คริสเตน สจ๊วต
คริสเตน เจมส์ สจวร์ต (อังกฤษ: Kristen Jaymes Stewart; เกิด 9 เมษายน ค.ศ. 1990) เป็นนักแสดง นางแบบ และผู้สร้างภาพยนตร์หญิงชาวอเมริกัน เธอเป็นที่รู้จักในบทจากภาพยนตร์เรื่องTwilight, Panic Room, Zathura, In the Land of Women, The Messengers, Catch That Kid, และ Into the Wild ประวัติคริสเตน สจวร์ต เกิดและเติบโตที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันยังคงอาศัยอยู่กับครอบครัวของเธอบิดาของเธอ จอร์น สจวร์ต เป็นผู้จัดการเวที และ โปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ ทำงานให้กับฟอกซ์ และมารดา จูล แมนน์ สจวร์ต มีอาชีพเป็น ผู้เขียนบท พื้นเพจาก ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียคริสเตน ศึกษาในโรงเรียนจนกระทั่งเกรดเจ็ด (มัธยมศึกษาปีที่หนึ่ง) และศึกษาต่อทางไปรษณีย์เธอมีพี่ชายหนึ่งคน คาเมรอน สจวร์ตซึ่งเป็น นักเล่นกระดานโต้คลื่น และนักกีต้าร์ คริสเตน สจวร์ตชื่นชอบดนตรีร็อค วงดนตรีที่โปรปรานได้แก่ U2, Radiohead, The Beatles, The Specials, Laura Marling, Green Day, Nirvana และ Beck คริสเตน สจวร์ตได้แสดงความชัดเจนในความปรารถนาที่จะทำงานและใช้ชีวิตในประเทศออสเตรเลีย เธอกล่าวว่า "ฉันอยากเรียนที่มหาวิทยาลัยซิดนี่ย์ในประเทศออสเตรเลีย คุณแม่ของฉันเรียนจบจากที่นั่น" อาชีพนักแสดงอาชีพนักแสดงของสจวร์ตเริ่มต้นเมื่อเธออายุได้แปดขวบ หลังจากตัวแทนเห็นการแสดงของเธอในวันคริสต์มาสที่โรงเรียนประถม บทแรกที่คริสเตน สจวร์ตได้รับเล่น เป็นบทเล็กๆ ไม่มีบทพูด ใน The Thirteen Year ภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ของ ดิสนี่ย์ แชลแนล หลังจากนั้น คริสเตน ปรากฏตัวใน ภาพยนตร์อิสระเรื่อง The Safety of Objects ซึ่งเธอรับบทเป็น ลูกสาวผู้เป็นทอมของมารดาผู้โดดเดี่ยวและมีปัญหา หลังจากนั้น สจวร์ตได้รับบทสำคัญในภาพยนตร์ฮอลีวูดเรื่อง Panic Room รับบทเป็นลูกสาวที่เป็นโรคเบาหวานไม่พูดไม่จาของแม่หม้ายหย่าร้าง ตัวภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ด้านบวกแบบทั่วๆ ไป และการแสดงของคริสเตนได้รับความสนใจในด้านดี หลังจากความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Panic Room สจวร์ตได้เล่นในภาพยนตร์แนวระทึกขวัญอีกเรื่อง Cold Creek Manor รับบนเป็นลูกสาวของ เดนนิส ควอดส์ และชารอน สโตน ผู้รับบทเป็นพ่อแม่ในเรื่อง ตัวภาพยนตร์ค่อนข้างประสบความล้มเหลวในโรงภาพยนตร์ คริสเตนได้รับบทนำครั้งแรกในภาพยนตร์ ตลก-แอคชั่นสำหรับเด็กใน Catch That Kid กับ แมกซ์ ธียรรอท และ คอลบิน บลูล์ คริสเตนยังได้รับบทเป็น ลิล่า ในภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่อง Undertow จนปัจจุบันบทที่คริสเตนได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดคงเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง Speak (2004) เค้าโครงเรื่องจากนวนิยายโดยลอเรีย ฮารวร์ แอนเดอร์สัน สจวร์ตในอายุสิบสามปีรับบทเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีแรกชื่อ มิแรนด้า ซอดิโน เด็กสาวที่ไม่ยอมพูดจาหลังจากถูกข่มขืนและยังต้องเผชิญกับความยุ่งเหยิงด้านอารมณ์มากมาย สจวร์ตได้รับเสียงชื่นชมมากมายจากการรับบทนำในเรื่องนี้ ซึ่งในเรื่องมีบทพูดเพียงไม่มากแต่สามารถคงความรู้สึกด้านมืดในความคิดของตัวละครได้ตลอดทั้งเรื่อง ในปี 2005 สจวร์ตปรากฏตัวอีกครั้งในภาพยนตร์ตลก-แฟนตาซีเรื่อง Zatura โดยรับบทเป็น ลิซ่า พี่สาวผู้ไร้ความรับผิดชอบของน้องชายทั้งสองผู้ซึ่งเปลี่ยนบ้านของพวกเขาให้กลายเป็นยานอวกาศที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแล้วไม่สามารถควบคุมได้ออกไปนอกอวกาศด้วยการเล่นเกมกระดาน ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชมพอสมควรจากนักวิจารณ์ แต่การแสดงของคริสเตนในเรื่องนี้กลับไม่เป็นที่ได้รับความสนใจจากสื่อนักเนื่องด้วยบทบาทที่เธอได้รับจำต้องแข็งอยู่กับที่เกือบตลอดทั้งเรื่อง ในปีถัดมาคริสเตน ได้รับบทเป็น มายา จากเรื่อง The Fierce People กำกับโดย กริฟฟิน ดันน์ หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้ คริสเตนได้รับบทนำเป็น เจสส์ โซโลมอน ในภาพยนตร์ระทึกขวัญเหนือธรรมชาติเรื่อง The Massenger ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จด้านการเงิน แต่ทว่ากลับได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบที่แย่มากจากเหล่านักวิจารณ์ ในปี 2007 คริสเตนปรากฏตัวในบทวัยรุ่น ลูซี่ ฮาร์ดวิคค์ ใน In The Land of Women ภาพยนตร์โรแมนติกดรามา รับบทนำโดย เม็ก ไรอัน และนักแสดงจาก The O.C. อดัม บรอดี้ ตัวภาพยนตร์ และการแสดงของสจวร์ตเองได้รับคำวิจารณ์ที่ผสมผสานกันทั้งบวกและลบ ในปีเดียวกันนั้นเอง คริสเตนรับบทในภาพยนตร์ดัดแปลงที่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมากของ ชอนน์ เพนน์ เรื่อง Into The Wild จากการถ่ายทอดตัวละครอย่างเทรซี่ นักร้องวัยรุ่นผู้ตกหลุมรักนักผจญภัยหนุ่มอย่างคริสโตเฟอร์ แมกคานดเลส สจวร์ตได้รับคำวิจารณ์ทั่วไปในด้านดี เว็บไซต์ Salon.com พิจารณาผลงานของคริสเตนว่า "เป็นการแสดงที่หนักแน่น และเข้าถึงไว" และ Chicago Tribune เขียนว่าการแสดงของคริสเตนทำได้ "อย่างน่ารื่นเริงดี และร่างตัวละครได้สมจริง" แต่ในขณะเดียวกัน เดนนิส ฮาร์วีย์ นักวิจารณ์จากนิตยสาร Variety Magazine กลับแสดงข้อคิดเห็นด้วยความสงสัยว่า "ไม่รู้ว่าว่าสจวร์ตจงใจสื่อให้ฮิปปี้สาวอย่างเทรซี่นั้นดูจืดชืด ไร้รสชาติ หรือว่ามันออกมาเป็นอย่างนั้นเอง" หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Into The Wild สจวร์ตปรากฏตัวสั้นๆในภาพยนตร์เรื่อง Jumper และยังปรากฏตัวในเรื่อง What Just Happen ซึ่งออกฉายในเดือนตุลาคม ปี 2008 คริสเตนยังร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Cake Eater และ The Yellow Handkerchief ภาพยนตร์อิสระทั้งสองเรื่องนี้ได้ฉายที่เทศกาลหนังเท่านั้น ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2007 บริษัทหนัง Submit Entertainment ประกาศว่า คริสเตน สจวร์ต จะรับบทเป็น อิซาเบลล่า'เบลล่า'สวอน ในภาพยนตร์เรื่อง Twilight (ชื่อภาษาไทย: แวมไพร์ ทไวไลท์ )จากบทประพันธ์ขายดีที่สุดของ สเตฟานี่ เมเยอร์ นิยายในชื่อเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องราวความรักระหว่างแวมไพร์ ชีวิตส่วนตัวสจวร์ตเคยคบกับโรเบิร์ต แพตตินสัน นักแสดงที่เคยร่วมแสดงหนังเรื่อง แวมไพร์ ทไวไลท์ (2008) เมื่อปี 2009 จนถึง 2012 ก็เลิกรา ในปี 2012 ในปีเดียวกัน เธอออกเดทกับ รูเพิร์ต แซนเดอร์ส ผู้กำกับภาพยนตร์จนถึง 2015 และในปีเดียวกันสจวร์ตได้ประกาศหลังข่าวเลิกกับแซนเดอร์สว่าตนเองเป็น เลสเบี้ยน ในปี 2016 เธอคบหาดูใจกับนางแบบสาวชาวไอริช-นิวซีแลนด์ชื่อว่า สเตลลา แม็กซ์เวลล์ ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและแม็กซ์เวลล์จะแตกต่างกันก็ตาม ในเดือนกันยายน 2019 สจวร์ตได้ประกาศข่าวเลิกรากับแม็กซ์เวลล์แล้ว หลังใช้ชีวิตความสัมพันธุ์มายาวนานถึง 4 ปี ปัจจุบันสจวร์ตแต่งกายด้วยชุด ทอมบอย เนื่องจากเธอรู้ว่าเป็นทอม ตั้งแต่ปลายปี 2019 สจวร์ตมีความสัมพันธ์กับนักเขียนบทภาพยนตร์หญิงชาวอเมริกันชื่อว่า ดิลลัน เมเยอร์ และในเดือนพฤจิกายน 2021 เธอได้ประกาศว่าได้หมั้นกับเมเยอร์แล้ว อ้างอิงวิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อที่เกี่ยวข้องกับ คริสเตน สจ๊วต |