บรูโน มาส์
ปีเตอร์ จีน เฮอร์แนนเดซ (อังกฤษ: Peter Gene Hernandez; เกิด 8 ตุลาคม ค.ศ. 1985) รู้จักกันในนาม บรูโน มาส์ (Bruno Mars) เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ นักพากย์ และนักออกแบบท่าเต้นชาวอเมริกัน เขาเกิดและเติบโตในเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ในครอบครัวของนักดนตรี เริ่มทำเพลงในช่วงวัยเด็กและเริ่มแสดงในสถานที่จัดงานดนตรีต่าง ๆ ในย่านบ้านเกิดของเขา เขาจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาหลังจากนั้นก็ย้ายไปยังลอสแอนเจลิสเพื่อไล่ตามความฝันในการเป็นนักดนตรี มาส์ยังเป็นโปรดิวเซอร์เพลงให้แก่ศิลปินหลายคนจำนวนมาก และเป็นผู้ก่อตั้ง The Smeezingtons ซึ่งเป็นบริษัทรับเป็นโปรดิวเซอร์และแต่งเนื้อเพลงให้ มาส์ไม่ประสบความสำเร็จกับค่ายเพลงโมทาวน์เร็กเคิดส์ จึงหันไปเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับแอตแลนติกเร็กเคิดส์ใน ค.ศ. 2009 เขาเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะศิลปินเดี่ยวหลังจากที่เขาร่วมร้องเพลงรับเชิญ นัททินออนยู ของบี.โอ.บี และเพลง บิลเลียนแนร์ ของแทรวี มักคอย ซึ่งประสบความสำเร็จไปทั่วโลก สตูดิโออัลบั้มชุดแรกของเขา Doo-Wops & Hooligans (ค.ศ. 2010) ติดอันดับบิลบอร์ดฮอต 100 ของสหรัฐอเมริกาขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง Just The Way You Are และ Grenade อย่างไรก็ดียังมีเพลงติดซิงเกิลยอดนิยมอยู่อันดับที่ห้า คือ The Lazy Song ส่วนสตูดิโออัลบั้มชุดที่สอง Unorthodox Jukebox วางจำหน่ายใน ค.ศ. 2012 ติดอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ซิงเกิลที่ปล่อยลงในต่างประเทศ Locked Out of Heaven, When I Was Your Man และ Treasure มาส์ยังได้รับรางวัลเป็นจำนวนมากและได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอยู่บ่อยครั้ง รางวัลแกรมมี บรูโน มาส์ได้รางวัลถึงสองครั้ง และใน ค.ศ. 2011 ยังติดหนึ่งใน 100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกใน ค.ศ. 2011 ใน นิตยสารไทม์[1] ใน ค.ศ. 2014 เขายังได้รับการขนมนามว่า ศิลปินแห่งปี โดยบิลบอร์ดและยังติดอันดับ 1 จากนิตรสารฟอบส์ จากทั้งหมด 30 รายชื่อ ตลอดการเป็นนักร้อง เขามียอดขายมากกว่า 11 ล้านอัลบั้มและ 68 ล้านซิงเกิล และเขายังติดหนึ่งในศิลปินที่มียอดขายอัลบั้มที่ดี[2] ในฐานะนักดนตรี นักเขียน โปรดิวเซอร์ ยอดรวมของเขาทำรายได้ประมาณ 30 ล้านซิงเกิล หกซิงเกิลของเขายังได้ติดเป็นซิงเกิลที่ขายดีตลอดกาล มาส์ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในศิลปินเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จในโลก ซิงเกิลลำดับที่ห้าของเขายังติดอันดับที่หนึ่งด้วยในบิลบอร์ต ฮอต 100 ตั้งแต่เขาเริ่มทำอาชีพเป็นนักร้องตั้งแต่ ค.ศ. 2010 ขายได้เร็วกว่านักร้องชายตั้งแต่ เอลวิส เพรสลีย์ อันดับที่เขาติดอยู่ในชาร์จบิลบอร์จ ฮอต 100 คืออันดับที่หก มาส์ยังเป็นที่รู้จักจากการแสดงบนเวทีและการแสดงย้อนยุค เขามักมาจะพร้อมกับวงของเขาคือ "เดอะฮูลิกันส์" นอกเหนือจากการเป็นนักดนตรีที่หลากแล้ว เช่น มือกีตาร์ไฟฟ้า, มือเบส, เปียโน, คียบอร์ด, มือกลอง เขายังเป็นนักเต้นและนักร้องประกอบบนเวที มาส์ยังร้องเพลง เต้น และร้องเพลงแนวดนตรีที่หลากหลายกันไป อาทิ อาร์แอนด์บี, เร็กเก, โซล, ฟังก์ ชีวิตและการงาน1985 - 2003 : ชีวิตแรกเริ่มและเข้าสู่วงการดนตรีบรูโน มาส์ เกิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1985 มีชื่อแรกเกิดว่า ปีเตอร์ จีน เฮอร์แนนเดซ[3] ใน โฮโนลูลู, ฮาวาย เติบโตใน ไวกีกี เขาเป็นหลานชายของ ปีเตอร์ เฮอร์แนนเดซ และ เบอร์นาเดเต ซาน เพโต บาโยค (1957 -2013)[4] พ่อของเขาเป็นครึ่ง เปอร์โตริโก และ ชาวยิวอัชเคนาซิ โดยแรกเริ่มมีถิ่นกำเนิดมาจาก บรุกลิน นิวยอร์ก[5][6][7] แม่ของเขาอพยพจากฟิลิปปินส์มายังฮาวายตั้งแต่ครั้นเป็นเด็ก และเป็นครึ่งฟิลิปปินส์และสเปน[6][8] พ่อของเขาขณะกำลังเล่นแสดงในโชว์ก็ได้พบแม่ซึ่งกำลังเต้นระบำฮาวาย โดยขณะนั้นพ่อของเขาก็กำลังเล่นดนตรีพวกเคาะอยู่[7] เมื่อเขาอายุได้สองปี พ่อของเขาตั้งชื่อให้เขาว่า "บรูโน" เพราะมีความคล้ายคลึงกับนักมวยปล้ำมืออาชัพอย่าง บรูโน ซามมาร์ติโน[9][10][11] มาส์เป็นเป็นลูกคนแรกในบรรดาลูกทั้งหกคนของครอบครัว ครอบครัวของเขาชื่นชอบดนตรี ซึ่งทำให้เขาได้พบดนตรีหลากหลายประเภท เช่น เร้กเก้ ร็อก ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี[12][13] แม่ของเขาเป็นทั้งนักร้องและนักเต้น พ่อของเขามักจะชอบเล่นเพลงของ ลิตเติ้ล ริชาร์ดและเพลงร็อคแอนด์โรลอยู่บ่อยครั้ง[14] ลุงของมาส์ชื่นชอบเอลวิสและมักจะชอบใส่ชุดเป็นเอลวิสอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังให้กำลังใจ มาส์วัยสามขวบในการขึ้นแสดงบนเวที มาส์ยังแสดงเพลงของศิลปินจำนวนมากอาทิเช่น ไมเคิล แจ็คสัน Isley Brothers และ เดอะเทมป์เทชันส์.[10] ในวัยสี่ขวบ มาส์เริ่มต้นการแสดงห้าวันต่อสัปดาห์กับวงในครอบครัว The Love Notes และเป็นที่รู้จักภายในเกาะฮาวายจากชุดเอลวิสที่เขาใส่[15] ในปี 1990 มาส์ได้ปรากฏลงบนปก Midweek ในฐานะ "เอสวิสน้อย" และได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ในบทเล็ก ๆ น้อย ๆ Honeymoon in Vegas ในปี 1992[10][16] และร่วมแสดงในงานแข่งคริกเกต 1990 Aloha bowl[17] มาส์ใช้เวลาจำนวนมากในการเป็นเอลวิสในการพัฒนาความสามารถดนตรีและเทคนิตที่มีประสิทธิภาพ[18] ภายหลังเขามาเริ่มเล่นกีตาร์ซึ่งมีแรงบันดาลใจเป็น จิมิ เฮนดริกซ์[19] ในปี 2010 เขายังเป็นที่ยอมรับจากชาวฮาวายและครอบครัวนักดนตรีทำให้เป็นอิทธิพลทำให้เขาอยากเล่นดนตรี โดยเขาอธิบายว่า "การเติบโตในฮาวายทำให้ผมเข้าใจตัวเอง ผมใช้เวลาจำนวนมากแสดงในฮาวายร่วมกับวงของพ่อ ทุกคนในครอบครัวของผมต่างแสดงกันอย่างเต็มที่ ทุกคนสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้ คนที่คลั่งไคล้ในดนตรีรายล้อมผม"[20] หลังจากนั้นเขาได้เรียนระดับมัธยมที่โรงเรียน President Theodore Roosevelt High School เขาได้ตั้งวงที่โรงเรียนขึ้นชื่อว่า The School Boys[21] ในปี 2003 ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากจบระดับมัธยมศึกษา ในวัยเพียง 17 มาส์ย้ายไปลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนียเพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรีที่เขาตั้งไว้[10][16] เขาได้ตั้งชื่อฉายาจากชื่อที่พ่อตั้งให้ โดยใส่คำว่า "มาส์" ไว้หลังชื่อ[22] 2004-10 โปรดิวเซองานและอัลบั้มอีพี It's Better If You Don't Understandหลังการย้ายไปยังลอสแอนเจลิส มาส์เซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับทาง โมทาวน์เรเคิดส์ ในปี 2004 จนได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้จัดการของ วิล.ไอ.แอม[23][24] ประสบการณ์ของมาส์ที่ร่วมงานกับโมทาวน์ซึ่งนับว่าเป็นผลดีต่อเขาเอง เมื่อเขาได้พบกับนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ ฟิลิปลินส์ ลอว์เรนส์ ที่ภายหลังได้จับมาส์เป็นศิลปินของทางค่าย.[23] หลังจากมาส์ถูกทิ้งไว้ในค่ายโดยไม่ได้รับการเหลียวแลมาร่วมปีกว่า เขาอาศัยอยู่ในลอสแอนเจลิสและตั้งค่ายเพลงในปี 2005 ร่วมกับ สตีฟ ลินด์ซีย์ และ คาเมรอน สตราง ในนาม Westside Independent[25][26] "Bruno came to the conclusion that the best way to further his career was writing and producing hit songs."
—แคเมอรอน สแตรงพูดเกี่ยวกับการพัฒนาในอาชีพของมาส์[26] ผลงานอัลบั้ม
ผลงานแสดง
ทัวร์ และแสดงในถิ่นที่อยู่
อ้างอิง
|