ยางรักยางรัก คือน้ำยางที่เก็บได้จากไม้ในสกุล Gluta และ Toxicodendron ซึ่งเป็นสกุลไม้ยืนต้น ในวงศ์มะม่วง (Anacardiaceae) โดยยางที่ได้นำมาใช้ประโยชน์เป็นสารเคลือบในการผลิตเครื่องลงรัก ใช้ประโยชน์งานวิจิตรศิลป์เป็นตัวยึดติดในการปิดประดับทองคำเปลว เงินเปลว ผงทอง ผงโลหะมีค่าต่าง ๆ เป็นต้น หรือใช้เป็นกาวธรรมชาติในการซ่อมแซมเครื่องใช้เซรามิคที่ชำรุด ซึ่งเป็นเทคนิคของญี่ปุ่นเรียกว่า คินสึกิ (ญี่ปุ่น: 金継ぎ; โรมาจิ: kintsugi; ทับศัพท์: คินสึกิ)[1] ชนิดของยางรักยางรักโดยทั่วไปที่นำมาใช้ในการทำงานรักมีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด ซึ่งได้มาจากพืชต่างชนิดพรรณกันคือ ยางรักใหญ่ยางรัก ยางรักดำ ยางรักใหญ่ ยางรักพม่า เป็นยางไม้ที่ได้จากต้นรักใหญ่ หรือต้นฮักหลวง (คำเมือง) (Gluta usitata) เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์มะม่วง (Anacardiaceae) สามารถพบได้ในป่าผสมพลัดใบ ป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา รวมถึงป่าเขาหินปูน พบที่ความสูง 300-1,000 เมตรจากระดับทะเล พันธุ์นี้กระจายอยู่ในเขตร้อนของทวีปเอเชียตั้งแต่อินเดียถึงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบมากในป่าเต็งรังและป่าเต็งรังผสมสน โดยเฉพาะในทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย[2] ขนาดไม้ที่เริ่มเจาะยางรักได้นั้น วัดโดยรอบลำต้นตั้งแต่ 80 ซม. ขึ้นไป ฤดูเจาะยางรักเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมไปจนถึงสิ้นปี ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไปต้นรักจะเริ่มผลัดใบ เป็นระยะออกดอกออกผล อันเป็นระยะพักของการเจาะยางรัก เนื่องจากเพราะหน้าแล้ง ปริมาณน้ำน้อย จึงทำให้ได้ยางรักน้อย ฤดูพักตั้งแต่ปลายมกราถึงเดือนพฤษภาคม คุณภาพของยางรักขึ้นอยู่กับฤดูที่่เก็บเกี่ยวโดยยางที่เก็บเกี่ยวในฤดูหนาวจะเป็นยางที่คุณภาพดีที่สุด ยางรักที่ได้จากต้นรักใหญ่มีสารสำคัญคือ thisiol ซึ่งมาจากคำว่า thitsi (သစ်စေ) ซึ่งเป็นคำเรียกยางรักรวมถึงต้นรักชนิดนี้ในภาษาพม่า ยางรักชนิดนี้เมื่อแรกเจาะจะมีสีเทาขุ่น เมื่อถูกอากาศจะกลายเป็นสีดำ มีความเป็นเงา[3] ยางรักใหญ่แบ่งคุณภาพได้เป็น 3 ชั้น ซึ่งเป็นวิธีการจัดคุณภาพยางรักแบบภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยเป็นการแบ่งตามช่วงระยะเวลาที่เก็บเกี่ยว
ยางรักจีนยางรักจีน หรือ ยางรักญี่ปุ่น เป็นยางไม้ที่ได้จากต้นรักจีน (Toxicodendron vernicifluum) มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน และอนุทวีปอินเดีย ปลูกในภูมิภาคต่าง ๆ ของจีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี[4] ลำต้นสูงได้ 20 เมตร มีใบขนาดใหญ่ แต่ละใบมีใบย่อยตั้งแต่ 7 ถึง 19 ใบ (ส่วนใหญ่มักจะเป็น 11–13 ใบ) ในญี่ปุ่นมีการปลูกมากทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือกับทางเหนือและใต้ของประเทศญี่ปุ่น ในแง่คุณสมบัติแล้วยางรักจีนหรือยางรักญี่ปุ่นมีคุณภาพบริสุทธิ์เหนือกว่ายางรักชนิดอื่น ๆ[3] ยางรักที่ได้จากต้นรักจีนมีสารสำคัญคือ urushiol ซึ่งมาจากคำว่า อุรุชิ (ญี่ปุ่น: 漆; โรมาจิ: urushi; ทับศัพท์: อุรุชิ) ซึ่งเป็นคำเรียกยางรักจีนและต้นรักจีนในภาษาญี่ปุ่น ยางรักจีนหรือยางรักญี่ปุ่นแบ่งได้เป็น 4 ลักษณะซึ่งแยกตามลักษณะการใช้งานคือ
ยางรักเวียดนามยางรักเวียดนาม เป็นยางไม้ที่ได้จากต้นรักเวียดนาม หรือ แกนมอ (Toxicodendron succedaneum) อยู่ในสกุลเดียวกันกับรักญี่ปุ่น ต้นรักอายุ 5-6 ปีจะมีความสูงประมาณ 5 เมตร การเก็บยางรักในประเทศเวียดนาม เริ่มทำได้ตั้งแต่รักอายุประมาณ 2 ปี 4 เดือน จนกระทั่งต้นรักอายุได้ 6-7 ปี การเก็บยางรักทำได้ตลอดปี ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง แต่การกรีดยางมักไม่นิยมทำกันในฤดูฝน ยางรักที่ได้จากต้นรักเวียดนามมีสารสำคัญคือ laccol อยู่ในจำพวกเดียวกับ urushiol ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของรักญี่ปุ่น แต่เมื่อเทียบกันแล้วคุณภาพต่ำกว่ารักญี่ปุ่นเล็กน้อย รักที่เก็บได้มักมีเปลือกไม้และของอื่นเจือปนอยู่ด้วย[3] ขั้นตอนการผลิตเก็บเกี่ยวการเก็บเกี่ยวยางรักทำได้โดยวิธีกรีดเจาะยางรักจากต้นรัก โดยมีวิธีกรีด 4 วิธีคือ 1. การกรีดแบบท้องถิ่นการกรีดแบบท้องถิ่น (ภาคเหนือ) เป็นวิธีที่นิยมใช้กันเป็นประจำในการเก็บเกี่ยวยางรักในภาคเหนือของไทย วิธีการคือเปิดปากแผลเป็นรูปตัววี (V) โดยแซะเปลือกให้เป็นร่องจนถึงกระพี้ ใช้กระบอกไม้ไผ่ตอกตอดกับต้องรักรองรับน้ำยางตรงจุดปลายแหลมของแผลรูปตัววี ให้น้ำยางไหลลงกระบอก ท้งไว้ 10 วัน จึงกลับมาเก็บน้ำยางรัก เมื่อเก็บแล้วทำการเปิดแผลให้กว้างขึ้นทางสูง ทิ้งไว้ 10 วันจึงกลับมาเก็บยางรัก แล้วเปิดปากแปลให้กว้างขึ้นไปข้างบนอี ทิ้งไว้อีก 10 วันจึงไปเก็บยางรัก ถ้าเห็นว่าต้นรักยังคงให้น้ำยางดีอยู่ให้เปิดแผลให้กว้างเต็มเนื้อที่ภายในรูปตัววี ทิ้งไว้ 10 วันจึงไปเก็บยางรักครั้งสุดท้าย รวมเวลาทั้งหมด 40 วัน 2. การกรีดแบบญี่ปุ่นเตรียมแผลโดยการค่อย ๆ เปิดเปลือกเพียงผิวไม่ให้ลึกเพื่อให้น้ำยางรักมาคั่งอยู่บริเวณรอบ ๆ แปล แต่ละแผลห่างกันประมาณ 4-5 ซม ให้เป็นระเบียบแล้วเปิดแผลรูปขีดขวางกับลำต้นยาวประมาณ 5-8 ซม กรีดซ้ำอีกครั้งแล้วทิ้งไว้ 4-5 วันจึงกลับมาใช้พายขูดน้ำยางที่ค้างอยู่ที่แผลที่เจาะไว้ นำไปใส่ภาชนะ พร้อมกับกรีดแผลใหม่เหนือแผลเดิมประมาณ 1-2 ซม แล้วเก็บน้ำยางรักพร้อมกับกรีดแผลใหม่แล้วทิ้งไว้ 4-5 วันทำเช่นนี้เรื่อยไปจนครบ 3 แผล รวมระยะเวลาการเจาะยางรักแบบญี่ปุ่นทั้งหมด 12 - 15 วัน การเจาะยางรักทำตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนจนถึงปลายเดือนตุลาคม 3. การกรีดแบบเวียดนามเตรียมแผลปบบเดียวกับวิธีเจาะยางรักแบบญี่ปุ่น เพื่อให้ยางรักมาคั่งบริเวณแผลก่อน แล้วใช้เครื่องมือกรีดเป็นรูปตัววี รองรับน้อยยางด้วยกระบอกไม้ไผ่ทิ้งไว้ 5 วัน จึงกลับมาเก็บยางรักพร้อมกับเปิดแผลใหม่ให้เป็นรูปตัววี สูงขึ้นไปอีก 3 ซม. ทำเรื่อยไปจนครบ 3 แผล รวมระยะเวลาเจาะยางรักแบบเวียดนามทั้งหมด 15 วัน 4. การกรีดแบบผสมเตรียมแผลโดยแซะผิวให้เป็นรูปขีดขวางลำต้นลึกถึงกระพี้ เพื่อให้น้ำยางมาคั่งอยู่รอบ ๆ บริเวณแผลแล้วเปิดเปลือกเป็นรูปตัววี เหนือรอยขีดขวาง ใช้กระบอกไม้ไผ่รองรับ 5 วันจึงไปเก็บยางรัก พร้อมทั้งกรีดแผลเป็นรูปตัววใหม่เหนือแผลเดิมขึ้นไปประมาณ 3-4 ซม. หลังจากนั้น 5 วันก็ไปเก็ยน้ำยางรักพร้อมทั้งเจาะแผลรูปตัววีใหม่ แต่ต้องกรีดตรงกลางที่ระยะระหว่างปลายแปลมของรูปตัววีให้ติดต่อกันเพื่อเป็นทางไหลของน้ำรัก รวมเวลาทำการเจาะเก็บยางรักแบบผสมทั้งหมด 15 วัน[3] การปรับปรุงคุณภาพในแต่ละวัฒนธรรมการใช้ยางรักก็มีวิธีการปรับปรุงคุณภาพยางรักก่อนนำไปใช้งานที่แตกต่างกันไปในรายละเอียด แต่ก็มีวิธีการหลัก ๆ ร่วมกันอยู่ 2 วิธีการคือ การทำให้ตกตะกอนและการกรองแยกสิ่งสกปรก การทำให้ตกตะกอน
การกรองแยกสิ่งสกปรกการกรองเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ปรับปรุงคุณภาพยางรัก โดยการกรองเอาเศษสิ่งสกปรกต่างที่เจือปนในยางรักออกโดยใช้ตะแกรงหรือผ้าในการกรอง ในการทำยางรักใหญ่นั้นชาวบ้านจะนำยางรักมากรองโดยการไล่ระดับเป็นชั้น ๆ เริ่มจากหยาบไปจนถึงละเอียด โดยการใช่ตาข่ายไนลอนและผ้าตาถี่เพื่อให้ได้น้ำยางรักที่สะอาดที่สุดในขั้นตอนสุดท้าย[10] ซึ่งยางรักที่ได้จากการกรองในชั้นนี้ใช้สำหรับทารองพื้น หลังจากนั้นจึงนำยางรักที่กรองในชั้นนี้ไปกรองต่อด้วยกระดาษสาอีกประมาณ 3 ครั้งเพื่อที่จะได้ยางรักที่ใช้สำหรับลงเงาขั้นสุดท้าย[11] ส่วนการกรองของยางรักจีนหรือรักญี่ปุ่นนั้นจะกรองโดยเยื่อกระดาษกรองเฉพาะที่มีความละเอียดสูง ทำให้น้ำยางรักที่ได้ในขั้นตอนสุดท้ายนั้นมีความสะอาดมากที่สุดก่อนนำไปใช้ โดยจะทำการกรองใหม่ทุกครั้งก่อนใช้ เทคนิคเฉพาะการทำยางรักญี่ปุ่นการทำยางรักใสและยางรักดำด้วยเทคนิคเฉพาะของญี่ปุ่นประกอบไปด้วย 2 ขั้นตอนหลักคือ
อ้างอิง
|