เหตุเอ็มวี เซว็อลจม
เรือข้ามฟากเกาหลีใต้ เอ็มวี เซว็อล (MV Sewol) (ฮันกึล: 세월호; ฮันจา: 世越號) พลิกคว่ำเมื่อวันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2014 จุดเกิดเหตุคือช่องแคบแมงโก (Maenggol Channel) เกาะดองเกียวชาโด[1] ระหว่างบรรทุกผู้โดยสาร 476 คน[2] ซึ่งเป็นนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมทันว็อน เมืองอันซัน (Ansan) 325 ราย อาจารย์ของโรงเรียนมัธยมทันว็อน เมืองอันซัน 14 ราย ลูกเรือ 36 ราย สินค้ารวม 2,142.7 ตัน ที่กำลังเดินทางจากเมืองอินช็อนไปยังเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ เรือบรรทุกสินค้าและผู้โดยสารน้ำหนักรวม 3,608 ตัน มากกว่ามาตรฐาน 3.7 เท่า[3] ส่งสัญญาณอันตรายห่างจากเกาะควันแมโด (Gwanmaedo) ที่เวลา 8.58 นาฬิกาตามเวลามาตรฐานเกาหลีมีผู้เสียชีวิต รวม 295 ราย [4] ผู้โดยสารหลายคนได้รับการช่วยชีวิตโดยเรือประมงและเรือสินค้าอื่น ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแรก อีก 30 นาทีต่อมา เรือของหน่วยยามฝั่งและเรือของกองทัพเรือเกาหลีใต้จึงมาถึง รวมถึงเฮลิคอปเตอร์[5] มีความพยายามช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา กลุ่มพลเมืองและเอกชน เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตรองจากสงครามเกาหลี นอกจากนั้นยังเป็นเหตุการณ์ที่กัปตันเรือและลูกเรือนำเรือฉุกเฉินออกมาใช้หนีภัยโดยทิ้งผู้โดยสารให้เสียชีวิตนับเป็นเหตุการณ์ที่คนเกาหลีใต้กระทำต่อชีวิตคนเกาหลีใต้ที่ร้ายแรงที่สุดรองจากการก่อการกำเริบควังจู เบื้องหลังเรือ
เรือเอ็มวี เซว็อล (Korean: MV 세월호; 2013-2014) สร้างโดยบริษัทญี่ปุ่น ayashikane[6] ที่ความยาว 146 เมตร และความกว้าง 22 เมตร เรือสามารถบรรทุกผู้โดยสาร 921 คน ตามความจุสูงสุด รวมถึงลูกเรือทั้งหมด 956 คน เรือดำเนินการโดยบริษัท Cheonghaejin marine ในเมืองอินช็อน ซึ่งมีรายงานว่ามีพื้นที่ว่างสำหรับบรรทุกรถอีก 180-220 คัน และสามารถขนตู้บรรจุสินค้าขนาดความสูง 20 ฟุต จำนวน 152 ตู้ เรือสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 22 นอต (41 กิโลเมตร) ต่อชั่วโมง เรือเซว็อลดำเนินการในคาโงชิมะประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 18 ปี (ตั้งแต่ ค.ศ. 1994)[7] โดยเรือนำมาจากญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 ตั้งแต่นั้นบริษัทของ เกาหลีใต้ ได้เพิ่มห้องผู้โดยสารพิเศษเพิ่มด้วยชั้น 3, 4 และชั้นดาดฟ้าที่ 5 มีการเพิ่มความจุของผู้โดยสารมากขึ้น 181 คน และเพิ่มน้ำหนักของเรือประมาณ 239 ตัน การก่อสร้างเป็นไปอย่างถูกกฎหมายและผ่านการทดสอบที่มีการควบคุม[8] หลังจากผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยโดยรัฐบาลเกาหลีใต้ เรือเริ่มดำเนินการในเกาหลีใต้เมือวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2013 จากนั้นเรือมีการขนส่งผู้โดยสาร 2-3 ครั้งไปกลับทุก ๆ สัปดาห์จากเมืองอินช็อนไปเกาะเชจู[9] มีรายงานว่า เรือผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอีกครั้งโดยศูนย์รักษาความปลอดภัยชายฝั่งเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014[10] การตรวจสอบนี้เรียกว่า การสำรวจขั้นกลาง (Intermediate Survey) ตามองค์กรนานาชาติของสมาคมมาตรฐานเรือ (International Association of Classification Societies (IACS)) รวมถึงการตรวจสอบและการทดสอบที่ระบุไว้ในกฎและเงื่อนไขทั่วไป ซึ่งเรือได้ตอบสนองข้อเรียกร้องตามกฎต่าง ๆ[11] ผู้โดยสารอี คย็อน-อก รัฐมนตรีช่วยฝ่ายกิจการความมั่นคงและบริหารรัฐกิจของเกาหลีใต้ กล่าวว่ามีจำนวนผู้โดยสาร 459 คน โดยกลุ่มหลัก ๆ คือนักเรียนมัธยม ประกอบด้วยลูกเรือ 30 คน นักเรียนมัธยมโรงเรียนทันว็อน 325 คน อาจารย์ 15 คน และผู้โดยสารที่ไม่ใช่นักเรียน 89 คน[12] รายงานอื่น ๆ กล่าวว่ามีจำนวนผู้โดยสารระหว่าง 450-475 คน การพลิกคว่ำเหตุการณ์เรือเซว็อลเป็นเรือโดยสารที่อับปางเป็นลำที่หนึ่งร้อย นับตั้งแต่ ค.ศ. 2002[13] ห่างจากชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 30 กิโลเมตร เรือข้ามฟากเริ่มเอียงข้างอย่างมากในขณะที่กำลังมุ่งหน้าไปเกาะเชจู มีการรายงานของการหันเหทิศทางออกจากเส้นทางเดิม แต่ผู้ตรวจการชายฝั่งชี้ชัดว่าเรือไม่ห่างไปจากเส้นทางเดินเรือปกติ ผู้โดยสารที่รอดชีวิตรายงานว่า เกิดเสียงดังมากขึ้นตามมาด้วยการหยุดชะงักของเรือ คาดว่าน่าจะชนเข้ากับแนวหินหรือสันดอนใต้น้ำ[14] แม้ว่าน้ำทะเลจะไหลเข้ามาในเรือตามที่รายงานราว 37 เมตรในส่วนที่เรือเอียงข้าง ผู้โดยสารที่รอดชีวิตกล่าวว่า ลูกเรือบอกให้พวกเขา "อย่าขยับ" โดยประกาศผ่านระบบอินเตอร์คอมของเรือ ระหว่างที่เรือกำลังจมลง[15] มีรายงานว่า เรือกำลังจมลงเรื่อย ๆ ที่เวลา 8:58 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ ที่เวลา 9:30 น. มีรายงานว่า เรือมีการเอียง 20 องศาทางซ้าย และเวลาประมาณ 11:18 น. หัวเรือจมลงในน้ำ ส่วนหนึ่งของความสูงเรือประมาณ 2 เมตร และระดับความยาว 20 ถึง 30 เมตรยังลอยอยู่เหนือน้ำ ที่เวลา 8 นาฬิกาของวันที่ 18 เมษายน มีเพียง 1 เมตรของเรือที่ยังลอยอยู่เหนือน้ำ[16] และเวลา 13:03 น. ตามเวลาเกาหลีใต้ เรือได้จมลงในน้ำหมดทั้งลำ[17] ระหว่างการพลิกคว่ำ มีการเชื่อว่าผู้โดยสารที่ติดอยู่ในเรือสามารถส่งข้อความไปยังเพื่อนและครอบครัวในขณะที่เรือกำลังจม[18] อย่างไรก็ตามการสืบสวนต่อมาโดยศูนย์ตอบโต้การก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์รายงานว่า ผู้รอดชีวิตยังไม่ใช้โทรศัพท์ของพวกเขาในช่วงกลางวันของวันที่ 16 เวลา 10.00 น. และวันที่ 17 และเชื่อว่ารายงานการส่งข้อความทั้งหมดหลอกลวง[19] อุณหภูมิในบริเวณที่เรือพลิกคว่ำนั้นประมาณ 12 องศาเซลเซียส และสามารถทำให้เกิดภาวะตัวเย็นเกินได้ในเวลา 90 นาที[20] สาเหตุศูนย์รักษาความปลอดภัยชายฝั่งเชื่อว่าการหมุนเรืออย่างทันทีและการเปลี่ยนตำแหน่งของตู้สินค้าในเรือเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้[21]ขณะเกิดเหตุ ผู้ช่วยต้นเรือหญิง อายุ 26 ปี ทำหน้าที่ควบคุมเรือซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีประสบการณ์เพียง 6 เดือน[22] ทางการเกาหลีใต้ยังระบุสาเหตุเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนเรือไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอ[23]ในการรับมือกับเหตุการณ์และไม่เคยฝึกซ้อมการอพยพหนีภัยหรือเหตุฉุกเฉินทางเรือ รวมถึงการศึกษาของประเทศเกาหลีใต้ที่เน้นให้เด็กและครูต้องเชื่อฟังและไว้ใจเจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกเรือโดยไม่มีการตั้งคำถาม เนื่องจากเหตุการณ์นี้ผู้แจ้งเหตุรายแรกคือนักเรียนชายชื่อ ชเว ดุคฮา Choi Deokha อายุ 17 ปี[24]ซึ่งขัดคำสั่งลูกเรือที่สั่งให้เขานั่งเฉยๆ ผู้รอดชีวิตระบุสาเหตุการรอดชีวิตว่าเพราะไม่เชื่อใจและไม่ไว้วางใจลูกเรือบนเรือดังกล่าว สาเหตุหนึ่งที่ยอมรับโดยกว้างขวางคือคำสั่ง "อย่าขยับ" "อยู่นิ่งๆ" และ"จงใส่เสื้อชูชีพและนั่งลง"ซึ่งปรากฏว่าผู้ทำตามอย่างเคร่งครัดได้เสียชีวิตลง การตรวจสอบที่เรียกว่า การสำรวจขั้นกลาง (Intermediate Survey) ตามองค์กรนานาชาติของสมาคมมาตรฐานเรือถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ที่อายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว กัปตันและลูกเรือซึ่งทราบเรื่องเรือฉุกเฉินเป็นอย่างดีได้แย่งเรือลำดังกล่าวและทิ้งเรือขณะอำปางลง ทำให้นักเรียนและครูไม่มีเรือฉุกเฉินให้ใช้งาน วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ เหตุเอ็มวี เซว็อลจม การช่วยชีวิต
อ้างอิง
|