จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์
จณิสตา จรูญสมิทธิ์ (เกิด 6 ตุลาคม พ.ศ. 2515) ชื่อเล่น แบม หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า น้องแบม อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ อดีตโฆษกพรรค อดีตรองเลขาธิการและอดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร อดีตรองโฆษกรัฐบาล พิธีกรรายการโทรทัศน์ที่เคยรับงานพิธีกรรายการตีสิบ โดยภายหลังจึงลาออกมาทำงานการเมือง ประวัติจณิสตา จรูญสมิทธิ์ (สกุลเดิม ลิ่วเฉลิมวงศ์) เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2515 มีชื่อเล่นว่า แบม เป็นบุตรของนายอาคม ลิ่วเฉลิมวงศ์ กับหม่อมราชวงศ์สิริญาดา วรวรรณ เป็นหลานตาของพันตำรวจโท หม่อมเจ้าหัชชากร วรวรรณ พระโอรสใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ มีน้องสาวร่วมบิดามารดา 2 คนคือ ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ หรือโบ กับ สุนุชดา ลิ่วเฉลิมวงศ์และมีน้องต่างบิดาอีกสองคนคือ ชวิทย์ และฐนุชดี เสรีวัฒโนภาส วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552 จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ และบุตรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ หรือ โบ้ท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิลค์สแปน จำกัด เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ พระตำหนักวังไกลกังวล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในหลวงพระราชทานถุงทองเป็นของขวัญแก่คู่บ่าวสาว ในการนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงอวยพรแก่คู่บ่าวสาวว่าให้รักกันนาน ๆ ครองรักด้วยความเข้าใจและใช้ความอดทน[1] ทั้งคู่มีบุตรดังนี้ 1. ลูกสาวชื่อ วณิสตา จรูญสมิทธิ์ หรือน้องเวนิส เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2553 ที่โรงพยาบาลสมิติเวช[2] 2. ลูกชายชื่อ นราธิปพงศ์ จรูญสมิทธิ์ หรือน้องวินซ์ เกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์[3] ประวัติการศึกษาจณิสตา จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาจาก โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ จบชั้นมัธยมศึกษาจาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน จบการศึกษาระดับปริญญาตรีรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท สาขาการพัฒนาภูมิภาคและเมือง จาก London School of Economics & Political Science (LSE) มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ[ต้องการอ้างอิง] ประวัติการทำงานจณิสตา เคยทำงานในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน ระดับ 5 สังกัด ศูนย์วิเคราะห์ และประสานแผนปฏิบัติการ ของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ขณะเดียวกันเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก จากการเป็นนางแบบถ่ายโฆษณา ก่อนจะรับเป็นพิธีกร รายการ ตีสิบ ทางช่อง 3 คู่กับ นายวิทวัส สุนทรวิเนตร ซึ่งทำให้จณิสตา มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปอย่างกว้างขวาง งานการเมืองในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2544 ได้เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคชาติไทย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ คนที่ 6 ของพรรค และได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นคนสุดท้าย นอกจากดำรงตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.จณิสตา ยังดำรงตำแหน่ง โฆษกพรรคชาติไทย อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย ในการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2548 น.ส.จณิสตา ได้เปลี่ยนมาลงสมัคร ส.ส.เขต ในพื้นที่เขตดอนเมือง แทนที่ นายการุณ โหสกุล ซึ่งเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) ของพรรคชาติไทย ที่ย้ายไปสังกัดพรรคไทยรักไทยอย่างกะทันหัน และลงเลือกตั้งในเขตดอนเมือง แข่งกับพรรคชาติไทย ซึ่งผลการเลือกตั้งในครั้งนั้น น.ส.จณิสตา ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขตดอนเมือง และเป็น ส.ส.เพียงคนเดียวของพรรคชาติไทยที่ชนะการเลือกตั้งในกรุงเทพมหานคร ต่อมาในกลางปี พ.ศ. 2550 มีข่าวลือว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยไม่พอใจในพฤติกรรมของ น.ส.จณิสตา ถึงขนาดจะตัดสิทธิ ไม่ให้ลงเลือกตั้งในคราวหน้า พร้อมกับมีข่าวว่า น.ส.จณิสตา จะย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่ต่อมาทั้ง นายบรรหาร น.ส.จณิสตา และทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงว่าทั้งหมดเป็นเพียงข่าวปล่อยที่ไม่เป็นความจริง[4][5] ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2550 ได้ลงสมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 5 (บางเขน สายไหม ดอนเมือง) สังกัดพรรคพรรคชาติไทยอีกครั้ง แต่ไม่ได้รับเลือก จากนั้นในปี พ.ศ. 2551 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคชาติไทย[6] สรุปประวัติการดำรงตำแหน่ง
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ลำดับสาแหรก
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|