีชื่อว่า SEVENTEEN Japan Arena Tour ‘SVT’ และ SEVENTEEN Fanmeeting 'CARATCAMP' Japan Official Fanclub จากนั้นในงานคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นใน Yokohama Arena วันที่ 22 กุมภาพันธ์2561 เซเวนทีน ประกาศวันที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น[33] ต่อมาหลังจากจบคอนเสิร์ตและแฟนมีตติ้งในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 15 มีนาคม 2561 ได้ปล่อยเพลงประกอบละคร Mother มีชื่อว่า "Kind of Love" เป็นการเปิดตัวการร้องเพลงประกอบละครเป็นครั้งแรกของซึงกวัน จากนั้นโทกย็อมก็ได้มีโอกาสร้องเพลงประกอบละครด้วยอีกเช่นกัน[34][35] 21 มีนาคม 2561 เปิดตัวกลุ่มย่อยพิเศษพูซ็อกซุน (BooSeokSoon หรือ BSS) ประกอบด้วยซึงกวัน, โทกย็อมและโฮชี ปล่อยดิจิทัลซิงเกิล "Just Do it"(거침없이) [36] ต่อมาวันที่ 5 เมษายน 2561 ได้เริ่มออกอากาศ รายการเรียลลิตีใหม่ ของเซเวนทีน ชื่อว่า SVT CLUB เป็นตอนแรก ซึ่งถ่ายทำระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต ที่ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 เซเวนทีนได้ปล่อยเพลงไทเทิลของอัลบั้ม 'We Make You' ชื่อว่า "CALL CALL CALL!"[37] เป็นเพลงที่จะใช้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 เซเวนทีน ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่น ในโชว์เคสแรก และยอดขายของอัลบั้มใหม่ 'We Make You' ติดชาร์ตเป็นอันดับที่ 2 ใน Oricon Chart หลังจากที่วางขายวันแรก และมียอดขายอัลบั้มรวม 7 วันแรกมากกว่า 120,000 อัลบั้ม[38] วันที่ 28 มิถุนายน 2561 ไปจนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 มีคอนเสิร์ต SEVENTEEN Concert 'IDEAL CUT' in Seoul[39] ซึ่งจัดคอนเสิร์ตทั้งหมด 4 วัน ในแต่ละวันจะมีการแสดงหลักของ เซเวนทีนแล้วตามด้วยเวทีเฉพาะของแต่ละกลุ่มย่อยในแต่ละวัน โดยวันแรกเป็น ‘THE SCENE’ มีการแสดงพิเศษของลีดเดอร์ วันที่ 2 เป็น ‘H cut’ มีการแสดงพิเศษของฮิปฮอปทีม วันที่ 3 เป็น ‘V cut’ มีการแสดงพิเศษของโวคัลทีม และวันที่ 4 เป็น ‘P cut’ มีการแสดงพิเศษของเพอร์ฟอร์แมนซ์ทีมและเป็นคอนเสิร์ตวันสุดท้าย ก่อนที่จะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ 2018 SEVENTEEN CONCERT TOUR 'IDEAL CUT' [40] เซเวนทีนกลับมาอีกครั้งก่อนจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตในต่างประเทศ ด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘YOU MAKE MY DAY’ [41] ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 โดยมีเพลง "Oh My!"(어쩌나)[42] เป็นเพลงหลักที่ใช้ในการโปรโมต โดยในครั้งนี้มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘YOU MAKE MY DAY’ ติดใน 10 อันดับแรก มากกว่า 10 ประเทศทั่วโลกใน iTunes Chart [43][44] นอกจากนั้นชนะที่ 1 ในรายการเพลงถึง 3 รางวัล[45] และเป็นอัลบั้มขายดีอันดับ 1 ประจำเดือนกรกฎาคมใน Gaon Chart มากถึง 350,000 อัลบั้ม[46] และยังได้รับการรับรองเป็น ALBUM PLATINUM จาก Gaon Chart เป็นอัลบั้มแรกเช่นกัน[47] วันที่ 13 สิงหาคม 2561 เซเวนทีนได้ปล่อยเพลงประกอบเว็บดราม่าเรื่อง A-Teen ซึ่งเป็นเพลงที่แต่งขึ้นและร้องโดยสมาชิกทั้ง 5 คน ของเซเวนทีน มีชื่อว่า "Eighteen"(에이틴)[48] และในตอนเช้าของวันที่ 14 สิงหาคม 2561 เพลง "Eighteen"(에이틴) ก็ได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ใน Melon Chart[49] หลังจากจบการโปรโมต มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘YOU MAKE MY DAY’ ในประเทศเกาหลีแล้ว ก็ได้เริ่มต้นทัวร์คอนเสิร์ต 2018 SEVENTEEN CONCERT TOUR 'IDEAL CUT' ที่ฮ่องกงเป็นแห่งแรก จากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ก็ได้มีการเพิ่มรอบการแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 8-9 สิงหาคมขึ้นมา จากเดิมแค่ในวันที่ 4-6 สิงหาคม รวมทั้งหมดเป็นเวลา 5 วัน พร้อมทั้งจัดงานแฟนมีตติงพร้อมกันด้วย ใช้ชื่อว่า SEVENTEEN Japan Fanmeeting ‘Carat Summer Camp’ ในวันที่ 8-9 สิงหาคม โดยมียอดจำนวนผู้ชมทั้งหมด 5 วัน รวมกันแล้วมากกว่า 120,000 คน[50] ก่อนทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศ อินโดนีเซีย (จาการ์ตา), สิงคโปร์, มาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์), ฟิลิปปินส์ (มะนิลา) และ ไต้หวัน (ไทเป) จะจบลงก็ได้มีการประกาศคอนเสิร์ต SEVENTEEN Concert 'IDEAL CUT - The Final Scene' in Seoul[51] เป็นการปิดท้ายทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ที่ Olympic Gymnastics Arena ในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2561 ก่อนจะที่จะจบปีนี้ไป เซเวนทีนก็ได้รับรางวัลจากงานประกาศรางวัลปลายปี ไปด้วยกันหลายรางวัล และในวันที่ 14 ธันวาคม ยังมีการแสดงชุดพิเศษของเพลง "Getting Closer"(숨이 차)[52] เป็นครั้งแรกในงาน 2018 Mnet Asian Music Awards in Hong Kong แล้วก็ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอมาวันที่ 21 ธันวาคม ตอนเที่ยงคืนตามเวลาที่เกาหลี[53] 2019: ยูเมดมายดอว์นในที่ 21 มกราคม 2562 เซเวนทีนกลับมาในตอนต้นปี ด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 6 ‘YOU MADE MY DAWN’ โดยมีเพลง "HOME"[54] เป็นเพลงที่ใช้ในการโปรโมตครั้งนี้ [55] มียอดขายอัลบั้มรวม 7 วันแรกมากกว่า 330,000 อั้ลบั้ม ใน Hanteo Chart อีกทั้งยังมียอดขายอัลบั้มมากกว่า 400,000 อัลบั้ม เป็นอันดับ 1 ประจำเดือนมกราคมใน Gaon Chart[56] ในวันที่ 30 มกราคม 2562 ก็ชนะรางวัลที่ 1 ในรายการเพลง Show Champion เป็นรางวัลแรกของการโปรโมทในครั้งนี้[57] แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เซเวนทีนยังชนะรางวัลที่ 1 ในรายการเพลง M COUNTDOWN ,Music Bank ,Music Core และ Inkigayo รวมทั้งหมดแล้ว 10 รางวัลด้วยกัน[58] โดยในครั้งนี้มีการชนะรางวัลที่ 1 ในรายการเพลงครั้งแรกตั้งแต่เปิดตัวมาอย่างรายการ Music Core[59] และ Inkigayo[60] อีกด้วย ถือเป็นการประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเริ่มต้นปีนี้ สมาชิก
กลุ่มย่อยเซเวนทีนบีเอสเอสเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ค.ศ. 2018 โฮชี, ดีเค และซึงกวัน เปิดตัวในนามสมาชิกกลุ่มย่อยชื่อ บีเอสเอส หรือ พูซ็อกซุน มาจากชื่อเล่นของทั้งสามคน เปิดตัวด้วยเพลง จัสต์ดูอิต และทำการแสดงโปรโมตในช่วงสั้น ๆ[61][62] ผลงานเพลงสตูดิโออัลบั้ม
ผลงานการแสดงรายการโทรทัศน์
คอนเสิร์ตและทัวร์เอเชีย
ทั่วโลก
รางวัลและการเสนอชื่ออ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่นวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ Seventeen |