แฟตเฟสติวัล
แฟตเฟสติวัล เป็นเทศกาลดนตรีในประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดย สถานีวิทยุ 104.5 แฟตเรดิโอ เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ 1 - 2 กันยายน พ.ศ. 2544 ที่โรงงานยาสูบเก่า เป็นจัดเป็นประจำเรื่อยมาจวบจนปัจจุบัน เดิมมีสปอนเซอร์หลักเป็นเบียร์ไฮเนเก้น ทำให้ใช้ชื่องานเทศกาลว่า "ไฮเนเก้น แฟตเฟสติวัล" แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงสปอนเซอร์ ทำให้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ "แฟตเฟสติวัล" ในปัจจุบัน ลักษณะของงาน จะเป็นเทศกาลที่มุ่งเน้นกิจกรรมทางดนตรีเป็นหลัก จัดขึ้นปีละครั้ง แต่ละครั้งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน คือวันเสาร์และอาทิตย์แรกหรือที่สองของเดือนพฤศจิกายน ตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงเที่ยงคืน โดยเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดไปเรื่อยๆ ทุกปี เทศกาลดนตรีแฟตเฟสติวัลไฮเนเก้น แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 1จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 -2 กันยายน พ.ศ. 2544 ณ โกดังเก็บใบยาสูบ โรงงานยาสูบเก่า ปากซอยถนนเจริญกรุง 74 โดยมีเบียร์ไฮเนเก้นเป็นสปอนเซอร์หลัก ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้างาน มีคนเข้าร่วมงานประมาณ 20,000 คน ภายในงาน มีการแสดงดนตรีของศิลปินกลุ่มต่างๆ, แผงขายหนังสือทำมือ และแผงขายเทป-ซีดีของศิลปินและค่ายเพลงต่างๆ แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 1 เป็นที่เปิดตัวครั้งแรกของนิตยสารอะเดย์, เป็นที่เปิดตัวศิลปินที่มีชื่อเสียงในเวลาถัดมาอย่าง อาร์มแชร์, ดาจิม และ กรู๊ฟไรเดอร์ส ไฮเนเก้น แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 2จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 -3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545 ณ ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว บนพื้นที่ชั้น 6 ของห้างซึ่งเคยเป็นลานสเกตน้ำแข็ง โดยมีเบียร์ไฮเนเก้นเป็นสปอนเซอร์หลัก ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้างาน มีผู้เข้างานกว่า 40,000 คน เป็นเวทีแจ้งเกิดของวง สครับ, ไทยเทเนี่ยม และฟลัวร์ ไฮเนเก้น แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 3จัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 - 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2546 ณ สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ โดยมีเบียร์ไฮเนเก้นเป็นสปอนเซอร์หลัก ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้างาน ภายในงานแบ่งออกเป็น 7 โซนและตั้งชื่อเป็นสีต่างๆ ดังนี้
ไฮเนเก้น แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 4จัดขึ้นเมื่อวันที่ 6 - 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ณ สนามม้านางเลิ้ง โดยมีเบียร์ไฮเนเก้นเป็นสปอนเซอร์หลัก ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้างาน ภายในเทศกาลมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ คอนเสิร์ต หนังสือทำมือ การจัดฉายภาพยนตร์ การออกร้านของค่ายเทปต่างๆ เวทีคอนเสิร์ตถูกแบ่งออกเป็น 9 โซน ซึ่งตั้งชื่อให้สอดคล้องกับสถานี่จัดซึ่งเป็นสนามม้า ได้แก่
แฟตเฟสติวัลครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เกิดปัญหาความรุนแรง ทำให้ต้องใช้กำลังตำรวจเข้าจัดการ ขณะที่บริเวณที่จัดงานอยู่ใกล้กับทำเนียบรัฐบาล ส่งผลให้การจัดงานเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น และจำเป็นต้องเลิกงานก่อนกำหนดเวลา
แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 4 มีศิลปินต่างประเทศเข้ามาร่วมแสดง อาทิ Nitt (ญี่ปุ่น) , Cafa (ญี่ปุ่น) , Fantastic Plastic Machine (ญี่ปุ่น) และ Serenaid (สิงคโปร์) ไฮเนเก้น แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 5จัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 - 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 ณ แดนเนรมิตเก่า เลื่อนเวลางานมาเป็น 11.00-23.00 น. เป็นครั้งสุดท้ายที่มีเบียร์ไฮเนเก้นเป็นสปอนเซอร์ จำหน่ายบัตรเข้างานในราคา 200 บาท เข้างานได้ทั้ง 2 วันและแลกรับซีดี Fat Code#2 ในงาน สำหรับเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 เวที ได้แก่
นอกเหนือไปจากเวทีคอนเสิร์ตแล้ว ยังมีกิจกรรมในส่วนอื่นๆ คือ เธคม้าหมุน เธคเงียบที่มีดีเจเปิดแผ่น แล้วให้ผู้เข้างานฟังเพลงจากหูฟังและเต้นตาม, บูธขายสินค้าของค่ายเพลงและศิลปิน, บูธขายหนังสือทำมือ แฟตแฟสติวัลครั้งนี้ ประสบกับอุปสรรคอีกครั้ง ฝนตกหนักในบางช่วงของงาน ทำให้บางเวทีต้องหยุดเล่นชั่วคราวจนกว่าฝนจะหยุด ขณะที่บางเวทีซึ่งมีหลังคา ยังคงทำการแสดงคอนเสิร์ตได้ต่อ
สำหรับศิลปินต่างประเทศที่มาร่วมแสดงในครั้งนี้ ได้แก่ Kiiiiii (ญี่ปุ่น) , Fried Pride, The Travellers (ญี่ปุ่น) , Higashida Tomohiro (ญี่ปุ่น) , YMCK (ญี่ปุ่น) แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 6: มหกรรมดนตรีที่มันที่สุดใน 3 โลก โลก/สวรรค์/นรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 – 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี โดยมีบัตรเงินสดสมาร์ทเพิร์ส เป็นสปอนเซอร์หลัก ร่วมกับอีก 7 สปอนเซอร์ร่วม โดยใช้คอนเซ็ปต์ของงานว่า มหกรรมดนตรีที่มันที่สุดใน 3 โลก “โลก – สวรรค์ – นรก” เป็นอีกครั้งที่การเข้างานต้องซื้อบัตร ในราคา 300 บาทเข้าได้ 2 วันและแลกรับซีดี Fat Code#3 ในงาน รูปแบบการจัดงาน ด้านในของฮอลล์จะแบ่งเป็น
เวทีต่างๆ ในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 4 เวที ตั้งชื่อตามคอนเซ็ปต์ของงาน คือ
แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 6 มีศิลปินต่างประเทศเข้ามาร่วมงานมากมาย ได่แก่ Shitdisco (สก็อตแลนด์) , Divas (เยอรมัน) , Y2K (มาเลเซีย) , Couple (มาเลเซีย) , Rivermaya (ฟิลิปปินส์) , 21 Scott, Windy City, Phonebooth (เกาหลีใต้) , YMCK, Loves, Doc Holiday and Apache Train, The Travellers, Euphoria และ Velvet Peach 7 (ญี่ปุ่น) แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 7: ตอนขอบคุณป้าเอจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2550 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 และ 3 เมืองทองธานี โดยมีเครื่องดื่มบี-อิ้ง และดีแทค เป็นผู้สนับสนุนหลัก ค่าบัตรผ่านประตู 300 บาท เข้าได้ทั้ง 2 วัน และแลกรับซีดี FatCode#4 ในงาน โดยงานครั้งนี้มีแนวความคิดหลักเพื่อแสดงความขอบคุณ "ป้าเอ" ผู้หญิงดัดฟันวัยทอง สตรีไทยตัวเล็กๆ ที่เหล่าชาวแฟตและบรรดาดีเจทั้งหลาย ต่างยกให้เป็นปูชนียบุคคล จากคำพูดเพียงประโยคเดียวที่ว่า “เราน่าจะมีงานที่เล่นดนตรีแล้วขายเทปนะ” เป็นการจุดประกายให้เกิดเทศกาลดนตรีนี้ขึ้นมา[1] ภายในงานแบ่งการแสดงดนตรีออกเป็น 5 เวที ได้แก่
นอกจากนี้ยังมีการออกร้านของค่ายเพลง บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้ผลิตนิตยสาร ผู้จัดทำเว็บไซต์ รวมถึงซุ้มหนังสือทำมือ การฉายภาพยนตร์สั้น และยังมีงานศิลปะเพื่อแรงบันดาลใจ ซึ่งสนับสนุนโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรมและหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะของศิลปินผู้สร้างแรงบันดาลใจ 11 คน ได้แก่
แฟตเฟสติวัล โชว์เหนือเป็นการจัดงานแฟตเฟสติวัลในต่างจังหวัดครั้งแรก กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2551 ณ ลานม่วนใจ๋ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต[2] โดยมีผู้สนับสนุนหลักคือ โนเกีย และเครื่องดื่มโค้ก ภายใต้แนวคิดหลัก "กรุงเทพมีหยั๋งใด เชียงใหม่มีหยั๋งอั้น" ค่าบัตรผ่านประตูสำหรับผู้ชาย 50 บาท ผู้หญิงไม่เสียค่าบัตรผ่านประตูเพราะงานจัดในวันสตรีสากล โดยในงานจัดการแสดงดนตรีออกเป็น 2 เวที มีการออกร้านของค่ายเพลง บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ ผู้ผลิตนิตยสาร รวมถึงซุ้มหนังสือทำมือ ฉายภาพยนตร์สั้น และ Overhead Night Club เหมือนเช่นเคย แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 8: แฟตเฟสติวัล พลาซ่า หรือ โค้ก Fat Fest 8 พลาซ่า: มันทุกชั้นทุกแผนก”แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 8 จัดขึ้นในวันที่ 8-9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 และ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เช่นเดียวกับครั้งที่ 6 และ ครั้งที่ 7 โดยมีเครื่องดื่มโค้กเป็นผู้สนับสนุนหลักและถือเป็นครั้งแรกของ “เครื่องดื่มโค้ก” ที่เป็นสปอนเซอร์หลักของงานนี้[3] ร่วมกับอีก 10 สปอนเซอร์ร่วม รวมทั้ง iStudio ตัวแทนจำหน่าย คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและโทรศัพท์มือถือ ของบริษัทแอปเปิล ในประเทศไทย และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.
แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 9: อีนี่ fat fest นะจ๊ะ 9 จ๋าแฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 9 จัดขึ้นในวันที่ 7-8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 และ 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เช่นเดียวกับครั้งที่ 6-8 ในแนวคิดโลกสไตล์อินเดีย โดยมีโครงการโมโซไซตี้ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เป็นผู้สนับสนุนหลัก มีกิจกรรมสำคัญดังนี้
แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 10: 10 (หึ่ม...)ปี แห่งความหลังแฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 10 จัดขึ้นในวันที่ 6-7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี มีเครื่องดื่มกระทิงแดงเป็นผู้สนับสนุนหลัก โดยเป็นการกลับมาจัดกลางแจ้งอีกครั้งหลังจากครั้งที่ 5 ณ แดนเนรมิตเก่า แฟตเฟสติวัลครั้งนี้มีแนวคิดในการย้อนอดีตของงานในครั้งที่ผ่านมา เพื่อฉลองครบ 1 ทศวรรษของงาน โดยมีเวทีการแสดง 6 เวที การจำหน่ายเสื้อยืดลายเก่าจากปีที่ผ่านมาที่ได้รับเลือกจากการลงคะแนนทางเว็บไซต์ ตลาดนัดเพลง หนังสือทำมือ และโรงภาพยนตร์ Feel Goose แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 11: กระทิงแดง แฟตเฟส กรุงเทพ หรือ แฟตเฟส ไตรภาคแฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 11 จัดขึ้นในวันที่ 11-12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี เช่นเดียวกับครั้งที่ 10 โดยย้ายมาจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต จังหวัดปทุมธานี (เดิมกำหนดจัดในเดือนพฤศจิกายน แต่ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากอุทกภัย) โดยมีเครื่องดื่มกระทิงแดงเป็นผู้สนับสนุนหลัก โปสเตอร์ของแฟตเฟสติวัลครั้งนี้เป็นภาพวาดลายเส้น กรุง ศรีวิไล และเทพ โพธิ์งาม โดยเมื่อแฟตได้ผูกงานเข้ากับแฟตเฟสโชว์เหนือและแฟตเฟสมันถึงแก่นเป็นแฟตเฟสไตรภาคแล้ว ได้มีการเติมลายเส้นแรมโบ้ พร้อมที่คาดหัวมีข้อความ "May the FATFEST be with you" ที่รูปของกรุง และหมวกดาร์ธ เวเดอร์ ที่รูปของเทพ ในการจัดงานครั้งนี้เดิมมีแนวคิดเวทีการแสดง 5 เวที ได้แก่
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนสถานที่จัดงาน จึงได้เปลี่ยนแนวคิดเวทีเป็นเสมือนวางมือซ้ายบนสถานที่จัดงาน แบ่งออกเป็น 5 เวทีตามนิ้ว คือ ก้อย นาง กลาง ชี้ และโป้ง โดยศิลปินทุกวงต้องมี "มุขควาย" วงละ 1 มุข ดีเจแฟตจะเป็นผู้ตัดสินว่ามุขของศิลปินวงใดโดนใจที่สุด รางวัลคือสปอตโปรโมทวงทางคลื่นแฟต นอกจากนี้ยังมี บูธจำหน่ายผลงานเพลง งานศิลปะ อนุสาวรีย์จ่าเฉย และจุดทำหน้ากากกรุง-เทพ ที่ใช้ชื่อบูธว่า "ขายหน้า" แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 12: เดอะ ลาสต์ แฟตเฟสแฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 12 จัดขึ้นในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี เช่นเดียวกับครั้งที่ 10 และ ครั้งที่ 11 โดยเป็นการจัดงานครั้งสุดท้ายในชื่อแฟตเฟสติวัล สัญลักษณ์ของงานเป็นการนำสัญลักษณ์ของแฟตเฟสติวัลครั้งแรกมาใช้อีกครั้ง เหตุการณ์สำคัญที่เกิดในงานครั้งนี้ คือ การกลับมาแสดงคอนเสิร์ตอีกครั้งในรอบ 3 ปี ของฟลัวร์ การเปลี่ยนแปลงคลื่นแฟต เรดิโอคลื่นแฟต เรดิโอ ประกาศปิดคลื่นวิทยุและหันไปจัดรายการออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตแทน โดยมีกำหนดการออกอากาศตั้งแต่ 26 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป โดยเฮนรี่ จ๋อง หรือ พงศ์นรินทร์ อุลิศ หัวเรือใหญ่แห่งแฟต เรดิโอ เผยว่า สาเหตุที่มีการย้ายจากวิทยุไปไว้บนออนไลน์เนื่องจากประสบปัญหาทางธุรกิจและต้องการตัดภาระค่าเช่าสถานีออก[4] ก่อนหน้านี้ Fat Radio ได้ปรับตัวเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางธุรกิจออกเช่น การลดเงินเดือนพนักงาน การปรับลดจำนวนดีเจ การยกเลิกการจัดงาน Fat Festivalโดย Fat Radio ได้ย้ายสถานีวิทยุจากคลื่นความถี่ 104.5 มาเป็น 98.0 เมื่อต้นเดือนตุลาคมปี 2556 แต่ก็ต้องประกาศปิดการให้บริการทางวิทยุ และให้รับฟังทางอินเทอร์เน็ตแทน[5] [6] ปัจจุบันแฟต เรดิโอ กลับมาในนามภายใต้ชื่อ แคท เรดิโอ (Cat Radio) และยังคงเป็นทีมงานและดีเจชุดเดิมที่ผลิตจากแฟต เรดิโออีกด้วย [7] อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|