พอส
พอส (อังกฤษ: Pause) เป็นวงดนตรีสังกัดค่ายเบเกอรี่มิวสิค เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มนักศึกษาภาควิชาดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สี่คน ประกอบไปด้วย เอ - พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ, นอ - นรเทพ มาแสง, บอส - นิรุจ เดชบุญ และโจ้ - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ นักร้องนำเสียงดีที่ชนะการประกวดจาก โค้ก มิวสิก อวอร์ด หลังจากนั้นทั้งสี่สมาชิกก็ได้มีโอกาสไปแสดงที่งาน คอลเลจอาร์ติส ของนิตรสารบันเทิงคดี และได้ใชืชื่อวงว่า พอส ที่มีความหมายว่าหยุดชั่วคราว จนมีโอกาสไปเล่นไปโชว์ในงานของคลื่นวิทยุเพลงร็อค ไพเรทเรติโอ และถูกค่ายเบเกอรี่มิวสิคสนใจ และเซ็นสัญญาเป็นศิลปินในค่ายเบเกอรี่มีผลงานอันเป็นที่รู้จักอย่างมาก มีเพลงที่ได้รับความนิยมเช่น เพลง ที่ว่าง โดยทำให้วงพอสเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง หลังเหตุการณ์การเสียชีวิตของโจ้ อัมรินทร์ นักร้องนำของวง วงพอสก็ได้ยุบตัวลงไปและสมาชิกวงแต่ละคนก็ได้มุ่งหน้าไปทางดนตรี ทางด้าน นอ - นรเทพ มาแสงมือเบสของวงก็ได้เป็นมือเบสวง เครสเชนโด้ เอ - พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ มือกีตาร์ของวงก็เป็นมือกีตาร์วง Casino 14 บอส - นิรุจ เดชบุญ มือกลองของวง ก็ได้เป็นมือกลองวง เครนเชนโด้ ปัจจุบันกลับมารวมตัวกันอีกครั้งสังกัดมีเรคคอร์ดส ในเครือ มิวซิกมูฟ ประวัติ2539 - 2541 ก่อตั้งวง, เป็นสมาชิกเบเกอรี่, ออกอัลบั้มพอส เริ่มจากที่ นอ-นรเทพ มาแสง มือเบสซึ่งเล่นดนตรีมาหลายชิ้น หลายแนว ทั้งดนตรีไทยและแจ๊ส ช่วงใกล้เรียนจบที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร มีความจำเป็นที่จะต้องหาเพื่อนมาร่วมงานเพื่อทำโปรเจกต์ด้านดนตรี จึงชักชวน เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ ซึ่งทำเพลงไว้อยู่แล้วประมาณ 4 เพลง และไปหามือกลองมาเพิ่มคือ บอส-นิรุจ เดชบุญ ซึ่งเมื่อก่อนจะเล่นแซกโซโฟนเป็นอาชีพ แต่บังเอิญที่ตำแหน่งนี้ไม่มีคนเล่นก็เลยเปลี่ยนมาตีกลอง ส่วนนักร้องนำ โจ้-อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ที่มีตำแหน่งนักร้องชนะเลิศการประกวดไทยแลนด์โค้กมิวสิกอวอร์ด ปี 2536 หลังจากนั้นสมาชิกวงก็ได้หมั่นฝึกซ้อมเพลงจนมีโอกาสได้ไปแสดงที่งาน "คอลเลจอาร์ติส" ของนิตยสารบันเทิงคดี โจ้ นักร้องนำ ได้เสนอชื่อ อาทิ “โดนัลดัคก์” , “เดอะเยิ้ม” แต่ไม่ผ่าน[3]ภายหลังมือกีต้าร์ร์ เอ ก็ได้ตั้งชื่อวงในการแสดงว่า "พอส" (Pause) ที่มีความหมายว่า "หยุด (ชั่วคราว/ชั่วขณะ)" จนทั้งสี่สมาชิกได้มีโอกาสไปเล่นโชว์ในงานของคลื่นวิทยุเพลงร็อค "ไพเรทเรดิโอ" ที่ฮาร์ดร็อคคาเฟ่ และถูกติดตาทางค่าย เบเกอรี่มิวสิก และพวกเขาทั้งสี่ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในสังกัด อีกทั้งพวกเขาได้แสดงคอนเสิร์ตในนามศิลปินสังกัดเบเกอรี่มิวสิคที่คอนเสิร์ต "เบเกอรี่ออนเดอะร็อค" ที่ เอ็มบีเคฮอลล์ มาบุญครองเซ็นเตอร์ โดยเล่นเป็นวงเปิดให้ อรอรีย์ และ ซีเปีย ภายในงานคอนเสิร์ตครั้งนั้นชื่อของวงพอสได้เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก ก่อนที่ที่พวกเขาทั้งสี่จะเข้าห้องอัดทำอัลบั้มแรกก็ได้มีโอกาสร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับวงออลเทอร์นาทีฟ ซิลลี่ฟูลส์ และเพื่อนศิลปินค่ายอื่นคือ ออดี้ และ วิซาร์ท ในคอนเสิร์ตที่ชื่อ "ออลเทอร์นาทิฟปาร์ตี้ออนทัวร์" ในปี พ.ศ. 2539 พวกเขาได้ปล่อยอัลบั้มชุดแรกของพวกเขา "พุช (มี) อะเกน (Push (Me) Again) โดยความหมายโดยรวมของวงคือ หยุดชั่วคราว ส่วนพุชมีอะเกนก็คือกดอีกทีก็คือเดินต่อไป[4] โดยในอัลบั้มชุดแรกมีแนวเพลงป็อปร็อคผสม แร็พ โดยมีผลงานที่เป็นที่รู้จักอันได้แก่ ยื้อ, ไม่มีแล้ว, ที่ว่าง, มีเพียงเรา โดยเพลงที่ว่าง เอ วงพอสก็ได้แต่งเพลงนี้โดยอ้างอิงหนังสือ ปรัชญาชีวิต ของ ญิบรอน เคาะลีล ญิบรอน[5] 2 ปีต่อมาพวกเขาปล่อยอัลบั้มชุดที่ 2 Evo & Nova ในปี พ.ศ. 2541 มีแนวเพลงที่สบายกว่าอัลบั้มแรก โดยในอัลบั้มนี้ไม่ประสบความสำเร็จอย่างมากนัก แต่มีผลงานที่เป้นที่รู้จักคือ รักเธอทั้งหมดของหัวใจ ที่ร่วมแต่งโดย บอย โกสิษพงษ์ เพื่อระลึกถึงน้องชายของโจ้ วงพอสที่ประสบอุบัติเหตุรถชน ซึ่งผลงานเพลงนี้ก็ได้ทำให้วงพอสเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง 2542 - 2545 อัลบั้มชุดที่สาม, ผลงานเดี่ยวของโจ้, โจ้เสียชีวิตหลังจากปีถัดมาวงพอสก็ได้ปล่อยอัลบั้มชุดที่สาม Mild (2542) โดยในอัลบั้มนี้มีแนวเพลงป็อปสบาย ๆ โดยทั้งอัลบั้มมีผลงานอันเป็นที่รู้จักเกือบทั้งหมด หลังจากวางขายอัลบั้มชุดที่สามก็ได้รับกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีจนทำให้มีการออกอัลบั้มพิเศษขึ้นมา ภายใต้ชื่อว่า Rewind 1996-2000 ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมเพลงฮิตของวงพอส และในปี พ.ศ. 2543 โจ้ วงพอส นักร้องนำของวงก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยว โจ้ อัมรินทร์ - Simply Me ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมรวบผลงานเพลงเก่าที่โจ้ชื่นชอบ ซึ่งอัลบั้มนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีมากนัก โดยในช่วงปี พ.ศ. 2545 วงพอสก็ได้มีการวางแผนถึงผลงานเพลงชุดใหม่ ก่อนที่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2545 วงพอสก็ได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[6] หลังจากนั้น 4 วันต่อมา 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 มีคนพบศพของโจ้ วงพอสนักร้องนำของวงในอาคารซี-วันแมนชั่น ซ.สุขุมวิท 50 ย่านพระโขนง ซึ่งสันนิฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตายของโจ้ วงพอสในลิฟท์ โดยยังพบปืนขนาด 9 ม.ม. เข้าที่บริเวณขมับขวาทะลุซ้ายจำนวน 1 นัดเลือดไหลอาบท่วมตัวและเสียชีวิตในลักษณะนั่งคว่ำหน้าลงกับพื้น อีกทั้งยังพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ในลิฟท์อีก 1 ปลอก โดยได้รับการสอบสวนจากร้านของวิยะดา โกมารกุลซึ่งได้รับว่าโจ้เคยมีประวัติการทานยากล่อมประสาทและมีการเขียนจดหมายเกี่ยวกับความกลุ้มใจเรื่องการพนัน อีกทั้งก่อนหน้านี้โจ้มีเรื่องกลุ้มใจเลยไปบวชพระ และโจ้เองก็เคยนำปืนมาใช้ทำปืนลั่นถูกนิ้วก้อยด้านซ้าย [7] ทางด้านฝ่ายครอบครัวโจ้เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม ก่อนเสียชีวิต โจ้ยังบอกทำนองว่าหากมีปัญหาก็ตามแต่จะไม่ฆ่าตัวตายหนีปัญหา ในขณะเดียวกันโจ้ในเวลานั้นคบหาดูใจกับแฟนสาวไฮโซ วารีทิพย์ ศาตะมาน ซึ่งมีปัญหาไม่ลงร่อยลงรอยกับครอบครัว ประกอบกับเพื่อนของโจ้มักให้โจ้เป็นนายหน้ากู้เงินธนาคารอยู่บ่อยครั้งจนโจ้ต้องทวงบ่อยครั้ง โจ้จึงต้องซื้อปืนไว้ป้องกันตัว อีกทั้งครอบครัวโจ้มักได้ยินพูดจาเหน็บแขวะอยู่บ่อยๆจนมีอาการฉุน[8]ซึ่งต่อมาเป็นเหตุให้วงพอสได้ยุบตัวลงในวันเดียวกันนี้ และได้มีการออกอัลบั้ม อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ 2514-2545 ในปี 2545 ซึ่งเป็นการรวมรวบงานเพลงตั้งแต่เริ่มเข้าวงการโดยแต่ละเพลงไม่ได้อยู่ในอัลบั้มใดทั้งสิ้น ๆ เป็นผลงานในวาระโอกาสต่าง ๆ เพื่อเป็นการระลึกถึงการจากไปของโจ้ วงพอสอีกด้วย แยกย้ายไปทำผลงานอื่นเอ พลกฤษณ์มือกีตาร์ของวงได้ไปทำงานกับวง สิบล้อ ปัจจุบันเอ ได้ทำงานเป็นมือกีตาร์และนักร้องนำในวง Casino 14[9] ส่วน นรเทพ มาแสงมือเบสของวงได้ไปร่วมทำงานกับวง ทีโบน ทูเดย์ส อะโกคิดส์ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าวง เครสเชนโด้ ส่วนบอส นิรุจ มือกลองของวง ได้เป็นมือกลองรับจ้างให้กับตรัย ภูมิรัตน ถึงปี พ.ศ. 2556 จนได้ไปทำงานกับวงเครสเชนโด้ในอัลบั้ม LEGEND SESSION ตั้งแต่นั้นมา กลับมารวมตัวกันอีกครั้งและนักร้องนำคนใหม่ในปี 2556 ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม หรือ ฟองเบียร์ ได้เชิญให้พอสกลับมาทำเพลงใหม่อีกครั้งโดยได้ร่วมงานกับ เอ๊ะ จิรากร สมพิทักษ์ ในเพลง สิ่งที่มันกำลังเกิด ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง อันโกะ กลรักสตอวเบอร์รี่ โดยหลังจากนั้นก็ได้เอ๊ะเป็นนักร้องนำในช่วงระหว่างออกทัวร์ตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งในโอกาสครบรอบ 20 ปีวงพอส ทางค่ายมีเรคคอร์ดส ปล่อยวิดิโอโปรโมทซิงเกิล "รักอยู่รอบกาย" เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ที่ร้องโดย อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ อดีตนักร้องนำของวง ซึ่งอัดไว้เมื่อปี 2545 นำกลับมาให้แฟนเพลงได้ฟัง และวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559 คอนเสิร์ต พอส รักอยู่รอบกาย แหม่ม คัทลียา กระจ่างเนตร ได้มาเป็นพิธีกรในคอนเสิร์ตนี้ด้วย และมีนักร้องที่เป็นลูกศิษย์ของ บอย โกสิยพงษ์และนักร้องคนอื่น ๆ ที่มีวงพอสเป็นไอดอลและนำเพลงของวงพอสไปร้องคัฟเวอร์ตามคอนเสิร์ตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ป๊อด โมเดิร์นด๊อก นภ พรชำนิ บอย ตรัย โป้ โยคีเพลย์บอย ธีร์ ไชยเดช รัดเกล้า อามระดิษ บี พีระพัฒน์ คิว สุวีระ เบน ชลาทิศ มาเรียม B5 โตน โซฟา แสตมป์ อภิวัชร์ ตู่ ภพธร ลิปตา โต๋ ศักดิ์สิทธิ์ วงเครสเชนโด้ เดอะบีกินส์ รูม 39 หนูนา หนึ่งธิดา สครับบ 25 Hours เอ๊ะ จิรากร ปราโมทย์ วิเลปะนะ ฯลฯ ในปี พ.ศ. 2559 วงพอสได้จัดกิจกรรม PAUSE PLAY AGAIN เพื่อค้นหานักร้องนำคนใหม่ โดย "เฟ้น ประภาพ ตันเจริญ" ได้รับเลือกให้เป็นนักร้องนำคนใหม่ และวงพอสได้ปล่อยซิงเกิลใหม่ ก็คือเพลง แค่ได้เป็นคนสุดท้ายที่เธอคิดถึง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยบันทึกเสียงไว้ก่อนที่มีการแถลงสำนักพระราชวังเรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต[10] หลังการกลับมาสถานีวิทยุ คูลฟาเรนไฮต์ 93 ต้อนรับการกลับมาของวงพอส ด้วยการเปิดเพลงของวง ใน "คูลฟาเรนไฮต์ มิวสิค อะไลฟ์ # พอส แอนด์ เพลย์" (COOLfahrenheit Music Alive PAUSE & PLAY) ซึ่งจะมีเอ็กคลูซีฟโชว์พร้อมแขกรับเชิญพิเศษในวันเสาร์ที่ 1 เมษายน 2560 เวลา 17.00 น ณ CDC Crystal Grand Ballroom[11] สมาชิก
ผลงานเพลงอัลบั้ม
ซิงเกิล
ผลงานพิเศษ
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ 2514-2545 (2545)เป็นการรวมผลงานเพลงตั้งแต่ โจ้ เริ่มเข้าวงการ จนถึงงานสุดท้าย ซึ่งจะเป็นผลงานที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มใด ๆ แต่เป็นผลงานที่ โจ้ เคยร้องไว้ในโอกาสต่าง ๆ, เพลงเดโม, เพลงของศิลปินอื่นที่โจ้ชื่นชอบ หรือเป็นเพลงที่ร้องกันเล่น ๆ ในวงพอส[13] นอกจากนี้ยังมี แพ็คเกจบุ้กภายในอัลบั้ม ซึ่งบรรจุภาพถ่ายต่าง ๆ ตั้งแต่วัยเด็กของโจ้ กิจกรรมต่าง ๆ หลากหลายของโจ้ ภาพจากคอนเสิร์ตหลาย ๆ สถานที่ไม่เคยปรากฏจากไหนมาก่อน และผลงานการแสดงตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงงานสุดท้ายในชีวิต ภายในเล่มยังแถมหนังสือ 135F เล่มครบรอบ 10 ปี[14]
และรูปภาพอื่น ๆ มากมาย และการสัมภาษณ์สมาชิกภายในวงพอส และ ธีร์ ไชยเดช Dedicated To Pause (ไว้อาลัยให้โจ้)
หมายเหตุ
PAUSE-Ultimate Collection (ธันวาคม พ.ศ. 2548)[17]รวมรวบผลงานเพลงของพอสที่เป็นที่รู้จัก
Pause Their Journey Video ... The Best Ofเบเกอรี่วางจำหน่ายเพลงจากที่ฮิตของวง โดยจัดทำในรูปของคาราโอเกะ พร้อมภาพมิวสิกวิดิโอ โดยสำหรับภาพปกของอัลบั้มนี้ เป็นภาพสุดท้าย และคอนเสิร์ตสุดท้ายก่อนขึ้นคอนเสิร์ตที่วงพอสแสดงร่วมกัน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2002 ซึ่งเป็นภาพก่อนวันที่ โจ้ อัมรินทร์ จะเสียชีวิตในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2002[18]
Love Memory With Pause (กันยายน พ.ศ. 2556)
Bakery Best Selection (พฤษภาคม พ.ศ. 2558)
Love Memory With Pause (22 มิถุนายน พ.ศ. 2560)
อัลบั้มพิเศษที่ทำร่วมกับศิลปินคนอึ่น
เพลงประกอบ
เพลงเทิดพระเกียรติเพื่อไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
คอนเสิร์ตเดี่ยว
คอนเสิร์ตพิเศษระลึกโจ้
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|