การสลายของเม็ดเลือดแดง
การสลายของเม็ดเลือดแดง[1], ฮีโมไลซิส หรือ เฮโมไลซิส (อังกฤษ: Hemolysis หรือ haemolysis; /hiːˈmɒlɪsɪs/),[2] เป็นการแตก (ไลซิส; lysis) ของเซลล์เม็ดเลือดแดง (เอริโธรไซต์; erythrocyte) และปล่อยสารข้างใน (ไซโตพลาสซึม) ออกมายังสิ่งแวดล้อมโดยรอบ (เช่น พลาสมา) การสลายของเม็ดเลือดแดงอาจเกิดขึ้นได้ทั้งในร่างกาย (in vivo) และในภาวะสังเคราะห์ (in vitro) หนึ่งในสาเหตุของเฮโมไลซิสคือการออกฤทธิ์ของฮีโมไลซิน (hemolysin) สารพิษซึ่งปล่อยออกมาโดยฟังไจหรือแบคทีเรียก่อโรคบางชนิด หรืออาจเกิดจากการออกกำลังกายอย่างหนักเกินไป[3] Hemolysins damage the red blood cell's cytoplasmic membrane, causing lysis and eventually cell death.[4] ในร่างกายเฮโมไลซิสในร่างกายอาจเกิดจากโรคอื่น ๆ หลายประการ เช่นแบคทีเรียแกรมบวกหลายชนิด (เช่น Streptococcus, Enterococcus และ Staphylococcus), ปรสิตบางชนิด (เช่น Plasmodium), โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องบางชนิด (autoimmune disorders; เช่น โลหิตจางจากการสลายของเม็ดเลือดแดงอันเกิดจากยา; drug-induced hemolytic anemia),[5] โรคพันธุกรรมบางชนิด (เช่น โรคซิกเคิลเซลล์; sickle-cell disease หรือโรคจี-6-พีดีบกพร่อง; G6PD deficiency) หรือเลือดที่มีความเข้มข้นต่ำ (ไฮโปโทนิก; hypotonic ต่อเซลล์)[6] เฮโมไลซิสอาจนำไปสู่ภาวะฮีโมโกลบินในเลือด (hemoglobinemia) จากฮีโมโกลบินจำนวนมากถูกปล่อยออกมาในพลาสมาของเลือด ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการ pathogenesis ของ sepsis[7] ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อด้วยผลที่เกิดต่อระบบภูมิคุ้มกันแบบก่อเอง (innate immune system)[7] Streptococcusสปีชี่ส์หลายปีชี่ส์ของจีนัส Streptococcus ก่อให้เกิดเฮโมไลซิส แบคทีเรียกลุ่ม Streptococcal นั้นจัดแบ่งตามคุณลักษณะที่ก่อเกิดการเฮโมไลซิส (hemolytic properties) ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องปรากฏเสมอไปในร่างกาย
Enterococcusจีนัส Enterococcus ประกอบด้วยแบคทีเรียกรดแลกติก (lactic acid bacteria) ซึ่งเคยถูกจัดเป็นแกมมา-เฮโมไลติก กลุ่ม D ในจีนัส streptococcus (ด้านบน) เช่น E. faecilis (S. faecalis), E. faecium (S. faecium), E. durans (S. durans) และE. avium (S. avium). StaphylococcusStaphylococcus เป็นคอคคัส (cocci) ประเภทแกรมบวกอีกชนิดหนึ่ง โดยที่พบบ่อยที่สุดคือ S. aureus อันเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดสำหรับการติดเชื้อ "staph" และมักเฮโมไลติกใน blood agar[8] ปรสิตในกระบวนการกินอาหารของปรสิตกลุ่ม Plasmodium ทำอันตรายต่อเซลล์เม็ดเลือดแดง เช่น มาลาเรีย ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่า "เฮโมไลซิสจากปรสิต" ("parasitic hemolysis") ในงานเขียนทางการแพทย์ HELLP, pre-eclampsia หรือ eclampsia
โรคเฮโมไลติกในเด็กแรกเกิดโรคเม็ดเลือดแตกในเด็กแรกเกิด (Hemolytic disease of the newborn) เป็นโรคภูมิคุ้มกัน (autoimmune disease) ที่เกิดจากแอนติบอดีของมารดาข้ามจากรกไปยังทารกในครรภ์ กรณีพบบ่อยเมื่อมารดาเคยได้รับแอนติเจนเลือดที่มีทารกแต่ไม่พบในเธอ ซึ่งอาจมาจากการถ่ายเลือดหรือการตั้งครรภ์มาก่อนหน้า[9] โลหิตจางเฮโมไลติกในกรณีที่เสียเม็ดเลือดแดงจำนวนมากจากการเฮโมไลติดจนเป็นอันตรายร้ายแรง อาจนำไปสู่โรคโลหิตจางจากการสลายของเม็ดเลือดแดง (Hemolytic anemia) วิกฤตเฮโมไลติกวิกฤตเฮโมไลติก (Hemolytic crisis) หรือวิกฤตไฮเปอร์เฮโมไลติก (hyperhemolytic crisis) คือภาวะที่อัตราการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อันนำไปสู่โลหิตจาง (anemia), ดีซ่าน (juandice) และ reticulocytosis[10] Hemolytic crises are a major concern with sickle-cell disease and G6PD deficiency. สารพิษการที่ร่างกายย่อย Paxillus Involutus จากการทานอาจก่อให้เกิดเฮโมไลซิสได้ อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|