Operating system
แอนดรอยด์ (อังกฤษ : Android ) เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานอยู่บนลินุกซ์ ในอดีตถูกออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้จอสัมผัส เช่นสมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันได้แพร่ไปยังอุปกรณ์หลายชนิดเพราะเป็นมาตรฐานเปิด เช่น Nikon S800C กล้องดิจิทัลระบบแอนดรอยด์ หม้อหุงข้าว Panasonic ระบบแอนดรอยด์ และ Smart TV ระบบแอนดรอยด์ รวมถึงกล่องเสียบต่อ TV ทำให้สามารถใช้ระบบแอนดรอยด์ได้ด้วย Android Wear นาฬิกาข้อมือระบบแอนดรอด์ เป็นต้น ถูกคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท แอนดรอยด์ (Android, Inc.) ซึ่งต่อมา กูเกิล ได้ทำการซื้อต่อบริษัทในปี พ.ศ. 2548[ 10] แอนดรอยด์ถูกเปิดตัวเมื่อ ปี พ.ศ. 2550 พร้อมกับการก่อตั้งโอเพนแฮนด์เซตอัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มของบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์ , ซอฟต์แวร์ และการสื่อสารคมนาคม ที่ร่วมมือกันสร้างมาตรฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์พกพา[ 11] โดยสมาร์ตโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครื่องแรกของโลกคือ เอชทีซี ดรีม วางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2551[ 12]
แอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์ซ และกูเกิลได้เผยแพร่ภายใต้ลิขสิทธิ์อาปาเช[ 13] ซึ่งโอเพนซอร์ซจะอนุญาตให้ผู้ผลิตปรับแต่งและวางจำหน่ายได้ (ภายใต้เงื่อนไขที่กูเกิลกำหนด) รวมไปถึงนักพัฒนาและผู้ให้บริการเครือข่ายด้วย อีกทั้งแอนดรอยด์ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่รวมนักพัฒนาที่เขียนโปรแกรมประยุกต์ มากมาย ภายใต้ภาษาจาวา [ 14] ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2555 มีโปรแกรมมากกว่า 700,000 โปรแกรมสำหรับแอนดรอยด์ และยอดดาวน์โหลดจากกูเกิล เพลย์ มากถึง 2.5 หมื่นล้านครั้ง[ 15] [ 16] จากการสำรวจในช่วงเดือน เมษายน ถึง พฤษภาคม ในปี พ.ศ. 2556 พบว่าแอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการที่นักพัฒนาเลือกที่จะพัฒนาโปรแกรมมากที่สุด ถึง 71%[ 17]
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้แอนดรอยด์เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน[ 18] นำหน้าซิมเบียน ในไตรมาสที่ 4 ของปี พ.ศ. 2553[ 19] และยังเป็นทางเลือกของผู้ผลิตที่จะใช้ซอฟต์แวร์ ที่มีราคาต่ำ, ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดี สำหรับอุปกรณ์ในสมัยใหม่[ 20] แม้ว่าแอนดรอยด์จะดูเหมือนได้รับการพัฒนาเพื่อใช้กับสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต แต่มันยังสามารถใช้ได้กับโทรทัศน์ , เครื่องเล่นวิดีโอเกม , กล้องดิจิทัล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ แอนดรอยด์เป็นระบบเปิด ทำให้นักพัฒนาสามารถพัฒนาคุณสมบัติใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา[ 21]
ส่วนแบ่งทางการตลาดของสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ นำโดยซัมซุง มากถึง 64% ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556[ 22] เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 มีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์มากถึง 11,868 รุ่น จาก 8 เวอร์ชันของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์[ 23] ความสำเร็จของระบบปฏิบัติการทำให้เกิดคดีด้านการละเมิดสิทธิบัตรที่เรียกกันว่า "สงครามสมาร์ตโฟน" (smartphone wars) ระหว่างบริษัทผู้ผลิต[ 24] [ 25] ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 โปรแกรม 4.8 หมื่นล้านโปรแกรมได้รับการติดตั้งบนอุปกรณ์จากกูเกิล เพลย์[ 26] [ 27] และในวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 มีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 1 พันล้านเครื่อง ได้ถูกเปิดใช้งาน[ 28]
ประวัติ
โลโก้แอนดรอยด์รุ่นที่ 1 (2008–2014)
โลโก้แอนดรอยด์รุ่นที่ 2 (2014–2015)
โลโก้แอนดรอยด์รุ่นที่ 3 (2015–2019)
โลโก้แอนดรอยด์รุ่นที่ 4 (2019–2023)
โลโก้แอนดรอยด์รุ่นที่ 5 (2023-ปัจจุบัน)
บริษัทแอนดรอยด์ ก่อตั้งขึ้นที่พาโลอัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 โดยแอนดี รูบิน (ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแดนเจอร์), [ 29] ริช ไมเนอร์ (ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไวลด์ไฟร์คอมมูนิเคชัน),[ 30] นิก เซียส์[ 31] (ซึ่งเคยเป็นรองผู้จัดการที่ทีโมบายล์) และ คริส ไวท์ (หัวหน้าฝ่ายออกแบบและการพัฒนาอินเตอร์เฟซ ที่เว็บทีวี)[ 10] สำหรับการพัฒนานั้น จากคำพูดของรูบิน "โทรศัพท์มือถือที่มีความฉลาดขึ้นและตระหนักถึงสถานที่ของเจ้าของมากขึ้น"[ 10] จุดประสงค์แรกของบริษัทคือการพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับกล้องดิจิทัล แต่เมื่อถูกตระหนักว่าไม่ใช่ตลาดที่กว้างพอ และต่อมาได้เบี่ยงเบนความพยายามเพื่อที่จะทำระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ตโฟน เพื่อแข่งกับซิมเบียน และ วินโดวส์โมบาย (ในขณะนั้น ไอโฟน ยังไม่ได้วางขาย)[ 32] แม้จะมีประวัติความสำเร็จของผู้ก่อตั้งและพนักงานของบริษัทในช่วงแรก บริษัทแอนดรอยด์ ได้ดำเนินการอย่างเงียบๆ ให้เห็นเพียงว่าเป็นบริษัทที่ผลิตระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือ[ 10] ในปีเดียวกัน รูบิน ไม่มีเงินเหลือแล้ว สตีฟ เพอร์ลแมน เพื่อนสนิทของรูบิน ได้ให้ยืมเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยส่งเงินใส่ในซองมาให้ และ ปฏิเสธที่จะถือหุ้นในบริษัท[ 33]
กูเกิล ได้ซื้อกิจการบริษัทแอนดรอยด์ ในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2548 เพื่อให้มาเป็นบริษัทย่อยในเครือของกูเกิล โดยบุคคลสำคัญของบริษัทแอนดรอยด์ ทั้ง รูบิน, ไมเนอร์ และ ไวท์ ยังอยู่กับบริษัทหลังจากถูกซื้อกิจการ[ 10] มีผู้คนไม่มากที่รู้จักบริษัทแอนดรอยด์ ในช่วงเวลานั้น แต่หลายคนสันนิษฐานว่ากูเกิลกำลังวางแผนที่จะเข้ามาสู่ตลาดโทรศัพท์มือถือจากการซื้อกิจการครั้งนี้[ 10] ที่กูเกิล รูบินนำทีมที่จะพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือซึ่งขับเคลื่อนโดยลินุกซ์ เคอร์เนล ในตลาดมือถือของกูเกิล จะมีสัญญากับผู้ให้บริการเครือข่าย ต่อมากูเกิลได้เริ่มวางแผนในเรื่องของส่วนประกอบฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และผู้ให้บริการเครือข่าย[ 34] [ 35] [ 36]
ความตั้งใจของกูเกิล ที่จะเข้าสู่ตลาดเครื่องมือสื่อสาร อย่างโทรศัพท์มือถือได้มาถึงช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549[ 37] ตามรายงานของบีบีซี และ วอลล์สตรีตเจอร์นัล ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กูเกิลพยายามที่จะผลิตโทรศัพท์มือถือที่ใช้สำหรับค้นหา และ ใช้โปรแกรมประยุกต์ หรือ แอปพลิเคชันได้ และกูเกิลได้ทำงานอย่างหนักเพื่อสิ่งนี้ และมีข่าวลือว่า กูเกิลจะพัฒนาโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อสินค้าของตนเอง บางคนก็สันนิษฐานว่ากูเกิลจะกำหนดคุณสมบัติต่างๆ ของโทรศัพท์มือถือ และส่งให้กับผู้ผลิต และ ผู้ให้บริการเครือข่าย ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2550 อินฟอร์เมชันวีก (InformationWeek) ร่วมมือกับ เอแวลูเซิร์ฟ (Evalueserve) เพื่อที่จะศึกษารายงานของกูเกิลในการยื่นสิทธิบัตรเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ[ 38] [ 39]
ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โอเพนแฮนด์เซตอัลไลแอนซ์ ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรในด้านเทคโนโลยี ซึ่งรวมไปด้วยกูเกิล กับผู้ผลิตอุปกรณ์เช่น เอชทีซี , โซนี่ และ ซัมซุง รวมไปถึงผู้ให้บริการเครือข่ายเช่น สปรินต์ เน็กเทล และ ที-โมบายล์ และบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์เช่น ควอล์คอมม์ และ เท็กซัสอินสตรูเมนส์ ได้เปิดเผยในเป้าหมายเพื่อการพัฒนาโทรศัพท์มือถือที่มีมาตรฐานเปิด[ 11] ในวันเดียวกัน แอนดรอยด์ได้เปิดตัวสินค้าชิ้นแรก ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือ สร้างบนลินุกซ์ เคอร์เนล 2.6[ 11] ส่วนโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์คือเอชทีซี ดรีม เปิดตัวเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2551[ 40]
ในปี พ.ศ. 2553 กูเกิลได้เปิดตัว กูเกิล เน็กซัส ซึ่งเป็นซีรีส์หรือตระกูลของอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์โดยไม่ปรับแต่งใดๆ จากผู้ผลิต ซึ่งผลิตโดยผู้ผลิตที่เป็นพาร์ตเนอร์กับกูเกิล โดยเอชทีซี ร่วมมือกับกูเกิล ในการเปิดตัวสมาร์ตโฟนเน็กซัสรุ่นแรก[ 41] มีชื่อว่า เน็กซัสวัน โดยซีรีส์นี้จะได้รับการอัปเดตรุ่นใหม่ก่อนอุปกรณ์อื่นๆ กูเกิลได้เปิดตัวโทรศัพท์และแท็บเล็ต ซึ่งเป็นรุ่นเรือธง ของแอนดรอยด์ โดยจะใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รุ่นล่าสุดของแอนดรอยด์ ต่อมาในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556 แอนดี รูบิน ได้ถูกย้ายจากฝ่ายแอนดรอยด์ ไปยังฝ่ายการผลิตใหม่ของกูเกิล[ 42] ซึ่งตำแหน่งของรูบิน ถูกแทนที่ด้วยซันดาร์ พิชัย ที่จะทำงานในตำแหน่งหัวหน้าของฝ่ายกูเกิล โครมด้วย ซึ่งเขาเป็นผู้พัฒนาโครมโอเอส[ 43]
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 แอนดรอยด์ได้ใช้การอัปเดตแบบเรียงตามเลขรุ่น ซึ่งจะมีการปรับปรุงส่วนต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ, เพิ่มคุณสมบัติใหม่ และ แก้ไขข้อผิดพลาดในรุ่นก่อนหน้า โดยแต่ละรุ่นจะมีชื่อเฉพาะเรียงตามลำดับตัวอักษรและจะใช้ชื่อจากขนมหวาน เช่น รุ่น 1.5 "คัพเค้ก" 1.6 "โดนัท" รุ่น 4.3 "เจลลีบีน" และรุ่น 4.4 "คิทแคท " ซึ่งได้เปิดตัวเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556[ 44] [ 45]
ในปี พ.ศ. 2557 กูเกิลเปิดตัว "Android L"[ 46] (ต่อมาใช้ชื่อว่า โลลิป๊อป)[ 47] และเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 กูเกิลได้เปิดตัวแอนดรอยด์รุ่นใหม่ในชื่อ "Android M"[ 48] [ 49] (ต่อมาใช้ชื่อว่า มาร์ชเมลโลว)[ 50] [ 51]
ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2559 กูเกิลเปิดตัว แอนดรอยด์ 7.0 "นูกัต" อย่างเป็นทางการ[ 52] [ 53] โดยสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมกับแอนดรอยด์เวอร์ชันนี้คือ แอลจี วี20[ 54] [ 55]
โลโก้แอนดรอยด์ใช้ในปี 2023-ปัจจุบัน
จากนั้น ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2562 กูเกิลได้ยกเลิกการใช้ชื่อเล่น Android ที่เป็นชื่อขนมหวานตั้งแต่รุ่นที่ 10 เป็นต้นไป ดังนั้น Android ที่เป็นชื่อเล่น Q จะถูกเรียกว่า Android 10 พร้อมทั้งเปลี่ยนโลโก้ Android แบบใหม่ และฟอนต์ให้แตกต่างจากเดิมเพียงเล็กน้อย[ 56] [ 57]
รายละเอียด
หน้าตาของระบบ
ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (user interface) ของแอนดรอยด์ มีพื้นฐานอยู่บนอินเตอร์เฟซแบบไดเรกต์มานิพูเลชัน (Direct manipulation)[ 58] ซึ่งจะใช้การสัมผัสที่สอดคล้องกับการกระทำในโลกความจริง เช่นการปัด, การแตะ, การกวาดนิ้ว รวมไปถึงการใช้นิ้วหมุนบนหน้าจอ[ 58] การตอบสนองการสัมผัสนี้ ได้รับการออกแบบมาอย่างดี และมักจะใช้การสั่นของอุปกรณ์ตอบโต้ว่าผู้ใช้ได้สัมผัสแล้ว ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมภายในเช่น เข็มทิศดิจิทัล, ไจโรสโคป และ เซ็นเซอร์วัดแสง จะได้รับการนำมาใช้เพิ่มเติมในการตอบสนองต่างๆ กับผู้ใช้ เช่นการหมุนหน้าจอจากแนวตั้งเป็นแนวนอน หรือการเล่นเกมแข่งรถที่ต้องใช้การหมุนอุปกรณ์ เป็นต้น[ 59]
อุปกรณ์แอนดรอยด์จะบูตเข้าหน้าหลัก ซึ่งเป็นหน้าจอหลักในการนำทางไปทุกๆ ที่ในอุปกรณ์ เหมือนกับเดสก์ท็อป บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หน้าจอหลักของแอนดรอยด์จะสามารถวางไอคอนของแอปพลิเคชัน และ วิดเจ็ต โดยไอคอนของแอปพลิเคชันนั้นสามารถแตะเพื่อกดเข้าแอปพลิเคชันได้โดยตรง, สภาพอากาศและพยากรณ์อากาศที่อัปเดตอยู่ตลอดเวลา, กล่องขาเข้าของอีเมล รวมไปถึงหน้าจอข่าวด้วย[ 60] หน้าจอหลักสามารถสร้างได้หลายหน้า โดยผู้ใช้สามารถปัดเพื่อเลื่อนไป-มา ระหว่างหน้าได้ แม้ว่าหน้าจอหลักของแอนดรอยด์ที่จะสามารถให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ เพื่อที่จะให้ผู้ใช้รู้สึกดีตามรสนิยมของตนเอง แอปพลิเคชันอื่นๆ มีให้ดาวน์โหลดบนกูเกิล เพลย์ และแอปหลายตัวสามารถที่จะเปลี่ยนรูปแบบหรือธีม ของหน้าจอหลักได้ แม้กระทั่งการเปลี่ยนหน้าจอเลียนแบบระบบปฏิบัติการอื่นๆ เช่นวินโดวส์โฟน [ 61] ผู้ผลิตต่างๆ และ ผู้ให้บริการเครือข่ายบางราย จะปรับแต่งให้หน้าตาของหน้าจอหลักเปลี่ยนไปจากเดิม เพื่อให้แตกต่างจากคู่แข่งของพวกเขา[ 62]
ด้านบนของหน้าจอจะเป็นแถบสถานะ ซึ่งจะแสดงถึงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์ และ การเชื่อมต่อต่างๆ แถบสถานะสามารถดึงลงมาเพื่อที่จะสแดงการแจ้งเตือนบนหน้าจอเมื่อแอปพลิเคชันแจ้งเตือนข้อมูลหรือมีอัปเดต เช่นการได้รับข้อความใหม่[ 63] ในรุ่นก่อนๆ ของแอนดรอยด์ สามารถแตะที่การแจ้งเตือนเพื่อเปิดแอปพลิเคชันได้โดยตรง แต่รุ่นล่าสุดได้เพิ่มคุณสมบัติการทำงานที่มากขึ้น เช่นความสามารถในการโทรกลับจากการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับโดยไม่ต้องเปิดแอปโทรศัพท์[ 64] การแจ้งเตือนจะหายไปเมื่อผู้ใช้อ่าน หรือ ทำการลบการแจ้งเตือน
แอปพลิเคชัน (โปรแกรมประยุกต์)
แอนดรอยด์มีแอปพลิเคชันที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อและดาวน์โหลดได้จากกูเกิล เพลย์ หรือ แอมะซอน แอปสโตร์ และสามารถที่จะดาวน์โหลดไฟล์ APK ได้จากเว็บไซต์ต่างๆ[ 65] แอปพลิเคชันจากเพลย์สโตร์อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด และ อัปเดต ได้จากกูเกิล และ นักพัฒนาที่พัฒนาแอปนั้นๆ รวมไปถึงความสามารถในการติดตั้งกับอุปกรณ์ที่สามารถเข้ากันได้กับแอปพลิเคชัน[ 66] ซึ่งนักพัฒนาอาจจำกัดด้วยเหตุผลทางด้านอุปกรณ์, ประเทศ หรือเหตุผลทางธุรกิจ[ 67] เมื่อซื้อแอปแล้วสามารถขอคืนเงินได้ภายใน 15 นาที หลังจากการดาวน์โหลด[ 68] และบางผู้ให้บริการจะเก็บเงินด้วยใบเสร็จจากการซื้อแอปบนกูเกิล เพลย์ ซึ่งจะคิดเงินเพิ่มเติมจากค่าใช้บริการรายเดือนปกติ[ 69] ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2555 แอปพลิเคชันสำหรับแอนดรอยด์มีมากถึง 675,000 แอป และมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจากเพลย์สโตร์ทั้งหมด 2.5 พันล้านครั้ง[ 70]
แอปพลิเคชันจะเขียนโดยใช้ภาษาจาวา และใช้แอนดรอยด์ซอฟต์แวร์เดเวล็อปเมนต์ คิต (Android software development kit) หรือ SDK โดยเอสดีเคจะประกอบด้วยชุดเครื่องมือต่างๆ นานาในการพัฒนาแอปพลิเคชัน[ 71] รวมไปด้วยตัวรีบัก, แหล่งรวมซอฟต์แวร์ต่างๆ, ตัวจำลองแฮนด์เซต, โคดจำลอง และวิธีใช้ต่างๆ
ส่วนในประเทศจีน นั้น จะมีการจำกัดการใช้อินเทอร์เน็ตต่างๆ ของทางรัฐ โดยอุปกรณ์แอนดรอยด์ที่วางขายในประเทศจีนนั้นจะถูกจำกัดบริการบางอย่าง และ จะมีเพียงแค่บริการที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลแล้วเท่านั้น[ 72] .
การจัดการหน่วยความจำ
อุปกรณ์แอนดรอยด์นั้นจะมีการใช้งานแบตเตอรี ทำให้แอนดรอยด์ได้รับการออกแบบเพื่อจัดารหน่วยความจำ หรือ แรม สำหรับการใช้พลังงานที่น้อยที่สุด ในทางตรงข้ามกันกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งจะมีพลังงานให้ใช้ได้อย่างไม่จำกัด เมื่อแอปพลิเคชันของแอนดรอยด์ไม่ได้ใช้งาน ระบบจะจัดการจัดเก็บไว้ในหน่วยความจำ (เมื่อเปิดแอปพลิเคชันทิ้งไว้ในการใช้งาน)[ 73]
แอนดรอยด์จะจัดการแอปพลิเคชันในหน่วยความจำอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อแรมเหลือน้อย ระบบจะจัดการปิดแอปพลิเคชันและบริการต่างๆ ที่กำลังทำงานอยู่ทันที โดยกระบวนการนี้ผู้ใช้จะไม่สามารถมองเห็นมันได้[ 74] อย่างไรก็ตามจะมีแอปพลิเคชันบนกูเกิล เพลย์ ที่จะสามารถจัดการและปิดแอปพลิเคชันได้ ซึ่งคาดกันว่าให้ผลร้ายมากกว่าผลดี[ 75]
รุ่น
รายละเอียดรุ่นของแอนดรอยด์ 4 ตุลาคม 2566 รุ่นพัฒนาของแอนดรอยด์จะใช้รหัสชื่อเป็นโค้ดเนม โดยมีตัวอักษรขึ้นต้นเรียงลำดับกัน
รุ่น
ชื่อเล่น
ระดับเอพีไอ
ลินุกซ์ เคอร์เนล
ระยะการสนับสนุน
เปิดตัว
Android 1.0
(Alpha) (แอลฟ่า)
1
2.1
เลิกสนับสนุน
23 กันยายน 2551
Android 1.1
(Beta) (เบตา)
2
2.6
9 กุมภาพันธ์ 2552
Android 1.5
Cupcake (คัพเค้ก )
3
2.6.27
30 เมษายน 2552[ 76]
Android 1.6
Donut (โดนัท )
4
2.6.29
15 สิงหาคม 2552 (SDK)
Android 2.0
Eclair (เอแกลร์ )
5
2.6.29
26 ตุลาคม 2552[ 77]
Android 2.0.1
6
2.6.29
3 ธันวาคม 2552
Android 2.1
7
2.6.29
12 มกราคม 2553 (SDK) [ 78]
Android 2.2
Froyo (โฟรซเซนโยเกิร์ต )
8
2.6.32[ 79]
20 พฤษภาคม 2553 (SDK)
Android 2.3
Gingerbread (ขนมปังขิง )
9
2.6.35[ 80]
6 ธันวาคม 2553 (SDK)
Android 2.3.3
10
2.6.35
9 กุมภาพันธ์ 2554 (SDK)
Android 3.0
Honeycomb (ฮันนีโคม )
11
2.6.36[ 81]
22 กุมภาพันธ์ 2554 (SDK)
Android 3.1
12
2.6.36
10 พฤษภาคม 2554 (SDK)
Android 3.2
13
2.6.36
15 กรกฎาคม 2554 (SDK)
Android 4.0
Ice Cream Sandwich (ไอศกรีมแซนวิช )
14
3.0.1[ 82]
19 ตุลาคม 2554 (SDK)
Android 4.0.3
15
16 ธันวาคม 2554 (SDK)
Android 4.1
Jelly Bean (เจลลีบีน )
16
3.0.31
28 มิถุนายน 2555
Android 4.2
17
3.4.0
29 ตุลาคม 2555
Android 4.3
18
3.4.0
24 กรกฎาคม 2556
Android 4.4
KitKat (คิทแคท )
19
3.10
31 ตุลาคม 2556
Android 4.4W
20
25 มิถุนายน 2557
Android 5.0
Lollipop (ลอลลีพอป)
21
3.16
15 ตุลาคม 2557
Android 5.1
22
9 มีนาคม 2558
Android 6.0
Marshmallow (มาร์ชเมลโลว์)
23
3.18
6 ตุลาคม 2558
Android 7.0
Nougat (นูกัต)
24
4.4
22 สิงหาคม 2559
Android 7.1
25
4 ตุลาคม 2559
Android 8.0
Oreo (โอรีโอ )
26
4.10
สนับสนุนระยะสุดท้าย
21 สิงหาคม 2560
Android 8.1
27
5 ธันวาคม 2560
Android 9.0
Pie (พาย)
28
4.14.42
ยังอยู่ในระยะสนับสนุน
6 สิงหาคม 2561
Android 10 (รุ่นเบตา)
Q Beta 1
Beta 1
สิ้นสุดช่วงทดลอง
ทดลองเมื่อ 13 มีนาคม 2562
Q Beta 2
Beta 2
ทดลองเมื่อ 3 เมษายน 2562
Q Beta 3
Beta 3
ทดลองเมื่อ 7 พฤษภาคม 2562
Q Beta 4
Beta 4
ทดลองเมื่อ 5 มิถุนายน 2562
Q Beta 5
Beta 5
ทดลองเมื่อ 11 กรกฎาคม 2562
Q Beta 6
Beta 6
ทดลองเมื่อ 7 สิงหาคม 2562
Android 10
Ten (เท็น)
Queen Cake (โค้ดเนม)
29
ยังอยูในระยะสนับสนุน
3 กันยายน 2562
Android 11 (รุ่นเบตา)
R Beta 1
Beta 1
อยู่ในช่วงทดลอง
ทดลองเมื่อ 10 มิถุนายน 2563
R Beta 2
Beta 2
ทดลองเมื่อ 8 กรกฎาคม 2563
R Beta 3
Beta 3
เริ่มทดลอง 6 สิงหาคม 2563
Android 11
Red Velvet Cake (โค้ดเนม)
30
5.x
เปิดตัวแล้ว
8 กันยายน 2563
Android 12
Snow Cone (โค้ดเนม)
31
5.x
4 ตุลาคม 2564
Android 12.1
โค้ดเนมเหมือน Android 12 ที่เปิดตัวในปี 2564
32
5.x
7 มีนาคม 2565
Android 13
Triamisu (โค้ดเนม)
33
5.x
15 สิงหาคม 2565
Android 14
Upside Down Cake (โค้ดเนม)
34
5.x
4 ตุลาคม 2566
สัดส่วนผู้ใช้แอนดรอยด์ ณ วันที่ 7 กรกฎาคม 2562[ 83]
ข้อมูลอัปเดตล่าสุดวันที่ 30 มกราคม 2020
ปริมาณผู้ใช้
สนับสนุน
Android 1
0.02%
NO
Android 2
0.03%
Android 3
0.01%
Android 4
0.60%
Android 4.4
1.47%
Android 5
1.04%
Android 5.1
3.99%
Android 6
7.57%
Android 7
7.64%
Android 7.1
5.62%
Android 8
11.27%
Last term
Android 8.1
14.45%
Android 9
22.56%
Yes
Android 10
0.36%
Yes
ภาพหน้าจอหลัก
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Programming Languages
↑ Morrill, Dan (September 23, 2008). "Announcing the Android 1.0 SDK, release 1" . Android Developers Blog . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ March 5, 2017. สืบค้นเมื่อ March 11, 2017 .
↑ "Release notes" . Android Developers (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2024-12-18 .
↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ Languages
↑ "android/platform/bionic/" . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 3, 2017.
↑ "android/platform/external/mksh/" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ January 21, 2016.
↑ "android/platform/external/toybox/toys/" . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ March 14, 2016.
↑ "Android gets a toybox" . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2016.
↑ "Licenses" . Android Source . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ December 15, 2016. สืบค้นเมื่อ March 11, 2017 .
↑ 10.0 10.1 10.2 10.3 10.4 10.5 Elgin, Ben (August 17, 2005). "Google Buys Android for Its Mobile Arsenal" . Bloomberg Businessweek . Bloomberg. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-02-24. สืบค้นเมื่อ 2012-02-20 . In what could be a key move in its nascent wireless strategy, Google (GOOG) has quietly acquired startup Android, Inc., ...
↑ 11.0 11.1 11.2 "Industry Leaders Announce Open Platform for Mobile Devices" (Press release). Open Handset Alliance . November 5, 2007. สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ "T-Mobile G1 Spec" . Infosite and comparisons . GSM Arena. สืบค้นเมื่อ September 12, 2012 .
↑ "Android Overview" . Open Handset Alliance. สืบค้นเมื่อ 2012-02-15 .
↑ Shankland, Stephen (November 12, 2007). "Google's Android parts ways with Java industry group" . CNET News . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-12-28. สืบค้นเมื่อ 2012-02-15 .
↑ "Google Play Matches Apple's iOS With 700,000 Apps" .
↑ "Google Play hits 25 billion downloads | Official Android Blog" .
↑ Developer Economics Q3 2013 analyst report – http://www.visionmobile.com/DevEcon3Q13 เก็บถาวร 2013-09-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน – Retrieved July 2013
↑ "Google's Android becomes the world's leading smart phone platform" . Canalys . January 31, 2011. สืบค้นเมื่อ 2012-02-15 .
↑ "Android steals Symbian's top smartphone OS crown" . Phonearena.com. สืบค้นเมื่อ 2013-05-14 .
↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ ars5th
↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ apolroms
↑ Ingrid Lunden (July 1, 2013). "Android, Led By Samsung, Continues To Storm The Smartphone Market, Pushing A Global 70% Market Share" . TechCrunch . AOL Inc. สืบค้นเมื่อ July 2, 2013 .
↑ Arthur, Charles (July 30, 2013). "Android fragmentation 'worse than ever' – but OpenSignal says that's good" . The Guardian. สืบค้นเมื่อ August 1, 2013 .
↑ Reardon, Marguerite (2011-08-15). "Google just bought itself patent protection | Signal Strength – CNET News" . News.cnet.com. สืบค้นเมื่อ 2013-05-01 .
↑ Douglas Perry (2011-07-16). "Google Android Now on 135 Million Devices" . Tomsguide.com. สืบค้นเมื่อ 2013-05-01 .
↑ "900 million Android activations!" . YouTube. 2013-03-06. สืบค้นเมื่อ 2013-06-15 .
↑ "BBC Google activations and downloads update May 2013" . News source . BBC News. สืบค้นเมื่อ May 16, 2013 .
↑ "Vic Gundotra - Google+ - Just back from a whirlwind trip to Asia visiting our…" . Plus.google.com. สืบค้นเมื่อ 2013-09-03 .
↑ Markoff, John (November 4, 2007). "I, Robot: The Man Behind the Google Phone" . The New York Times . สืบค้นเมื่อ 2012-02-15 .
↑ Kirsner, Scott (September 2, 2007). "Introducing the Google Phone" . The Boston Globe . เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-01-04. สืบค้นเมื่อ 2012-02-15 .
↑ Vogelstein, Fred (April 2011). "How the Android Ecosystem Threatens the iPhone" . Wired . สืบค้นเมื่อ June 2, 2012 .
↑ Chris Welch (2013-04-16). "Before it took over smartphones, Android was originally destined for cameras" . The Verge. สืบค้นเมื่อ 2013-05-01 .
↑ Vance, Ashlee (27 July 2011). "Steve Perlman's Wireless Fix" . Bloomberg Businessweek . Bloomberg. สืบค้นเมื่อ 3 November 2012 .
↑ Block, Ryan (August 28, 2007). "Google is working on a mobile OS, and it's due out shortly" . Engadget . สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ Sharma, Amol; Delaney, Kevin J. (August 2, 2007). "Google Pushes Tailored Phones To Win Lucrative Ad Market" . The Wall Street Journal . สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ "Google admits to mobile phone plan" . directtraffic.org . Google News. March 20, 2007. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-07-03. สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ McKay, Martha (December 21, 2006). "Can iPhone become your phone?; Linksys introduces versatile line for cordless service" . The Record (Bergen County) . p. L9. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-02-05. สืบค้นเมื่อ 2012-02-21 . And don't hold your breath, but the same cell phone-obsessed tech watchers say it won't be long before Google jumps headfirst into the phone biz. Phone, anyone?
↑ Claburn, Thomas (September 19, 2007). "Google's Secret Patent Portfolio Predicts gPhone" . InformationWeek . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-03-17. สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ Pearce, James Quintana (September 20, 2007). "Google's Strong Mobile-Related Patent Portfolio" . mocoNews.net . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2008-12-16. สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ "T-Mobile Unveils the T-Mobile G1 – the First Phone Powered by Android" . HTC. September 23, 2008. เก็บ จากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-12. สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 . AT&T's first device to run Android was the Motorola Backflip.
↑ Richard Wray (March 14, 2010). "Google forced to delay British launch of Nexus phone" . London: guardian.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2012-02-17 .
↑ Charles Arthur. "Andy Rubin moved from Android to take on 'moonshots' at Google | Technology | guardian.co.uk" . Guardian. สืบค้นเมื่อ 2013-03-14 .
↑ Page, Larry. "Official Blog: Update from the CEO" . Googleblog.blogspot.co.uk. สืบค้นเมื่อ 2013-03-14 .
↑ "KitKat mocks Apple with Android 4.4 parody video" . The Verge . สืบค้นเมื่อ 4 September 2013 .
↑ Cunningham, Andrew (2013-07-24). "Android 4.3 announced, bringing incremental changes to Jelly Bean (Wired UK)" . Wired.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-07-28. สืบค้นเมื่อ 2013-08-08 .
↑ "เผยโฉม Android L ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดจาก Google" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2014-07-17. สืบค้นเมื่อ 2015-05-29 .
↑ Android - 5.0 Lollipop
↑ [IO15 เผยโฉม Android M Developer Preview ขนมชิ้นใหม่ของ Android น่ากินยังไงบ้าง]
↑ Google Announces Android M At Google I/O 2015
↑ Android M's name is Marshmallow, and it's version 6.0
↑ เปิดเผยแล้ว Android M = Marshmallow พร้อมคลิปเปิดตัวที่ Googleplex
↑ Android 7.0 Nougat release: Everything you need to know - Pocket-lint
↑ "Google เปิดตัวเว็บไซต์ Android 7.0 Nougat พร้อมปล่อยอัปเดตให้อุปกรณ์ Nexus แล้ว - Droidsans" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-08-24. สืบค้นเมื่อ 2016-08-23 .
↑ "Google ประกาศเอง LG V20 จะเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกที่มาพร้อม Android 7.0 Nougat ตั้งแต่แกะกล่อง - Droidsans" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2016-08-25. สืบค้นเมื่อ 2016-08-23 .
↑ Google confirms LG V20 first to run Nougat, not the next-gen Nexus - Android Authority
↑ Bohn, Dieter (2019-08-22). "Google deserts desserts: Android 10 is the official name for Android Q" . The Verge . สืบค้นเมื่อ 2019-08-22 .
↑ Amadeo, Ron (2019-08-22). "Unsweetened: Android swaps sugary codenames for boring numbers" . Ars Technica . สืบค้นเมื่อ 2019-08-22 .
↑ 58.0 58.1 "Touch Devices | Android Open Source" . Source.android.com. สืบค้นเมื่อ 2012-09-15 .
↑ "Real Racing 2 Speeds Into The Android Market – Leaves Part 1 In The Dust" . Phandroid.com. 2011-12-22. สืบค้นเมื่อ 2012-09-15 .
↑ "Widgets | Android Developers" . Developer.android.com. สืบค้นเมื่อ 2012-09-15 .
↑ "Launcher 7 Brings Windows Phone's Simple, Attractive Interface to Android" . Lifehacker.com. 2011-05-20. สืบค้นเมื่อ 2012-11-24 .
↑ Begun, Daniel A. (March 2011) [2011]. "Dealing with fragmentation on Android devices" . Amazing Android Apps . For Dummies . Wiley . p. 7. ISBN 978-0-470-93629-0 . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2013-05-12. สืบค้นเมื่อ 2013-05-22 .
↑ "UI Overview | Android Developers" . Developer.android.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-09-15. สืบค้นเมื่อ 2012-09-15 .
↑ "Notifications | Android Developers" . Developer.android.com. สืบค้นเมื่อ 2012-09-15 .
↑ Ganapati, Priya (June 11, 2010). "Independent App Stores Take On Google's Android Market" . Wired News . สืบค้นเมื่อ 2012-02-20 .
↑ "Android Compatibility" . Android Open Source Project . สืบค้นเมื่อ 2012-02-20 .
↑ "Android Compatibility" . Android Developers . สืบค้นเมื่อ 2012-02-20 .
↑ "Returning Apps" . Google . สืบค้นเมื่อ 9 January 2012 .
↑ Chu, Eric (13 April 2011). "Android Developers Blog: New Carrier Billing Options on Android Market" . android-developers.blogspot.com. สืบค้นเมื่อ 15 May 2011 .
↑ "Google Play hits 25 Billion downloads, 675,000 apps and games" .
↑ "Tools Overview" . Android Developers . 21 July 2009.
↑ Yun Qing, Liau. "Phonemakers make Android China-friendly." ZD Net , 15 October 2012.
↑ "The truth about Android task killers and why you don't need them" . PhoneDog. 2011-06-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-10-23. สืบค้นเมื่อ 2012-10-30 .
↑ "Android PSA: Stop Using Task Killer Apps" . Phandroid.com. 2011-06-16. สืบค้นเมื่อ 2012-10-30 .
↑ "Updates" . Lifehacker.com. สืบค้นเมื่อ 2012-11-02 .
↑ Ducrohet, Xavier (27 April 2009). "Android 1.5 is here!" . Android Developers Blog . สืบค้นเมื่อ 2009-09-03 .
↑ "Android 2.0, Release 1" . Android Developers . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2009-10-28. สืบค้นเมื่อ 27 October 2009 .
↑ "Android 2.1, Release 1" . Android Developers . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2010-01-15. สืบค้นเมื่อ 17 January 2010 .
↑ Swetland, Brian (7 February 2010). "Some clarification on "the Android Kernel" " . lwn.net . สืบค้นเมื่อ 2010-02-21 .
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2012-01-21. สืบค้นเมื่อ 2011-03-03 .
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2011-02-16. สืบค้นเมื่อ 2011-03-03 .
↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" . คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม เมื่อ 2011-11-11. สืบค้นเมื่อ 2011-10-19 .
↑ Android Platfrom version
แหล่งข้อมูลอื่น
แอปพลิเคชัน รุ่นต่าง ๆ Custom distributions บูตและรีโคเวอรี เครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เป็นทางการ บริการ อื่น ๆ
บุคลากรหลัก โฆษณา การสื่อสาร ซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม เครื่องมือพัฒนา เผยแพร่สารสนเทศ สืบค้น (เพจแรงก์ ) ยุติการให้บริการ อื่น ๆ
ระบบปฏิบัติการ แบบยูนิกซ์
อื่น ๆ
เลิกพัฒนา
ปาล์มโอเอส
SavaJe
วินโดวส์โฟน
วินโดวส์ซีอี (วินโดวส์โมบาย , วินโดวส์โฟน 7 , วินโดวส์โฟน 8 , วินโดวส์โฟน 8.1 , วินโดวส์ 10 โมบายส์ )
วินโดวส์อาร์ที
ซิมเบียน (History of Symbian , MOAP (S), UIQ , S60 , S80 , S90 )
Nokia OS (S30 , S40 )
แพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้อง