การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ค.ศ. 2022
การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ค.ศ. 2022 จัดขึ้นรอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน ค.ศ. 2022 และรอบที่สองในวันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2022 เพื่อเลือกตั้งทั้ง 577 ที่นั่งของสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส การเลือกตั้งครั้งนี้ได้จัดขึ้นหลังจากแอมานุแอล มาครงได้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สองในการเลือกตั้งในเดือนเมษายนของปีเดียวกัน ก่อนเลือกตั้งจะเกิดขี้นก็ได้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่ต่อจากฌ็อง กัสแต็กซ์ ซึ้งเป็นเอลีซาแบ็ต บอร์น อดีตรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลของเอดัวร์ ฟีลิปและฌ็อง กัสแต็กซ์ ผลการเลือกตั้งรอบที่หนึ่งปรากฎว่าพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีมาครงที่ชื่อว่า อ็องซ็องบล์ (Ensemble) ซึ่งนำโดยพรรคลาเรปูว์บลีก็องมาร์ช พรรคหลักฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดี นำการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 25.7% ตามมาด้วยพันธมิตรพรรคฝ่ายซ้ายที่ชื่อ สหภาพประชาชนนิเวศน์วิทยาและสังคมใหม่ (Nouvelle Union populaire écologique et sociale, ย่อเป็น NUPES) ซึ่งนำโดยฌ็อง-ลุก เมล็องชง ผู้สมัครพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 25.6% เพื่อการเลือกตั้งครั้งนี้กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสได้รับผลกระทบความขัดแย้งเกี่ยวกับวิธีการจัดสรรความแตกต่างทางการเมือง ทำให้กระทรวงมหาดไทยประกาศว่าพันธมิตรฝ่ายประธานาธิบดีนำการเลือกตั้งในรอบนี้ ในขณะที่สื่อข่าวสารเช่นเลอมงด์ ซึ่งได้ดำเนินการนับคะแนนใหม่ ได้กล่าวว่าพันธมิตรฝ่ายซ้ายเป็นพันธมิตรที่นำรอบนี้อันที่จริง ผลการรอบที่สองปรากฎว่าพันธมิตร อ็องซ็องบล์ เป็นพันธมิตรที่ได้ชนะที่นั่งมากที่สุดในสภา ในขณะที่ไม่ได้รับเสียงข้างมากเป็นเอกฉันท์เช่นในการเลือกตั้งครั้งปี ค.ศ. 2017 ส่วนพันธมิตรสหภาพประชาชนนิเวศน์วิทยาและสังคมใหม่ได้ครองอันดับที่สองเนื่องจากได้รับ 131 ที่นั่ง ในขณะที่พรรคชุมนุมแห่งชาติสร้างความประหลาดใจเนื่องจากชนะ 89 ที่นั่ง แม้ว่าวิธีการลงคะแนนเสียงแบบนี้จะไม่เอื้ออำนวยต่อพรรคหรือพันธมิตรฝ่ายขวาจัด ดั้งนั้นจึงถอดตำแหน่งของพรรคฝ่ายค้านหลักที่ถือโดยพรรคเลเรปูว์บลีแก็งในชุดของสภาที่ผ่านมา ซึ่งพรรคดังกล่าวสูญเสียที่นั่งกว่าครึ่งหนึ่ง นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งปี ค.ศ. 1988 และการลงประชามติวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี ของค.ศ. 2000 ที่ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองไม่นานไม่ได้รับเสียงข้างมากในสภา นอกจากนี้ ผู้ออกมาใช้สิทธิ์ในรอบที่สองนี้ (โดยรวม 46.2%) ยังลดลงอีกเทียบกับสถิติของการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2017 ต่อมา ตามธรรมเนียมในประเทศและตามประเพณีทางประชาธิปไตยของประเทศ เอลีซาแบ็ต บอร์นได้ยืนหนังสือลาออกสองวันหลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุดลง แต่มาครงกลับไม่รับและปฎิเสธ ทำให้บอร์นยังคงดำรงตำแหน่งต่อไป หมายเหตุ
อ้างอิง |