อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์
อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ชื่อเล่น โจ้ หรือรู้จักกันในนาม โจ้ วงพอส (14 ตุลาคม พ.ศ. 2514 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545) เป็นอดีตนักร้องนำของวงพอส โดยมีเอกลักษณ์เด่นคือหัวฟูและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา อีกทั้งเคยได้รางวัลประเภทขับร้องเดี่ยว จากเวที โค้กมิวสิคอวอร์ด ประจำปี 2536 ก่อนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545 ขณะอายุได้ 30 ปี ที่ลิฟท์ ซี-วันแมนชั่น ซอย สุขุมวิท 50 โดยสาเหตุยังคลุมเครือว่าฆาตกรรมหรือฆ่าตัวตาย ฝ่ายครอบครัวเชื่อว่าฆาตกรรม[2] เพราะมีปัญหาความรักกับแฟนสาวไฮโซรวมทั้งเรื่องเงินที่กู้ให้เพื่อนจนต้องพกปืนอยู่บ่อยครั้ง ที่สำคัญก่อนตายพูดทำนองว่า “แม้ปัญหาจะหนักก็ไม่คิดจะจัดการตัวเองด้วยการฆ่าตัวตาย”[3] ประวัติอัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ เป็นชาวอำเภอหนองฉาง อุทัยธานีเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2514 เป็นบุตรคนที่สองจากจำนวนทั้งหมดสี่คน มีพ่อชื่อนายสกล และแม่ชื่อนางพิมพ์ เหลืองบริบูรณ์ อัมรินทร์มีพี่สาว 1 คน น้องชาย 1 คน และน้องสาว 1 คน โดยที่บ้านมักนิยมเรียกว่า "เหี่ยว" [4] และโจ้ เป็นสมาชิกแฟนบอลของลิเวอร์พูลอีกด้วย อัมรินทร์จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอุทัยวิทยาคม จังหวัดอุทัยธานี อัมรินทร์เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยย้ายมาจาก คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ การเข้าสู่วงการเพลงอัมรินทร์เข้าร่วมเวทีประกวดดนตรีเยาวชนชิงถ้วยพระราชทาน โค้กมิวสิคอวอร์ด อยู่หลายครั้ง ในปี 2534 และ 2535 ซึ่งตกรอบสองหน[5] ก่อนชนะการประกวด ใน ครั้งที่ 4 เมื่อปี 2536[6] โดยในการประกวดครั้งนั้นอัมรินทร์ใช้เพลงประกวดได้แก่ เพลง "อย่าหยุดยั้ง" ของวง ดิ โอฬาร โปรเจ็คต์ และเพลง "Carrie" ของวงยุโรป จนคว้ารางวัลชนะเลิศและชิงถ้วยพระราชทาน ประเภทขับร้องเดี่ยว หลังจบการศึกษาวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (ขณะนั้นยังเป็นสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ) เมื่อ พ.ศ. 2538 อัมรินทร์ถูกรับเลือกเข้าร่วมโครงการ ‘College Artists’ ของนิตยสารบันเทิงคดี และพบกับ นอ-นรเทพ มาแสง, เอ-พลกฤษณ์ วิริยานุภาพ ทั้งคู่เป็นนักศึกษาดุริยางคศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ก่อนภายหลังจะมารู้จัก บอส-นิรุจ เดชบุญ รุ่นน้องชั้นปี 1 จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จนมีโอกาสได้เป็นวงแสดงสดในงาน งานของคลื่น “ไพเรท เรดิโอ” ที่ฮาร์ตร็อค คาเฟ่ สยามสแควร์ จนได้มีโอกาสเล่นคอนเสิร์ต bakery on the rock ที่มาบุญครองเล่นเป็นวงเปิดให้แก่อรอรีย์ วงซีเปีย และได้ออกคอนเสิร์ต Alternative party on tour [7] ในปี 2539 ร่วมกับ ซิลลี่ ฟูลส์ ออดี้ วง wizard หลังจากคอนเสิร์ตชุดดังกล่าว วงพอสก็ได้ออกเทปกับเบเกอรี่มิวสิค สู่สมาชิกวงพอสอัมรินทร์ได้เข้ามาเป็นนักร้องวงพอส โดยมีผลงานออกมาทั้งสิ้น 4 อัลบั้มตลอดระยะเวลาช่วง 5 ปี อันประกอบไปด้วย Push (Me) Again - 2539, Evo & Nova-2541, Mild-2542 และ Rewind-2543 โจ้ได้มีโอกาสทำงานเดี่ยวของตัวเองร่วมกับ ธีร์ ไชยเดช ในชื่อชุด Simply Me ก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งในคอนเสิร์ตใหญ่ ’เบเกอรี่เดอะคอนเสิร์ต’ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2544 และร่วมงาน แฟตเฟสติวัล ครั้งที่ 1 ซี่งจัดเมื่อวันที่ 1-2 กันยายน 2544 อุปสมบทเมื่อ พ.ศ. 2544 อัมรินทร์ได้อุปสมบทเพื่อทดแทนแก่พ่อแม่ ที่วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม หรือวัดทุ่งแก้ว จ.อุทัยธานี โดยได้รับฉายาว่า ปิยสีโล. หลังอุปสมบทได้ไม่นาน อัมรินทร์ได้ร่วมงานพิธีแต่งงานของพี่สาวตน ในวันที่ 23 ธันวาคม 2544 ในช่วงวันขึ้นปีใหม่ 2545 อัมรินทร์ได้ร้องเพลง “If” แต่งให้กับแฟนคลับในเว็ปบอร์ด pausefanclub.com เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2545[8] การเสียชีวิตกระทั่งวงพอสได้ออกมาปรากฏตัวกันอีกครั้งพร้อม ๆ กับการวางแผนถึงงานเพลงชุดใหม่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 อัมรินทร์ร่วมงานกับสบู่ลักซ์[9] ต่อมาปีเดียวกันนั้น 16 กุมภาพันธ์ วงพอสได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ต “in the mood of love”[10] ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นับเป็นงานสุดท้ายที่วงร่วมแสดงกับอัมรินทร์ [11] หลังจากนั้นในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 เมื่อเวลา 04.00 น. อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ วัย 31 ปี เสียชีวิตภายในลิฟต์ที่ ซี-วันแมนชั่น ซอยสุขุมวิท 50 ในช่วงเวลากลางดึก มีถุงโจ๊กภายในที่เกิดเหตุ ผลการชันสูตร ตรวจพบว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ในที่เกิดเหตุพบปืนพกกล็อกขนาด 9 มม. พบบาดแผลกระสุนปืนบริเวณขมับด้านขวา พบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่ในลิฟต์อีก 1 ปลอก โดยเบื้องต้นพบว่ามีการทานยากล่อมประสาท พิธีฌาปนกิจศพของโจ้จัดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2545 ที่วัดมณีสถิตปิฏฐาราม[12] แต่ฝ่ายพ่อแม่เชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เพราะก่อนเสียชีวิต ผู้ตายยังบอกว่าหากมีปัญหาก็ตามแต่จะไม่หนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย ในขณะเดียวกันผู้ตายในเวลานั้นคบหาดูใจกับแฟนสาวไฮโซ วารีทิพย์ ศาตะมาน ซึ่งมีปัญหาไม่ลงร่อยลงรอยกับครอบครัว ประกอบกับเพื่อนของผู้ตายมักให้ผู้ตายเป็นนายหน้ากู้เงินธนาคารอยู่บ่อยครั้งจนผู้ตายต้องทวงบ่อยครั้ง ผู้ตายจึงต้องซื้อปืนไว้ป้องกันตัว[13] หลังจากเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2546 กมล สุโกศล แคลปป์ ประธานบริษัท เบเกอรี่มิวสิค พร้อมด้วยสมาชิกวงพอส และ ธีร์ ไชยเดช เป็นผู้ริเริ่มจัดอัลบั้ม อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ 2514-2545 และนำรายได้จากการจำหน่ายอัลบั้มจำนวน 500,000 บาท มอบให้กับครอบครัว เหลืองบริบูรณ์ ณ ห้องประชุมใหญ่ บริษัท บี เอ็ม จี อาคารวานิสสา ชั้น 18 (ภายหลังมีการแจกจ่ายมิวสิคเพลง " รักเธอทั้งหมดของหัวใจ" โดยนำรูป โจ้ วงพอสมาเป็นปกชุด ซึ่งผู้สนใจสามารถมารับได้ที่เบเกอรี่มิวสิค)[14] ในปี พ.ศ. 2556 อัตชีวิตของโจ้ วงพอสยังถูกนำเสนอผ่านหนังแนวสืบสวนสอบสวน “IS AM ARE : A reason to live for” เหตุผล(ต่อ)ลมหายใจ เรื่อง “เฟย์”[15] ภายใต้การกำกับของ คลี - พัสวีพิชญ์ ศรณ์อัครภา[16] โดยฉายแค่โรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ คือโรงภาพยนตร์ลิโด[17] วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 14 ปีการเสียชีวิตของโจ้ วงพอสโดยปล่อยเพลง รักอยู่รอบกาย ลงบนแชแนลของวง [1] ซึ่งเพลงดังกล่าวได้ทำการบันทึกไว้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2545 ก่อนที่โจ้จะเสียชีวิต โดยโจ้ได้ขับร้องไว้เพียงแค่ท่อนเดียว ความยาวประมาณครึ่งนาที แต่สมาชิกในวงที่เหลือ 3 คน รวมถึงฟองเบียร์ - ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม นักแต่งเพลง ได้นำมาเรียบเรียงเป็นเพลง "รักอยู่รอบกาย" และแต่งเนื้อร้องเพิ่มเพื่อให้เพลงมีความสมบูรณ์[18] ผลงานผลงานวงดนตรี
ผลงานในเครือเบเกอรี่มิวสิค
อยากกลับไปอีกครั้ง (Time Trip) - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ & สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์
พ่อ (Dad) - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์[19]
อยากกลับไปอีกครั้ง (Time Trip) - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ & สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์
วันใหม่ - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์
เติมใจให้กัน - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ผลงานในเครือแกรมมี่
รักเธอมากกว่า - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์
คนไม่มีวาสนา - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์
คนไม่มีวาสนา - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์
รักเธอทั้งหมดของหัวใจ - อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ ศิลปินรับเชิญ
ผลงานเดี่ยว
คอนเสิร์ตพิเศษ
รางวัล
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
|