ครบรอบ 50 ปีสาธารณรัฐประชาชนจีน
พิธีฉลองครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยตัวแทนจากทุกภาคส่วนของกรุงปักกิ่ง (จีน: 首都各界庆祝中华人民共和国成立50周年大会) จัดขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1999 การสวนสนามทางทหารครั้งนี้เป็นการสวนสนามฉลองวันชาติครั้งที่ 13 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้นำพรรคและประเทศ รวมถึงแขกผู้มีเกียรติจากทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศได้เข้าร่วมพิธีบนหอประตูเทียนอันเหมิน นายเจียง เจ๋อหมิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ได้ตรวจพลสวนสนามในจัตุรัสเทียนอันเหมิน ในการสวนสนามครั้งนี้จัดกำลังสวนสนามทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศเป็น 52 ขบวน ประกอบด้วยภาคพื้นดิน 42 ขบวน (เดินเท้า 17 ขบวน และยานยนต์ 25 ขวน) และทางอากาศ 10 ขบวน โดยมีกำลังพลเข้าร่วมทั้งหมด 11,000 นาย พร้อมด้วยยุทโธปกรณ์หนัก 441 ชิ้น และอากาศยาน 132 ลำ หน่วยบินทหารบก นาวิกโยธิน ตำรวจติดอาวุธพิเศษ และกองหนุน ที่ก่อตั้งขึ้นในยุคการปฏิรูปและเปิดประเทศ ได้ปรากฏในการสวนสนามเป็นครั้งแรก การสวนสนามทหารดำเนินไปเป็นเวลา 65 นาที โดยมีประชาชนจากทุกภาคส่วนในกรุงปักกิ่งเข้าชมพิธีเฉลิมฉลองมากกว่า 500,000 คน ในบรรดายุทโธกรณ์ที่เข้าร่วมการสวนสนามทั้ง 42 ประเภท มีเพียง 2 ประเภทเท่านั้นที่เคยเข้าร่วมการสวนสนามฉลองวันชาติครบรอบ 35 ปีในปี ค.ศ. 1984 ส่วนที่เหลือเป็นการนำยุทโธปกรณ์ใหม่มาเข้าร่วมการสวนสนามเป็นครั้งแรก คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งนับเป็นการสวนสนามฉลองวันชาติที่ทันสมัยที่สุดในประวัติศาสตร์การทหารของจีน เมื่อเทียบกับการสวนสนามฉลองวันชาติครบรอบ 35 ปีซึ่งจัดขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อน การสวนสนามครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะอาวุธหลักในการรบ และส่วนใหญ่ของอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้ผลิตขึ้นภายในประเทศ ทั้งสองข้างของอนุสาวรีย์วีรชนมีป้ายขนาดใหญ่พื้นหลังสีแดง ตัวอักษรสีขาว ที่ระบุข้อความว่า "เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน" (庆祝中华人民共和国成立50周年) และ "ยึดมั่นในทฤษฎีอันยิ่งใหญ่ของเติ้ง เสี่ยวผิง และก้าวไปสู่ศตวรรษใหม่" (高举邓小平理论伟大旗帜迈向新世纪) สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน และสถานีวิทยุโทรทัศน์ปักกิ่งได้ถ่ายทอดสดพิธีครั้งนี้พร้อมกัน โดยมีผู้ประกาศข่าวจากรายการซินเหวินเหลียนปัว[2] คือ นางสิง จื้อปิน และนายหลัว จิง เป็นผู้บรรยาย นางยฺวี ฟาง และนายติง หราน จากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศจีน รับหน้าที่เป็นผู้บรรยายสดในสถานที่[3] ภูมิหลังพิธีสวนสนามครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1984 เนื่องจากการจัดพิธีสนามฉลองครบรอบ 40 ปีในปี ค.ศ. 1989 นั้นถูกยกเลิกไปเนื่องจากเหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน การสวนสนามครั้งนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ พิธีสวนสนามแห่งศตวรรษ (世纪大阅兵) เนื่องจากวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1999 นั้นอยู่ห่างจากการเปลี่ยนสู่คริสต์ศตวรรษที่ 21 และคริสต์สหัสวรรษที่ 3 รวมถึงแผนการเฉลิมฉลองดังกล่าวเพียงไม่กี่เดือน ก่อนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานสหัสวรรษจีนสามเดือน อนุสรณ์สถานขนาดใหญ่ได้ถูกสร้างขึ้นบนแท่นบูชาของจักรพรรดิจีนในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง รวมถึงนาฬิกาแดดโบราณของจีนซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคโบราณ กลาง และใหม่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงการสิ้นสุดสหัสวรรษที่ 2 พิธีสวนสนามครั้งนี้บัญชาการโดยพลเอก หลี่ ซินเหลียง ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง และได้รับการตรวจพลสวนสนามจากนายเจียง เจ๋อหมิน ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีน (ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำพรรค ประมุขแห่งรัฐ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด) ได้ทำการตรวจพลสวนสนาม และยังเป็นครั้งแรกที่มีการเชิญธงชาติก่อนการสวนสนามอีกด้วย เริ่มพิธีในช่วงเช้ามืดของวันที่ 1 ตุลาคม กำลังพลจำนวนกว่า 10,000 นายที่เข้าร่วมการสวนสนามได้เดินทางเข้าสู่กรุงปักกิ่งท่ามกลางสายฝน ก่อนรุ่งสางเวลา 05.00 น. สภาพอากาศได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามที่พยากรณ์ไว้ ประชาชนชาวจีนนับล้านต่างเฝ้าติดตามผ่านทางโทรทัศน์ และได้เห็นภาพท้องฟ้าเหนือจัตุรัสเทียนอันเหมินมืดครึ้มไปด้วยเมฆฝน ก่อนจะค่อย ๆ สว่างขึ้นในเวลาต่อมา ผู้บัญชาการการสวนสนามและประชาชนต่างรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง และต่างกล่าวชื่นชมการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาว่า "แม่นยำราวกับเทพเจ้า" ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมายังมณฑลพิธี เวลา 09.00 น. กรุงปักกิ่งมีสภาพอากาศปลอดโปร่งหลังฝนตกทั่วฟ้า ท้องฟ้าสดใสราวกับผ้าลินินที่เพิ่งซักใหม่ ฝนที่ตกลงมาตลอดคืนได้ชะล้างกรุงปักกิ่งให้สะอาดสดชื่นเป็นพิเศษ จัตุรัสเทียนอันเหมินงดงามด้วยป้ายแปรอักษรหลากสีสัน ธงที่โบกสะบัดเป็นแถว เวลา 09.58 น. ท่ามกลางเสียงของมาร์ชต้อนรับ นายเจียง เจ๋อหมิน นายหลี่ เผิง นายจู หรงจี้ นายหลี่ รุ่ยหวน นายหู จินทา นายเว่ย์ เจี้ยนสิง นายหลี่ หลานชิง และผู้นำพรรคและประเทศคนอื่น ๆ ได้เดินทางมาถึงปรัมพิธีบนหอประตูเทียนอันเหมิน เวลา 10:00 น. นายเจี่ย ชิ่งหลิน สมาชิกคณะกรรมาธิการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำกรุงปักกิ่ง ในฐานะพิธีกรได้ประกาศเริ่มพิธี "เฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยตัวแทนจากทุกภาคส่วนของกรุงปักกิ่ง" ทันใดนั้นป้ายแปรอักษรขนาดใหญ่ที่มีอักษรคำว่า "国庆" (วันชาติ) ได้เปลี่ยนเป็นตัวอักษรสีแดงบนพื้นเหลือง หลังจากการยิงสลุต 50 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจติดอาวุธและทหารกองเกียรติยศจำนวน 200 นายได้อารักขาธงชาติลงจากอนุสาวรีย์วีรชน เดินอ้อมภาพเหมือนของดร.ซุน ยัตเซ็น และเดินตบเท้าไปตามแนวแกนกลางจัตุรัสสู่บริเวณเชิญธง วงดุริยางค์ทหารสามเหล่าทัพจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนซึ่งประกอบด้วยสมาชิกมากกว่า 1,100 นายได้บรรเลงเพลงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ช่วมร่วมกันร้องเพลงชาติเป็นเสียงเดียวกัน ขณะที่ธงชาติค่อย ๆ ขึ้นสู่ยอดเสาและพลิ้วไหวสูงสง่าเหนือจัตุรัส สวนสนามทหารหลังจากพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา เวลา 10:08 น. นายเจียง เจ๋อหมิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ได้ลงจากหอประตูเทียนอันเหมิน ขึ้นรถยนต์ตรวจพลหงฉี (ทะเบียน 申A 02156) ข้ามสะพานจินสุ่ย และเข้าสู่ถนนฉางอาน แล้วรับการรายงานจากพลเอก หลี่ ซินเหลียง ผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง ในฐานะผู้บัญชาการการสวนสนาม จากนั้นรถได้ขับไปตามแนวถนนฉางอานตะวันออก ตรวจขบวนทหารภาคพื้นดินที่ประกอบด้วยกำลังพลจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนทั้งสามเหล่าทัพ ตำรวจติดอาวุธประชาชน และกองกำลังอาสาสมัคร จำนวน 42 ขบวน หลังตรวจพลสวนสนามเสร็จสิ้น นายเจียง เจ๋อหมินได้กลับมายังหอประตูเทียนอันเหมินเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ เวลา 10:36 น. หลังจากเสร็จการกล่าวสุนทรพจน์ พลโท เฉิน สี่เทา รองผู้บัญชาการมณฑลทหารปักกิ่ง ได้ประกาศเริ่มการสวนสนามทหาร กำลังพลจำนวนกว่า 11,000 นาย พร้อมด้วยรถถัง ปืนใหญ่ ขีปนาวุธชนิดต่าง ๆ รวมกว่า 400 คันได้จัดเป็นรูปขบวนเท้า 17 ขบวน และยานยนต์ 25 ขบวน เคลื่อนผ่านหอประตูเทียนอันเหมินเพื่อรับการตรวจจากประชาชน การสวนสนามฉลองวันชาติในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่หน่วยบินทหารบก นาวิกโยธิน ตำรวจติดอาวุธพิเศษ และกองหนุนได้เข้าร่วมแสดงกำลัง นอกจากนี้ขบวนทางอากาศ 10 ขบวน ซึ่งประกอบด้วยอากาศยานจากกองทัพอากาศเป็นหลัก กองทัพบก และกองทัพเรือ ยังได้เข้าร่วมบินผ่านเหนือน่านฟ้าจัตุรัสเทียนอันเหมิน
ตามลำดับการปรากฏ (ตัวเอียง หมายถึงการปรากฏเป็นครั้งแรก)
เรียงตามลำดับการปรากฏ (ตัวเอียง หมายถึงการปรากฏเป็นครั้งแรก):
ยานเกราะและปืนใหญ่มีสัดส่วน 70% ของการสวนสนาม ในขณะที่สัดส่วนของอากาศยานได้เพิ่มเป็น 10% ขบวนแห่พลเรือนหลังจากพิธีสวนสนามเสร็จสิ้นลง ได้มีการจัดขบวนแห่พลเรือนตามมาทันที โดยแบ่งขบวนออกเป็น 3 ชุด ได้แก่ “สถาปนาและสร้างชาติ”, (开国·创业) “ปฏิรูปและรุ่งเรือง” (改革·辉煌), และ “ศตวรรษแห่งการก้าวกระโดด” (世纪·腾飞) มีประชาชนเข้าร่วมขบวนแห่มากกว่า 100,000 คน พร้อมด้วยรถแห่กว่า 91 คัน การแปรอักษรเยาวชนจำนวนกว่า 100,000 คนจากโรงเรียนมัธยมทั่วกรุงปักกิ่ง ได้ร่วมกันถือช่อดอกไม้และพลิกป้ายแปรอักษรบนจัตุรัส ทำให้เกิดเป็นตัวอักษรและลวดลายที่หลากหลาย ลำดับการแปรอักษร
เพลงประกอบวงดุริยางค์ผสมกองทัพปลดปล่อยประชาชน (中国人民解放军联合军乐团) ประกอบด้วยสมาชิกกว่า 1,100 นาย โดยมีวงดุริยางค์กองทัพปลดปล่อยประชาชนเป็นแกนหลัก ร่วมกับ 15 หน่วยงานจากทั้งสี่กองบัญชาการ มณฑลทหาร เหล่าทัพ และตำรวจติดอาวุธประชาชน นักดนตรีทุกนายสวมเครื่องแบบทหารบก และบรรเลงบทเพลงหลากหลายบทเพลง รายการเพลงเรียงตามลำดับการบรรเลง:
หมายเหตุ
อ้างอิง
|