Share to:

 

การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ค.ศ. 2024

การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศส
ค.ศ. 2024

← ค.ศ. 2022 30 มิถุนายน 2024 (รอบที่ 1)
7 กรกฎาคม 2024 (รอบที่ 2)
ครั้งถัดไป →
← สภานิติบัญญัติฝรั่งเศส ชุดที่ 16
สภานิติบัญญัติฝรั่งเศส ชุดที่ 17 →

ทั้ง 577 ที่นั่งในสมัชชาแห่งชาติ
ต้องการ 289 ที่นั่งจึงเป็นฝ่ายข้างมาก
ลงทะเบียน49,332,709 (รอบที่ 1)
43,328,540 (รอบที่ 2)
ผู้ใช้สิทธิรอบที่ 1 : 66.7% เพิ่มขึ้น (19.21 จุด)
รอบที่ 2 : 66.6% เพิ่มขึ้น (20.40 จุด)
  First party Second party
 
ผู้นำ ผู้นำโดยร่วม กาบรีแยล อาตาล
พรรค เรอแนซ็องส์
พันธมิตร
ร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐ (ดูรายชื่อพรรค)
ผู้นำตั้งแต่ 10 มิถุนายน 2024[a]
เขตของผู้นำ จังหวัดโอดแซน เขตที่ 10
เลือกตั้งล่าสุด 131 ที่นั่ง, 31.6% 151 ที่นั่ง, 31.6%
ที่นั่งก่อนหน้า 149 250
ที่นั่งที่ชนะ 180 159
ที่นั่งเปลี่ยน เพิ่มขึ้น 49 ลดลง 86
รอบที่ 1
%
9,042,485
28.2%
6,820,446
21.2%
รอบที่ 2
%
7,040,232
25.8%
6,692,365
24.5%

  Third party Fourth party
 
ผู้นำ จอร์ดัน บาร์เดลลา ผู้นำโดยความขัดแย้ง[b]
พรรค แนวร่วมแห่งชาติ เลเรปูว์บลีแก็ง
พันธมิตร
แนวร่วมแห่งชาติ/สหภาพขวาจัด[c] (ดูรายชื่อพรรค)
  • แนวร่วมแห่งชาติ
  • ผู้คัดค้านเลเรปูว์บลีแก็ง
  • อนาคตฝรั่งเศส
  • เรอเพร่อนงเลอปูว์วัวร์!
ผู้นำตั้งแต่ 17 กันยายน 2022
เขตของผู้นำ ไม่ลงเลือกตั้ง
เลือกตั้งล่าสุด 89 ที่นั่ง, 17.3% 71 ที่นั่ง, 8.0%
ที่นั่งก่อนหน้า 88 61
ที่นั่งที่ชนะ 142 39
ที่นั่งเปลี่ยน เพิ่มขึ้น 53 ลดลง 32
รอบที่ 1
%
10,647,914
33.2%
2,106,166
6.5%
รอบที่ 2
%
10,110,013
37.0%
1,474,723
5.4%

แผนที่แสดงผลการเลือกตั้งรอบที่หนึ่ง

แผนที่แสดงผลการเลือกตั้งรอบที่สอง

องศ์ประกอบของสมัชชาแห่งชาติหลังการเลือกตั้ง

นายกรัฐมนตรีก่อนการเลือกตั้ง

กาบรีแยล อาตาล
เรอแนซ็องส์

ว่าที่นายกรัฐมนตรี

มีแชล บาร์เนียร์
เลเรปูว์บลีแก็ง

การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ค.ศ. 2024 จัดขึ้นรอบแรกในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2024 และรอบที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 เพื่อเลือกตั้งทั้ง 577 ที่นั่งของสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส

การเลือกตั้งครั้งนี้ได้จัดขึ้นหลังจากแอมานุแอล มาครง ประธานาธิบดี ประกาศยุบสภาชุดที่แล้วในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2024 ซึ้งเกิดขึ้นจากพ่ายแพ้อย่างหนักของพันธมิตรฝ่ายประธานาธิบดีในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรปในวันเดียวกัน

นับเป็นครั้งที่ 6 ในสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 5 ที่มีกฤษฎีกายุบสภาล่างโดยใช้มาตรา 12 ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศส การยุบสภาล่าสุดเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1997 ในช่วงสมัยแรกของประธานาธิบดีฌัก ชีรัก ซึ้งผลการเลือกตั้งครั้งนั้นปรากฎว่าพันธมิตรฝ่ายซ้ายหลายพรรคที่นำโดย ลียอแนล ฌ็อสแป็ง เลขาธิการแรกพรรคสังคมนิยมในขณะนั้น ได้ชัยชนะที่นั่งส่วนใหญ่จึงกลายเป็นฝ่ายข้างมาก และต่อจากนั้น ฌ็อสแป็งก็ได้เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดังกล่าว

ในรอบแรกของการเลือกตั้ง พรรคฝ่ายขวาจัด พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (Rassemblement national, RN) และพันธมิตรนำด้วยคะแนนเสียง 33.21% ตามมาด้วยพันธมิตรฝ่ายซ้าย แนวร่วมประชาชนใหม่ (Nouveau Front populaire, NFP) ด้วยคะแนนเสียง 28.14% ส่วนพันธมิตรฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดี ร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐ (Ensemble pour la République, ENS) ได้รับคะแนนเสียง 21.28% และพรรคเลเรปูว์บลีแก็งและผู้สมัครฝ่ายขวาต่าง ๆ ด้วยคะแนนเสียง 10.17% ในรอบนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ์โดยรวม 66.71% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ค.ศ. 1997

ในรอบที่ 2 ของการเลือกตั้ง พันธมิตรแนวร่วมประชาชนใหม่ได้ครองอันดับหนึ่งเนื่องจากได้รับที่นั่งมากกว่าคาดหวัง ต่อจากพันธมิตรร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐที่ครอบอันดับสอง ส่วนพรรคแนวร่วมแห่งชาติและพันธมิตรครองแค่อันดับที่สามเท่านั้น

หลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุด กาบรีแยล อาตาล นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะยืนหนังสือลาออกจากตำแหน่งในวันที่ต่อมาซึ้งมาครงปฎิเสธในขั้นต้นแต่มีผลในวันที่ 16 กรกฎาคม ทำให้รัฐบาลกลายเป็นรักษาการและรัฐมนตรีได้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงโหวดให้ประธานสมัชชาแห่งชาติ

หลังจากนั้น พันธมิตรแนวร่วมประชาชนใหม่เสนอชื่อนางลูซี กัสแตทซ์ ผู้อำนวยงานด้านการเงินและการจัดซื้อของกรุงปารีส แต่มาครงกลับไม่ได้ส่งความตั้งใจที่จะแต่งตั้งเธอเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยอ้างว่าต้องรอแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในกรุงปารีสให้สิ้นสุดลง จากนั้น มาครงก็เริ่มมีการปรึกษาหารือมากมายจากฝ่ายการเมืองต่าง ๆ แล้วในที่สุดก็ได้แต่งตั้งนายมีแชล บาร์เนียร์ สมาชิกพรรคเลเรปูว์บลีแก็งและอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป

เบื้องหลัง

การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ค.ศ. 2022

หลังจากแอมานุแอล มาครง ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นสมัยที่ 2 การเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติก็ตามมาในเดือนมิถุนายนของปีเดียวกัน ผลการเลือกตั้งครั้งนั้นปรากฎว่าพันธมิตร อ็องซ็องบล์ (Ensemble) ซึ้งเป็นพันธมิตรฝ่ายสนับสนุนเสียงข้างมากของประธานาธิบดีและนำโดยพรรคของประธานาธิบดี พรรคลาเรปูว์บลีก็องมาร์ช (LREM) (ต่อมาพรรคได้เปลี่ยนชื่อเป็น เรอแนซ็องส์) ได้สูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่าง ซึ้งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ค.ศ. 1997 ที่ประธานาธิบดีอยู่ในตำแหน่งไม่สามารถครองเสียงข้างมากโดยสมบูรณ์ในสมัชชาแห่งชาติได้

ในขณะเดียวกัน กลุ่มฝ่ายค้านหลัก 2 กลุ่ม ได้แก่ พันธมิตรทางฝ่ายซ้าย สหภาพประชาชนนิเวศน์วิทยาและสังคมใหม่ (Nouvelle Union Populaire écologique et sociale, นูแวลยูนียงโป๊บปูแลร์เอโกโลชีกเอโซเซียล หรือย่อเป็น NUPES, นูเพส) ซึ้งนำโดยพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซ (LFI) และทางฝ่ายขวาจัด พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) ซึ้งนำโดยมารีน เลอ แปน ก็ได้มีนั่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ไม่มีกลุ่มใดที่ได้รับเสียงข้างมากโดยสมบูรณ์

การเลือกตั้งสมาชิกฝรั่งเศสในรัฐสภายุโรป ค.ศ. 2024

ฝรั่งเศสมีการเลือกตั้งสมาชิกฝรั่งเศสเป็นผู้แทนราษฎรในรัฐสภายุโรปในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2024 เพื่อเลือก 81 คนจากทั้งหมด 720 สมาชิกในรัฐสภานั้น

ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่าพรรคแนวร่วมแห่งชาตินำโดยจอร์ดัน บาร์เดลลา ได้รับ 30 ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ หรือคะแนนกว่า 31.3% ขณะที่ทางฝ่ายประธานาธิบดีด้วยพันธมิตรเบอซวงโดโรป (Besoin d'Europe) ซึ้งนำโดยพรรคของประธานาธิบดี พรรคเรอแนซ็องส์ (RE) นั้น ได้รับ 13 ที่นั่งเท่านั้น ซึ้งเป็นความพ่ายแพ้อย่างหนักจากฝ่ายนั้น

ผลการเลือกตั้งยังไม่ได้มีการรับรองจากกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม แอมานุแอล มาครง ออกแถลงการในทีวีประกาศยุบสมัชชาแห่งชาติชุดที่ได้รับเลือกตั้งในปีค.ศ. 2022 และจัดขึ้นการเลือกตั้งครั้งใหม่ด้วยรอบที่หนึ่งในวันที่ 30 มิถุนายน และรอบที่สองในวันที่ 7 กรกฎาคม ที่จะถึงนี้[1][2][3][4]

ระบบการเลือกตั้ง

สมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวน 577 คน ซึ้งเทียบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ได้รับการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยระบบสองรอบในเขตเลือกตั้งที่มีสมาชิกเดียว

ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่คะแนนเสียงรวมมากกว่า 25% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงทะเบียนจะได้รับการเลือกตั้งในรอบแรก แต่หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้รับเสียงข้างมากก็จัดขึ้นรอบที่สองระหว่างผู้สมัครสองคนอันดับต้น ๆ บวกกับผู้สมัครคนอื่นที่ได้รับคะแนนเสียงรวมมากกว่า 12.5% ของผู้ลงคะแนนที่ลงทะเบียน

อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในรอบที่สองจะได้รับเลือก

ผลสำรวจ

กราฟแสดงคะแนนความนิยมในพันธมิตรหรือพรรคการเมือง

ผลการเลือกตั้ง

ภาพร่วม

180 12 9 1 6 159 1 39 27 142 1
NFP DVG REG ECO DVC ENS อื่น ๆ LR DVD RN-UXD DVXD
ผลการเลือกตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศส ค.ศ. 2024
พรรค/พันธมิตร รอบที่ 1 รอบที่ 2 รวมที่นั่ง +/-
คะแนนเสียง % ที่นั่ง คะแนนเสียง % ที่นั่ง
แนวร่วมประชาชนใหม่ 9,042,485 28.21
32 7,040,232 25.81
148
180 / 577
เพิ่มขึ้น 49
ร่วมกันเพื่อสาธารณรัฐ 6,820,446 21.28
2 6,692,365 24.53
157
159 / 577
ลดลง 86
แนวร่วมแห่งชาติ 9,379,092 29.26
37 8,745,063 32.05
88
125 / 577
เพิ่มขึ้น 36
เลเรปูว์บลีแก็ง 2,106,166 6.57
1 1,474,723 5.41
38
39 / 577
ลดลง 25
ผู้สมัครพรรคขวาต่าง ๆ 1,154,785 3.60
2 980,548 3.59
25
27 / 577
เพิ่มขึ้น 17
สหภาพขวาจัด 1,268,822 3.96
1 1,364,950 5.00
16
17 / 577
ใหม่
ผู้สมัครพรรคซ้ายต่าง ๆ 490,898 1.53
0 401,063 1.47
12
12 / 577
ลดลง 9
ผู้สมัครฝ่ายลัทธิภูมิภาค 310,727 0.97
0 288,201 1.06
9
9 / 577
ลดลง 1
ผู้สมัครพรรคกลางต่าง ๆ 391,423 1.22
0 177,164 0.65
6
6 / 577
เพิ่มขึ้น 2
อื่น ๆ 142,871 0.45
0 38,025 0.14
1
1 / 577
Steady
ผู้สมัครนักนิเวศวิทยา 182,478 0.57
0 37,808 0.14
1
1 / 577
Steady
ผู้สมัครพรรคขวาจัดต่าง ๆ 59,679 0.19
1 23,216 0.09
0
1 / 577
เพิ่มขึ้น 1
ผู้สมัครขวาสิทธิอธิปไตย 90,110 0.28
0 18,672 0.07
0
0 / 577
ลดลง 1
ผู้สมัครพรรคซ้ายจัดต่าง ๆ 366,594 1.14
0
0 / 577
Steady
พิชิตชัยอีกครั้ง 238,934 0.75
0
0 / 577
Steady
พรรคซ้ายหัวรุนแรง 12,434 0.04
0
0 / 577
ลดลง 1
คะแนนสมบูรณ์ 32,057,944 97.41 76 27,282,030 94.50 501 577 Steady
คะแนนเสีย 267,803 0.81 395,302 1.37
ไม่ประสงค์ลงคะแนน 582,908 1.77 1,193,011 4.13
จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 32,908,655 66.71 28,870,343 66.63
จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 49,332,709 100.00 43,328,540 100.00
ที่มา : กระทรวงมหาดไทย (Ministère de l'Intérieur)[5]

หลังการเลือกตั้ง

ปฎิกริยาประชาชนต่อผลการเลือกตั้ง ณ Place de la République (ปารีส) ในวันที่ 7 กรกฎาคม

หลังจากการเลือกตั้งสิ้นสุด กาบรีแยล อาตาล นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะยืนหนังสือลาออกจากตำแหน่งในวันที่ต่อมา แต่มาครงกลับให้อยู่ในตำแหน่งต่อเพื่อ"เสถียรภาพประเทศ"[6]

ในวันที่ 10 กรกฎาคม ค.ศ. 2024 ประธานาธิบดี แอมานุแอล มาครง ได้กล่าวภายในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ในสื่อว่า "ไม่มีกองกำลังทางการเมืองใดที่ได้รับเสียงข้างมากเพียงพอด้วยของตัวเองและกลุ่มหรือแนวร่วมที่เกิดจากการเลือกตั้งเหล่านี้ล้วนแต่เสียงข้างน้อย" และขอให้มี "เจรจาอย่างจริงใจและด้วยความภักดี" ระหว่างพรรคและแนวรวมการเมืองเพื่อ "สร้างเสียงข้างมากที่มั่นคง ซึ่งจำเป็นต้องมีพหูพจน์เพื่อประเทศ"[7] ต่อมา บุคคลสำคัญทางฝ่ายซ้ายประณามจดหมายดังกล่าวว่าเป็นการ "ปฎิเสธที่จะรับรองผลการเลือกตั้ง" ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาครง "ไม่ยอมรับความจริง" และพยายามส่งสัญญาณว่าเขาไม่อนุญาติให้แนวร่วมประชาชนใหม่เป็นผู้นำรัฐบาลหากมีสมาชิกพรรคลาฟร็องแซ็งซูมีซเข้าร่วม

ในวันที่ 16 กรกฎาคม มาครงรับหนังสือลาออกของรัฐบาลของอาตาลและรักษาการตำแหน่งจนถึงมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่[8] ทำให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีดังกล่าวไปลงคะแนนเสียงเลือกประธานสมัชชาแห่งชาติได้ ในขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นรัฐบาลรักษาการ[9]

ในวันที่ 25 กรกฎาคม วันก่อนที่จะมีการเปิดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จัดขึ้นในกรุงปารีส พันธมิตรแนวร่วมประชาชนใหม่ได้ตกลงกันในชื่อบุคคลคนหนึ่งที่จะเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ้งเป็นนางลูซี กัสแตทซ์ ผู้อำนวยงานด้านการเงินและการจัดซื้อของกรุงปารีส แต่มาครงกลับปฎิเสธการเสนอชื่อนี้ในครั้งแรก โดยอ้างว่า "ไม่มีใครชนะ" การเลือกตั้งในครั้งนี้[10] และจะจัดขี้นการปรึกษาและหารือระหว่างฝ่ายต่าง ๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล

ในวันที่ 23 สิงหาคม หลังจากการหารือกับผู้นำพรรคต่าง ๆ มาครงประกาศอีกครั้งใน 3 วันต่อมาว่าจะไม่แต่งตั้งลูซี กัสแตทซ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเนื่องจากมีความเสี่ยงจากการลงมติไม่ไว้วางใจของรัฐบาลจากพันธมิตรฝ่ายซ้าย[11]

ต่อมา ในวันที่ 2 กันยายน แอมานุแอล มาครงได้รับการเสนอชื่อของแบร์นาร์ กาซเนิฟว์ อดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคสังคมนิยม และซาเวียร์ เบอร์ทรองด์ ประธานสภาแคว้นโอดฟร็องส์ แต่สองบุคคลนี้มีการเสี่ยงจากมติไม่ไว้วางใจจากสมาชิกสมัชชาแห่งชาติเช่นกัน[12] จึงหันมาที่มีแชล บาร์เนียร์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีนีกอลา ซาร์กอซี ฌัก ชีรัก และฟร็องซัว มีแตร็องเป็นต้น ซึ่งได้มีความสนใจเป็นอย่างมากจากมาครงในวันที่ 4 กันยายน[13]

ในที่สุด ในวันที่ 5 กันยายน มาครงตัดสิ้นใจแต่งตั้งมีแชล บาร์เนียร์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป[14][15][16]

หมายเหตุ

  1. วันก่อตั้งพันธมิตร
  2. เอริก ซีอ็อตติเป็นประธานพรรคเลเรปูว์บลีแก็งแต่ได้มีการเสนอกลุ่มคู่แข่งที่มีผู้สมัครประมาณ 60 คนที่เป็นพันธมิตรกับพรรคแนวร่วมแห่งชาติโดยต่อต้านผู้สมัครประมาณ 400 คนที่คัดเลือกโดยคณะกรรมการการลงทุนแห่งชาติพรรคเลเรปูว์บลีแก็งภายใต้การกำกับดูแลของอานนี่ เจนวาร์ด, ฟร็องซัว-ซาเวียร์ เบลลามี และดาเนียล ฟาสแคล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานพรรคชั่วคราว ก่อนที่ซีอ็อตติจะกลับคืนสู่ตำแหน่งประธานและสมาชิกพรรค
  3. เป็นคำเรียกที่ใช้โดยกระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสเพื่ออ้างถึงผู้สมัครที่ร่วมลงโดยฝ่ายค้ดค้านพรรคเลเรปูว์บลีแก็งที่นำโดยเอรีก ซีอ็อตติ และที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคแนวร่วมแห่งชาติ

อ้างอิง

  1. "ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยุบสภา เตรียมเลือกตั้งใหม่ หลังแพ้ศึกชิงเก้าอี้รัฐสภายุโรป". www.thairath.co.th. 2024-06-10.
  2. ""มาครง" ประกาศยุบสภา หลังแพ้ศึกเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรป". Thai PBS.
  3. "มาครงจี้ชาวฝรั่งเศส 'เลือกให้ถูกต้อง' หลังยุบสภา". bangkokbiznews. 2024-06-10.
  4. "มาครงประกาศยุบสภา ฝรั่งเศสเตรียมเลือกตั้งฝ่ายนิติบัญญัติทันทีหลังการเลือกตั้งสหภาพยุโรป". 2024-06-09.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  5. "France entière - Elections Législatives 2024 - Publication des résultats des élections en France". www.resultats-elections.interieur.gouv.fr.
  6. "'มาครง' ขอ 'แอตตาล' นั่งนายกฯฝรั่งเศต่อ เพื่อเสถียรภาพปท. ระหว่างรอรบ.ใหม่". MATICHON ONLINE. 2024-07-08.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  7. "Lettre du Président Emmanuel Macron aux Français". elysee.fr (ภาษาฝรั่งเศส). 2024-07-10.
  8. "Macron accepts French PM Attal's resignation but asks him to stay as caretaker". www.bbc.com (ภาษาอังกฤษแบบบริติช).
  9. "L'argument comptable de la gauche pour contester l'élection étriquée de Braun-Pivet". Le HuffPost (ภาษาฝรั่งเศส). 2024-07-18.
  10. "Résultats législatives 2024 : Emmanuel Macron lance les grandes manœuvres (et assure que « personne n'a gagné »)". 20 Minutes (ภาษาฝรั่งเศส). 10 July 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
  11. "Nouveau gouvernement : Emmanuel Macron refuse de nommer Lucie Castets et lance de nouvelles consultations". Les Echos (ภาษาฝรั่งเศส). 26 August 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
  12. "Matignon: Macron "test" Cazeneuve and Bertrand, the Beaudet surprise emerges". TV5 Monde (ภาษาฝรั่งเศส). 2 September 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.[ลิงก์เสีย].
  13. "Nouveau Premier ministre: Michel Barnier, nouvelle "piste sérieuse" d'Emmanuel Macron?". BFMTV (ภาษาฝรั่งเศส). 4 September 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
  14. "Live blog: Macron names Michel Barnier new prime minister". France24 (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 5 September 2024. สืบค้นเมื่อ 5 September 2024.
  15. "มาครงแต่งตั้งมีแชล บาร์นีเย อดีตผู้เจรจาเบร็กซิต เป็นนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส". ไทยโพสต์. 2024-09-05. สืบค้นเมื่อ 2024-09-07.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  16. ""มาครง" เลือกนักการเมืองอนุรักษ์นิยมเป็นนายกฯ ฝรั่งเศสคนใหม่". PPTV HD 36. 2024-09-06. สืบค้นเมื่อ 2024-09-07.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
Kembali kehalaman sebelumnya